เหลย์ ก๊าเส่ง
เหลย์ ก๊าเส่ง (ภาษากวางตุ้ง[3][4]) หรือ หลี เกียเซ้ง (ภาษาแต้จิ๋ว, เพ็งอิม: Li2 Gia1-sêng5[5][6][7]) หรือ หลี่ เจียเฉิง (ภาษาจีนกลาง[8][9]) (เกิดวันที่ 29 กรกฎาคม 2471 ณ เมืองแต้จิ๋ว, ประเทศจีน)[10][11] เป็นนักธุรกิจใหญ่ชาวฮ่องกง นักลงทุน และนักการกุศล ตามนิตยสารฟอบส์ โดยเดือนพฤศจิกายน 2558 เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชีย โดยมีประเมินทรัพย์สินสุทธิที่ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,190,167 ล้านบาท)[12] เขาเป็นประธานกรรมการของบริษัท CK Hutchison Holdings โดยปี 2558 ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการสถานีคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพและเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลก[13] นิตยสาร เอเชียวีก จัดเขาว่าเป็น "คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย" ในปี 2544[ต้องการอ้างอิง]
The Honourable Sir เหลย์ก๊าเส่ง 李嘉誠 Grand Bauhinia Medal, Order of the British Empire, Justice of the Peace | |
---|---|
李嘉誠 | |
เหลย์ ก๊าเส่งในเดือนกันยายน 2553 | |
เกิด | เมืองแต้จิ๋ว, สาธารณรัฐจีน | 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1928
พลเมือง | สาธารณรัฐประชาชนจีน(ฮ่องกง) แคนาดา |
การศึกษา | ลาออกจากโรงเรียน[1] |
อาชีพ | ประธานบริษัท CK Hutchison Holdings, Cheung Kong Property Holdings, และประธานมูลนิธิ Li Ka Shing Foundation |
คู่สมรส | จวาง เยวี่ยหมิง (莊月明, เสียชีวิตแล้ว) |
บุตร | หลี่ เจ๋อจวี้ (李澤鉅, Victor Li Tzar Kuoi) หลี่ เจ๋อไข่ (李澤楷, Richard Li Tzar Kai) |
รางวัล | Justice of the Peace (1981) Doctor of law (1986) Doctor of Social Science (1995) |
เหลย์ ก๊าเส่ง | |||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 李嘉誠 | ||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวย่อ | 李嘉诚 | ||||||||||||||||||||||
|
กลุ่มบริษัทของเขาประเมินว่ามีค่าถึง 15% ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง[14] นิตยสาร ฟอบส์ และตระกูลฟอบส์ให้รางวัล Malcolm S. Forbes Lifetime Achievement Award แก่เขาเป็นคนแรกในปี 2549 ในประเทศสิงคโปร์[15] แม้ว่าจะร่ำรวยมาก แต่เขากลับมีชื่อเสียงในการใช้ชีวิตอย่างสมถะ โดยมักจะใส่รองเท้าสีดำธรรมดาและนาฬิกาไซโก้ที่มีราคาไม่แพงมาก แต่เขาก็มีบ้านอยู่ในเขตที่แพงที่สุดที่หนึ่งในเกาะฮ่องกง และเป็นนักการกุศลที่ใจกว้างที่สุดคนหนึ่งในเอเชีย คือได้บริจาคทรัพย์เกินกว่า 2,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 77,843 ล้านบาท)
เนื่องจากว่าบิดาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อย ๆ ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียนก่อนอายุ 15 ปี แล้วทำงานในบริษัทขายพลาสติกซึ่งเขาต้องทำงานกว่า 16 ชม.ต่อวัน ต่อมาในปี 2493 (อายุ 22 ปี) เขาจึงตั้งบริษัทของตนเองชื่อว่าโรงงานพลาสติกเฉิ่งก๊อง (長江塑膠廠, cháng jiāng sù liào chǎng, Cheung Kong Industries)[16] เริ่มต้นจากการผลิตพลาสติกโดยเฉพาะดอกไม้ประดิษฐ์ ต่อมาเขาได้ทำธุรกิจหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือ โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต โทรศัพท์มือถือ และเหลย์ได้สร้างบริษัทของเขาให้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในฮ่องกงแล้วเริ่มขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2515[17][18]
รางวัลและเกียรติยศ
แก้- Grand Bauhinia Medal
- Knight Commander of the Order of the British Empire[19]
- เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์
การกุศล
แก้- การบริจาคในปี 2524 ของเขามีผลเป็นการจัดตั้งมหาวิทยาลัยซัวเถา (汕头大学, 汕頭大學) ใกล้บ้านเกิดของเขาในเมืองแต้จิ๋ว
- เติ้ง เสี่ยวผิงได้เชิญให้เขาเป็นคณะกรรมการของ China International Trust and Investment Corporation เพื่อสนับสนุนการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของจีน CITIC เป็นเครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในนประเทศจีนโดยมีรัฐบาลจีนถือหุ้น 42% เป็นองค์การการลงทุนหลักของรัฐบาลและมีสถานะเป็นกระทรวงในการปกครองของจีน แต่ว่า เหลย์ทำงานเป็นกรรมการเพียงแค่ปีเดียวก่อนที่จะลาออก เขายังเป็นกรรมการบริษัทไม่ใช่ผู้บริหารของฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่นตั้งแต่ปี 2523 และกลายเป็นรองประธานในปี 2528 นอกจากนี้เขายังเป็นรองประธานของ HSBC Holdings ในปี 2534-2535 อีกด้วย
- ในเดือนกันยายน 2544 มีอาคารใหม่ที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกงที่ตั้งชื่อตามเขา หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้รับบริจาคทุนทรัพย์ 100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 568 ล้านบาท)[20]
- มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เปิดศูนย์เหลย์ก๊าเส่งซึ่งส่วนหนึ่งใช้เพื่องานวิจัยโรคมะเร็ง (Cancer Research UK) หลังจากที่ได้รับบริจาคทุนทรัพย์เป็นจำนวน 5.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 332 ล้านบาท)[21] และมูลนิธิเหลย์ก๊าเส่งตั้งทุนเป็นจำนวน 2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 130 ล้านบาท) เพื่อตำแหน่งศาสตราจารย์วิทยามะเร็งที่มหาวิทยาลัยในปี 2550[22]
- ในเดือนพฤศจิกายน 2545 มีการจัดตั้งวิทยาลัยธุรกิจเฉิ่งก๊อง (长江商学院, Cheung Kong Graduate School of Business) ในประเทศจีนโดยอาศัยทุนบริจาคขนาดใหญ่จากมูลนิธิเหลย์ก๊าเส่ง[23]
- มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (新加坡管理大學, Singapore Management University) จัดตั้งห้องสมุดเหลย์ก๊าเส่ง เพื่อยกย่องการบริจาคทรัพย์เป็นจำนวน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 474 ล้านบาท) ให้แก่มหาวิทยาลัย[24]
- เพื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 เขาได้บริจาคทรัพย์เป็นจำนวน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 121 ล้านบาท)
- ในปี 2548 เขาประกาศบริจาคทรัพย์จำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 5,183 ล้านบาท) ให้แก่คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งเปลี่ยนชื่อของคณะเป็นคณะแพทย์เหลย์ก๊าเส่ง ซึ่งสร้างข้อโต้เถียงกับศิษย์เก่าของคณะที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ
- ในปี 2548 เขาได้บริจาคทรัพย์ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ โดยอ้างว่าเขารู้สึกประทับใจกับความสำเร็จของมหาวิทยาลัยในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยจึงได้ตั้งชื่ออาคารใหม่ที่เปิดใช้เมื่อปี 2554 ว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชีวภาพและสุขภาพเหลย์ก๊าเส่ง (Li Ka Shing Center for Biomedical and Health Sciences)[25]
- โดยเป็นผู้สนับสนุนของ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมานานแล้วตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เขาได้เป็นผู้บริจาคหลักมีมูลค่า 90 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,875 ล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์การศึกษาและความรู้เหลย์ก๊าเส่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานใหญ่ของคณะแพทยศาสตร์[26]
- วันที่ 9 มีนาคม 2550 เขาได้บริจาคทรัพย์เป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,261 ล้านบาท) ให้กับ Lee Kuan Yew School of Public Policy (คณะนโยบายรัฐ) ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และดังนั้น เพื่อจะยกย่องการสนับสนุนและความใจกว้างของเขา มหาวิทยาลัยจึงตั้งชื่ออาคารหนึ่งให้เป็นชื่อเขา[27]
- เขาได้บริจาคทรัพย์เป็นจำนวน 25 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 806 ล้านบาท) ให้แก่ ร.พ.เซนต์ไมเคิลส์ ในเมืองโทรอนโตประเทศแคนาดาเพื่อตั้งสถาบันความรู้เหลย์ก๊าเส่ง (李嘉誠知識研究中心, Li Ka-Shing Knowledge Institute) ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์การศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ ในปี 2548[28]
- เขาบริจาคทรัพย์ 25 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 804 ล้านบาท) ให้มหาวิทยาลัยแอลเบอร์ตาในประเทศแคนาดาเพื่อตั้ง สถาบันวิทยาไวรัสเหลย์ก๊าเส่ง[29]
- มูลนิธิเหลย์ก๊าเส่งได้บริจาคทรัพย์ 30 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 125 ล้านบาท) เพื่อช่วยผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน พ.ศ. 2551[30]
- เขาบริจาคทรัพย์ 6.6 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 203 ล้านบาท) ให้แก่มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ในปี 2556 เพื่อตั้งโปรแกรมการศึกษาระหว่างประเทศโดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยซัวเถา[31]
- ในปี 2556 เขาบริจาคทรัพย์มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 59 ล้านบาท) ให้แก่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก เพื่อสนับสนุนโครงการการให้ยาที่แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อใช้สร้างเครือข่ายแพทย์และนักวิจัยทั่วโลก เริ่มโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างมหาวิทยาลัยและประเทศจีน และสร้างโปรแกรมเภสัชวิทยาที่จะพัฒนาการให้ยาอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น[32]
เชิงอรรถและอ้างอิง
แก้- ↑ "Li Ka-shing". Nndb.com. สืบค้นเมื่อ 2011-05-11.
- ↑ http://www.celebritynetworth.com/richest-businessmen/richest-billionaires/li-ka-shing-net-worth/
- ↑ "pronouncekiwi - How To Pronounce 李嘉誠". pronouncekiwi. Chinese (Hong Kong) Pronunciation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-24. สืบค้นเมื่อ 2016-04-23.
- ↑ "How to pronounce 李嘉誠". Forvo. 李嘉誠 pronunciation in Cantonese. สืบค้นเมื่อ 2016-04-23.
- ↑ "李". Teochew Mogher. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25. สืบค้นเมื่อ 2016-04-26.
- ↑ "嘉". Teochew Mogher. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25. สืบค้นเมื่อ 2016-04-26.
- ↑ "誠". Teochew Mogher. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-25. สืบค้นเมื่อ 2016-04-26.
- ↑ "pronouncekiwi - How To Pronounce 李嘉誠". pronouncekiwi. Chinese (China) Pronunciation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-24. สืบค้นเมื่อ 2016-04-23.
- ↑ "How to pronounce 李嘉誠". Forvo. 李嘉誠 pronunciation in Mandarin Chinese. สืบค้นเมื่อ 2016-04-23.
- ↑ "Silobreaker: Biography for Li Ka-Shing". Silobreaker. 2006-09-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-06. สืบค้นเมื่อ 2008-06-12.
- ↑ "Li Ka-shing". Encyclopædia Britannica. Chicago, Illinois: Encyclopædia Britannica, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-06-12.
- ↑ "Li Ka-shing Net Worth". Cerebrity Net Worth. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-28. สืบค้นเมื่อ 2015-09-28.
- ↑ "The World's Billionaires No. 11 Li Ka-shing". Forbes. 2008-03-05. สืบค้นเมื่อ 2008-12-01.
- ↑ Schuman, Michael (2010-02-24). "The Miracle of Asia's Richest Man". Forbes. สืบค้นเมื่อ 2012-02-28.
- ↑ "Li Ka Shing Foundation :: Li Ka-shing Receives First Malcolm S. Forbes Lifetime Achievement Award". PR Newswire. 2006-09-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-27. สืบค้นเมื่อ 2016-05-24.
- ↑ "CK Hutchison Holdings Limited - About Us > Milestones". ckh.com.hk.
- ↑ "李嘉誠替唐英年解畫5分鐘 – 新浪網 – 新聞". Sina Corp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-28. สืบค้นเมื่อ 2011-08-05.
- ↑ "Profile - Ka-shing Li". Forbes.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKBE
- ↑ "PolyU names new tower after Li Ka-shing". Hutchison Whampoa Limited (HWL). 2001-09-19. สืบค้นเมื่อ 2012-10-10.
- ↑ "State-of-the-Art Cancer Research Centre Opens in Cambridge Supported by a £5.3 million donation from Hutchison Whampoa". Lksf.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-11. สืบค้นเมื่อ 2012-02-28.
- ↑ "Li Ka-shing endows new oncology professorship at Cambridge". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-16. สืบค้นเมื่อ 2016-05-24.
- ↑ "About CKGSB". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-09.
- ↑ "Donation to go towards Endowment in Support of the Library and SMU Scholarships". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-09. สืบค้นเมื่อ 2016-05-24.
- ↑ Sanders, Robert (2005-06-23). "$40 million gift from Li Ka Shing Foundation boosts health science research". UC Berkeley Media Relations. สืบค้นเมื่อ 2009-05-12.
- ↑ "Stanford medical school building to promote high-tech learning - with comfort". Inside Stanford Medicine. 2010-05-10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-12. สืบค้นเมื่อ 2013-12-08.
- ↑ "LKY School of Public Policy receives $100 million from business leader". National University of Singapore. 2007-03-12.
- ↑ "The St. Michael's Story - Milestone". St. Michael's Hospital. 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-04. สืบค้นเมื่อ 2016-04-30.
- ↑ "Li Ka-shing donates C$28 million to the University of Alberta". 2010-04-23. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-07.
- ↑ "Hong Kong makes voluntary donations for Sichuan earthquake". Xinhua News Agency. 2008-05-14. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-07. สืบค้นเมื่อ 2012-02-28.
- ↑ "Building bridges across the Pacific". McGill University. 2013-09-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-17.
- ↑ "Li Ka Shing Gift Supports UCSF Quest for Precision Medicine". UCSF. 2013-03-22. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-05. สืบค้นเมื่อ 2013-12-08.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Profile เก็บถาวร 2012-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at Cheung Kong Holdings