ราชวงศ์จักรี

ราชวงศ์แห่งราชอาณาจักรไทย
(เปลี่ยนทางจาก พระราชวงศ์จักรี)

ราชวงศ์จักรี เป็นราชวงศ์ถัดจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี ซึ่งปกครองราชอาณาจักรที่สืบทอดกรุงศรีอยุธยามาจนเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง) ขุนนางซึ่งดำรงตำแหน่งสมุหนายก (จักรี) ในราชสำนักของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ยึดอำนาจการปกครองและปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าตากสิน และปราบดาภิเษกตนขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แทน (ภายหลังปรากฏพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325[2] แล้วย้ายศูนย์กลางการปกครองจากกรุงธนบุรีมายังกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 ซึ่งเป็นเมืองหลวงมาจนถึงปัจจุบัน[3]

ราชวงศ์จักรี
พระราชอิสริยยศพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา[1]
(พ.ศ. 2325–2399)
พระเจ้ากรุงสยาม
(พ.ศ. 2399–2492)
พระมหากษัตริย์ไทย
(พ.ศ. 2492–ปัจจุบัน)
ปกครองไทย ราชอาณาจักรไทย
เชื้อชาติไทย จีน มอญ
ภายหลังเพิ่มเปอร์เซีย
สาขา84 ราชสกุล
42 บวรราชสกุล
จำนวนพระมหากษัตริย์10 พระองค์
ประมุขพระองค์แรกพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ผู้นำสกุลองค์ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ช่วงระยะเวลาพ.ศ. 2325–ปัจจุบัน
สถาปนา6 เมษายน พ.ศ. 2325

เอกสารหลายฉบับ ทั้งของไทยและของต่างชาติ อ้างถึงความวุ่นวายทางการเมืองในปลายรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินว่า เป็นผลมาจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมีพระจริยวัตรผิดแผกไป จนสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งอยู่ขณะนำทัพไปเขมร ต้องเดินทางกลับมาระงับเหตุ แล้วปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ก่อนขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แทน อันเป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์จักรี[4] จากนั้น ราชวงศ์จักรีได้ปราบปรามเชื้อสายของสมเด็จพระเจ้าตากสิน เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) บันทึกว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท พระราชอนุชาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงให้ "เอาบุตรชายน้อย ๆ ของเจ้าตากสิน...ใส่เรือไปล่มน้ำเสียให้สิ้น" โดยทรงอ้างถึงคำโบราณว่า "ตัดหวายอย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก"[5] และพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงประหารหม่อมเหม็น พระราชโอรสของพระเจ้าตากสิน เมื่อ พ.ศ. 2352 ในเหตุการณ์ที่อ้างว่า มีนกกาคาบหนังสือแจ้งเหตุกบฏมาทิ้งที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท[6][7]

ในด้านเชื้อสายของราชวงศ์จักรีนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) มีพระราชหัตถเลขาว่า ต้นตระกูลของราชวงศ์จักรีมิใช่ไทยแท้ แต่เป็นมอญผสมจีนที่สืบทอดกันมาจนถึงสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (ทองดี) พระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก[8] และมีผู้เสนอทฤษฎีว่า ราชวงศ์จักรีอาจสืบเชื้อสายมาจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอาจทำให้มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติย้อนไปถึงราชวงศ์พระร่วงที่สืบสายกันในกรุงสุโขทัย[9]

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นทรงราชย์นั้น ถือกันว่า เป็นวันสถาปนาราชวงศ์จักรี[10] เรียกกันว่า วันจักรี[11] และมีการกำหนดให้วันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันหยุดราชการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2468 เป็นอย่างน้อย[12]

ราชวงศ์จักรีใช้สัญลักษณ์เป็นรูปตรีศูลในวงจักรสุทรรศน์ ซึ่งเป็นอาวุธของพระนารายณ์ เทวดาในศาสนาฮินดู[13] ด้วยเหตุผลว่า คำว่า "จักร" และ ตรี" สอดคล้องกับชื่อ "จักรี" ของราชวงศ์[9]

พระบรมวงศานุวงศ์

พระบรมวงศานุวงศ์ไทยในปัจจุบันสืบราชสมบัติภายในราชสกุลมหิดล ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก[14] กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สังวาลย์ ตะละภัฏ) โดยสมเด็จพระบรมราชชนกนั้นเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า (สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี) ถือเป็นพระอนุชาต่างพระมารดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระเชษฐาต่างพระมารดาในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระอนุชาคือสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลเดช (ปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) จึงได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ในวันเดียวกัน และภายหลังได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร) พระธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ (หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร) กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร (สนิทวงศ์) มีพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวคือพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน

รายพระนามพระบรมวงศานุวงศ์

รายพระนามพระอนุวงศ์

พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า

พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้า

เครือญาติและผู้เกี่ยวกับพระบรมวงศานุวงศ์

รายพระนาม

พระมหากษัตริย์ไทย

ลำดับ พระบรมฉายาลักษณ์และพระปรมาภิไธย ครองราชย์ ระยะเวลา
รัชกาลที่ 1
 
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
6 เมษายน พ.ศ. 2325 - 7 กันยายน พ.ศ. 2352 27 ปี 154 วัน
รัชกาลที่ 2
 
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
7 กันยายน พ.ศ. 2352 - 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 14 ปี 317 วัน
รัชกาลที่ 3
 
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 - 2 เมษายน พ.ศ. 2394 26 ปี 255 วัน
รัชกาลที่ 4
 
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
2 เมษายน พ.ศ. 2394 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 17 ปี 182 วัน
รัชกาลที่ 5
 
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 42 ปี 22 วัน
รัชกาลที่ 6
 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 15 ปี 34 วัน
รัชกาลที่ 7
 
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2478
(สละราชสมบัติ)
9 ปี 96 วัน
รัชกาลที่ 8
 
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
2 มีนาคม พ.ศ. 2478 - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 11 ปี 99 วัน
รัชกาลที่ 9
 
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 70 ปี 126 วัน
รัชกาลที่ 10
 
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 - ปัจจุบัน 8 ปี 37 วัน

สมเด็จพระบรมราชินี

ลำดับ พระฉายาลักษณ์และพระนามาภิไธย ราชาภิเษกสมรส ดำรงตำแหน่ง
รัชกาลที่ 1
 
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
ราว พ.ศ. 2303 6 เมษายน พ.ศ. 2325 - 7 กันยายน พ.ศ. 2352
(พระราชสวามีสวรรคต)
รัชกาลที่ 2
 
สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
ราว พ.ศ. 2344 7 กันยายน พ.ศ. 2352 - 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367
(พระราชสวามีสวรรคต)
รัชกาลที่ 4
 
สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
1 เมษายน พ.ศ. 2394 ราว พ.ศ. 2396 - 9 กันยายน พ.ศ. 2404
(สวรรคต)
รัชกาลที่ 5
 
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
(พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
พ.ศ. 2421 พ.ศ. 2440 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453
(พระราชสวามีสวรรคต)
รัชกาลที่ 6
 
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี
(พระวรราชชายา)
พ.ศ. 2464 พ.ศ. 2465 - 15 กันยายน พ.ศ. 2468
(ลดพระอิสริยยศเป็นพระวรราชชายา)[16]
รัชกาลที่ 7
 
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
สิงหาคม พ.ศ. 2461 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2478
(พระราชสวามีสละราชสมบัติ)
รัชกาลที่ 9
 
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
(พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
28 เมษายน พ.ศ. 2493 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559
(พระราชสวามีสวรรคต)
รัชกาลที่ 10
 
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน

กรมพระราชวังบวรสถานมงคล

รัชสมัย พระฉายาลักษณ์และพระนามาภิไธย ดำรงตำแหน่ง
รัชกาลที่ 1
 
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
พ.ศ. 2325 - 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2346
(สวรรคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)
 
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
พ.ศ. 2349 - 7 กันยายน พ.ศ. 2352
(สืบราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2)
รัชกาลที่ 2
 
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์
พ.ศ. 2352 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2360
(สวรรคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)
รัชกาลที่ 3
 
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ
พ.ศ. 2367 - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2375
(สวรรคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)
รัชกาลที่ 4
 
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 - 7 มกราคม พ.ศ. 2408
(สวรรคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)
รัชกาลที่ 5
 
กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
พ.ศ. 2411 - 28 สิงหาคม พ.ศ. 2428
(ทิวงคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)

กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข

รัชสมัย พระฉายาลักษณ์และพระนามาภิไธย ดำรงตำแหน่ง
รัชกาลที่ 1
 
สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์
พ.ศ. 2328 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2349
(ทิวงคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)

สยามมกุฎราชกุมาร

รัชสมัย พระฉายาลักษณ์และพระนามาภิไธย ดำรงตำแหน่ง
รัชกาลที่ 5
 
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
14 มกราคม พ.ศ. 2429 - 4 มกราคม พ.ศ. 2437
(สวรรคตก่อนได้สืบราชสมบัติ)
 
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร
20 มกราคม พ.ศ. 2437 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453
(สืบราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6)
รัชกาลที่ 9
 
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร
28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 - 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559
(สืบราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10)

แผนผัง

 
 
 
สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
 
 
 
พระอัครชายา (หยก)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
 
 (1)
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
(2279-2325-2352)
 
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระศรีสุลาลัย
 
 (2)
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
(2310-2352-2367)
 
สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 (3)
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2330-2367-2394)
 (4)
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2347-2394-2411)
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2351-2394-2408)
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 (5)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2396-2411-2453)
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (6)
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2424-2453-2468)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
 
 
 (7)
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2436-2468-2478-2484)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 (8)
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
(2468-2478-2489)
 (9)
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
(2470-2489-2559)
 
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
 
 
 
 
 
 
 (10)
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
(2495-2559–)

การเงิน

ในปี 2560 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ราชวงศ์จักรีเป็นราชวงศ์ที่ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของโลก โดยมีทรัพย์สินที่ประเมินไว้ระหว่าง 30,000–60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำนักข่าวรอยเตอส์ประเมินว่าเฉพาะหุ้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ถืออยู่ในธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) รวมกันมีมูลค่า 3.06 แสนล้านบาท[17]

อ้างอิง

  1. มุกหอม วงษ์เทศ (2560-07-06). ""สยาม" ถูกใช้เรียกชื่อประเทศเป็นทางการสมัยรัชกาลที่ 4". ศิลปวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: มติชน. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. ไทยที่เรียกประเทศสยามว่า ‘กรุงศรีอยุธยา’ และเรียกพระเจ้าแผ่นดินว่า ‘พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา’ มาจนตลอดรัชกาลที่ 3 เพิ่งมาเรียกชื่อ ‘สยาม’ ในทางราชการตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. ปฐมพงษ์ สุขเล็ก (2559-10-06). "รัชกาลที่ 1 ทรงรออะไรถึง 2 ปี ถึงขุดหีบศพพระเจ้าตากฯ มาเผา?". ศิลปวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: มติชน. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี (2559-04-21). "21 เมษายน 'วันสถาปนากรุงเทพมหานคร'". วอยซ์ทีวี. กรุงเทพฯ: วอยซ์ทีวี. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. ปรามินทร์ เครือทอง (2563-04-06). "คำให้การ วันประหาร "พระเจ้าตาก" ฉากสุดท้ายกรุงธนบุรี". ศิลปวัฒนธรรม. Bangkok: มติชน. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. ปรามินทร์ เครือทอง (2563-10-15). "วังหน้า "พระยาเสือ" เมื่อต้องโค่นพระเจ้าตาก". ศิลปวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: มติชน. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. โรม บุนนาค (2563-04-13). ""เจ้าฟ้าเหม็น" โอรสพระเจ้าตากสิน หลานรักพระเจ้าตา ร.๑! เปลี่ยนชื่อหลายครั้งพ้องกับคนถูกประหารทุกชื่อ!". ผู้จัดการออนไลน์. กรุงเทพฯ: ผู้จัดการ. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ "เจ้าฟ้าเหม็น" โอรสพระเจ้าตาก!". คมชัดลึก. กรุงเทพฯ: คมชัดลึก. 2561-09-13. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. "ปริศนาเจ้าแม่วัดดุสิต ต้นราชวงศ์จักรี "เจ้า" หรือ "สามัญชน"?". ศิลปวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: มติชน. 2563-05-29. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. 9.0 9.1 Matichon Academy (ม.ป.ป.). "บรรพบุรุษ 'ราชวงศ์จักรี' มาจาก 'โกษาปาน' และ 'สมเด็จพระนเรศ'". Matichon Academy. กรุงเทพฯ: มติชน. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  10. จำเป็น เรืองหิรัญ (2563-09-30). "วันจักรี". สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง. พัทลุง: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  11. "วันจักรี 6 เมษายน ประวัติวันจักรี วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์". สนุก. กรุงเทพฯ: เทนเซนต์ (ประเทศไทย). ม.ป.ป. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  12. "ประกาศกำหนดวันหยุดราชการนักขัตฤกษ์ประจำปี ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2468" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 30 (0 ก): 336–337. 2468-02-08. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  13. ณัฏฐภัทร จันทวิช (ม.ป.ป.). "เกร็ดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก". กรุงเทพธุรกิจ. กรุงเทพฯ. สืบค้นเมื่อ 2564-01-02. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  14. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานนามสกุลสำหรับเชื้อพระวงศ์พระบรมราชวงศ์ชั้น ๕ เก็บถาวร 2009-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๖, ตอน ๐ ก, ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒, หน้า ๒๑
  15. ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการ ประกาศ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์, เล่ม 89, ตอน 112 ก ฉบับพิเศษ, 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2515, หน้า 1
  16. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ว่าด้วยการที่จะออกพระนามสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี เก็บถาวร 2011-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 42, ตอน 0 ก, 20 กันยายน พ.ศ. 2468, หน้า 159
  17. โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับใหม่

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า ราชวงศ์จักรี ถัดไป
ราชวงศ์ธนบุรี
(ปกครองกรุงธนบุรี)
   
ราชวงศ์ที่ปกครองประเทศไทย
(พ.ศ. 2325–ปัจจุบัน)