วิลเลียม พิตต์ เอิร์ลที่ 1 แห่งแชแทม
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
วิลเลียม พิตต์ เอิร์ลที่ 1 แห่งแชแทม (อังกฤษ: William Pitt, 1st Earl of Chatham) เป็นรัฐบุรุษและนักการเมืองชาวอังกฤษจากพรรควิก เป็นผู้นำพาอังกฤษเข้าสู่ยุคจักรวรรดินิยม เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งบริเตนใหญ่คนที่ 9 นักประวัติศาสตร์มักจะเรียกเขาว่า วิลเลียม พิตต์ ผู้แก่กว่า (William Pitt the Elder) เพื่อไม่ให้สับสนกับลูกชายของเขา วิลเลียม พิตต์ ผู้เยาว์ ซึ่งก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
เอิร์ลแห่งแชแทม | |
---|---|
นายกรัฐมนตรีแห่งบริเตนใหญ่ | |
ดำรงตำแหน่ง 30 กรกฎาคม 1766 – 14 ตุลาคม 1768 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าจอร์จที่ 3 |
ก่อนหน้า | มาร์ควิสแห่งร็อกกิงแฮม |
ถัดไป | ดยุกแห่งกราฟตัน |
ผู้นำสภาสามัญชน | |
ดำรงตำแหน่ง 27 มิถุนายน 1757 – 6 ตุลาคม 1761 | |
นายกรัฐมนตรี | ดยุกแห่งนิวคาสเซิล |
ก่อนหน้า | ตำแหน่งว่าง |
ถัดไป | จอร์จ เกรนวิลล์ |
ดำรงตำแหน่ง 4 ธันวาคม 1756 – 6 เมษายน 1757 | |
นายกรัฐมนตรี | ดยุกแห่งเดวอนเชอร์ |
ก่อนหน้า | เฮนรี ฟอกซ์ |
ถัดไป | ตำแหน่งว่าง |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1708 นครเวสต์มินสเตอร์ อังกฤษ |
เสียชีวิต | 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1778 เคนต์, อังกฤษ | (69 ปี)
ศาสนา | คริสตจักรแห่งอังกฤษ |
พรรคการเมือง | พรรควิก |
ลายมือชื่อ | |
เขาเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีอังกฤษและเป็นผู้นำโดยพฤตินัยตั้งแต่ปี 1756 ถึง 1761 ในช่วงสงครามเจ็ดปี หลังจากนั้นเขาก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยควบตำแหน่งใต้เท้าราชลัญจกร (Lord Privy Seal) ระหว่าง 1766 ถึง 1768 เขามีวาจาที่ปราดเปรื่องซึ่งสามารถชักจูงผู้คนให้คล้อยตามได้ จุดนี้เองทำให้เขาสามารถครอบงำสภาสามัญชนได้ นักประวัติศาสตร์อธิบายว่าด้วยความฉลาดและวาจาของเขานี้เองที่เป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจ ไม่เหมือนนายกฯคนอื่นๆที่ขึ้นสู่ตำแหน่งจากการใช้เส้นสายทางครอบครัว[1] นอกเหนือไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ตัวเขาเองในฐานะนักการเมืองก็มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการกล่าวโจมตีรัฐบาลต่างๆ อาทิ การฉ้อราษฎร์บังหลวงในรัฐบาลของเซอร์ วอลโพล, กระบวนการสันติภาพกับฝรั่งเศส, นโยบายแข็งกร้าวต่ออาณานิคมอเมริกา[2]
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากที่สุด คือบทบาทผู้นำอังกฤษในช่วงสงครามเจ็ดปี ด้วยกลยุทธ์ซึ่งคิดเองและการอุทิศตนเองของเขา นำมาซึ่งชัยชนะของอังกฤษต่อฝรั่งเศส ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้อังกฤษเริ่มแผ่อิทธิพลปกคลุมไปทุกส่วนของโลก นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำที่ยืนหยัดต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างจริงจัง เขามีนโยบายโฆษณาชวนเชื่อถึงความยิ่งใหญ่ของอังกฤษ และชูนโยบายขยายดินแดนและอาณานิคม และเขายังมองสเปนและฝรั่งเศสว่าเป็นคู่แข่งในการขยายดินแดน[3]
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากกลัวว่าสเปนจะหันไปจับมือกับฝรั่งเศส เขาจึงมีความคิดที่จะเปิดฉากโจมตีกองเรือและอาณานิคมสเปนก่อน เพื่อไม่ให้กองเรือสินค้าของสเปนเทียบท่าได้ ความคิดนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งเอิร์ลแห่งบิวต์และดยุกแห่งนิวคาสเซิลตลอดจนสมาชิกคณะรัฐมนตรี เขาไม่มีทางเลือกนอกจากประกาศลาออก การลาออกของเขาเป็นที่น่ายินดีสำหรับพวกรัฐมนตรีและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากมองว่าอำนาจและอิทธิพลที่มากล้นของเขาคุกคามต่อประเพณีการปกครองของอังกฤษ[4] หลังจากเขาลาออก อำนาจก็ตกไปอยู่ในมือของ จอร์จ เกรนวิลล์ คนใกล้ชิดซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เมีย ซึ่งพิตต์ไม่พอใจเนื่องจากเห็นว่าเกรนวิลล์ควรจะออกไปพร้อมกับเขาด้วย และมองว่าการกระทำเช่นนี้ของเกรนวิลล์เป็นการทรยศเขา จนทั้งสองมองหน้ากันไม่ติดไปอีกหลายปี