มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (อังกฤษ : Udon Thani Rajabhat University, อักษรย่อ: มร.อด. – UDRU) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2466 เป็นโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร ต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ยกฐานะเป็น วิทยาลัยครูอุดรธานี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “สถาบันราชภัฏ” ให้กับวิทยาลัยครูทั่วประเทศ วิทยาลัยครูอุดรธานีจึงได้ยกฐานะเป็น สถาบันราชภัฏอุดรธานีและเปลี่ยนประเภทเป็น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยขยายการศึกษาออกไปเพื่อจัดตั้งเป็น (ม.ใหม่) ที ศูนย์การศึกษาสามพร้าว ตำบลสาพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี ห่างจากพื้นที่เดิมประมาณ 15 กิโลเมตร
Udon Thani Rajabhat University | |
ตราพระราชลัญจกร สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย | |
ชื่อเดิม | สถาบันราชภัฏอุดรธานี |
---|---|
ชื่อย่อ | มร.อด. / UDRU |
คติพจน์ | ผู้นำทางปัญญา พัฒนาคน พัฒนาชาติ |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 |
สังกัดการศึกษา | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
สังกัดวิชาการ |
|
งบประมาณ | 647,677,800 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
นายกสภาฯ | ศาสตราจารย์ วิรุณ ตั้งเจริญ |
อธิการบดี | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณิศรา ธัญสุนทรกุล |
อาจารย์ | 683 คน (พ.ศ. 2563) |
บุคลากรทั้งหมด | 1,083 คน (พ.ศ. 2563) |
ผู้ศึกษา | 19,121 คน (พ.ศ. 2563)[2] |
ที่ตั้ง |
|
วิทยาเขต | วิทยาเขต |
เพลง | มาร์ชมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี |
ต้นไม้ | จาน |
สี | ██ สีเขียว ██ สีเหลือง |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย |
ประวัติ
แก้ยุคแรก : ก่อกำเนิดนามโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมประจำมณฑล
แก้แรกเริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร”[3] มีสถานที่ตั้งเดิมอยู่ที่บริเวณสโมสรเสือป่ามณฑลอุดร (ตรงบริเวณถัดไปจากทุ่งศรีเมืองอุดร)เป็นที่ตั้งชั่วคราว มีราชบุรุษเพิ่ม การสมศีล ทำหน้าที่แทนครูใหญ่ เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูมณฑล โดยรับนักเรียนชายที่จบประถมศึกษาปีที่ 4 เข้าศึกษาต่ออีก 2 ปี นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนทุนจากจังหวัดต่าง ๆ ในมณฑลอุดร ต่อมาไม่นานจึงมีการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรบริเวณห้วยโซ่ (พื้นที่ในปัจจุบัน) บนพื้นที่ประมาณ 350 ไร่
ยุคที่ 2 : ยุบ ย้าย รวมตั้งเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี
แก้โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนฝึกหัดครูมณฑลอุดร” แต่ทำการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูมณฑลเช่นเดิม
- ปี พ.ศ. 2473 ทางการได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีประกาศนียบัตรมณฑลอุดรขึ้น รับนักเรียนสตรีที่สอบไล่ได้ชั้นประถมศึกษา เข้าเรียนต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรครูมณฑล
- ปี พ.ศ. 2477 ได้เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรจังหวัด (ว.) โดยรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือ ประโยคครูประชาบาล (ป.บ.) เข้าศึกษาต่ออีก 2 ปี และเปิดรับนักเรียนชายเข้าเรียน หลักสูตรประกาศนียบัตรจังหวัด
- ปี พ.ศ. 2475 ภายหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน ได้มีการยุบมณฑลอุดรให้เป็นจังหวัดอุดรธานี จึงมีผลทำให้โรงเรียนฝึกหัดครูมณฑลอุดร เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “โรงเรียนฝึกหัดครูจังหวัดอุดรธานี”
- ปี พ.ศ. 2482 มีประกาศกระทรวงธรรมการยุบโรงเรียนฝึกหัดครูจังหวัดอุดรธานี โอนไปสังกัดโรงเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตร จังหวัดอุดรธานี กรมสามัญศึกษา กระทรวงธรรมการ เปิดสอนหลักสูตรมัธยมศึกษาพิเศษ 1 โดยรับนักเรียนที่จบชั้นประถมปีที่ 4 เข้าศึกษาต่อเพื่อส่งไปเป็นครูในท้องถิ่นทุรกันดาร เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครู
- ปี พ.ศ. 2491 กรมสามัญศึกษาได้ส่งสำเนาประกาศกระทรวงศึกษาธิการ แจ้งเรื่องการเปลี่ยนชื่อ โรงเรียนฝึกหัดครูประกาศนียบัตรจังหวัดอุดรธานี เป็น โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี
- ปี พ.ศ. 2501 กรมการฝึกหัดครูได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่ง ย้ายโรงเรียนสตรีฝึกหัดครูอุดรธานี มารวมกับโรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานีและให้ใช้ชื่อเรียกรวมกันว่า “โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี” และแต่งตั้งให้ นายศิริ สุขกิจ ศึกษานิเทศก์เอกมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่
ยุคที่ 3 : วิทยาลัยครูอุดรธานี
แก้ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกฐานะโรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานีเป็น “วิทยาลัยครูอุดรธานี”[4] พร้อมกับเปิดสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ. สูง) และหลักสูตรปริญญาตรีของสภาการฝึกหัดครู โดยกำหนดในพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ 2518 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา
ให้วิทยาลัยครูอุดรธานีเป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนนักศึกษาถึงระดับปริญญาตรีในสาขาครุศาสตร์ หลักสูตรของสภาการฝึกหัดครู
— พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518
- ปี พ.ศ. 2519 จัดตั้งคณะวิชาครุศาสตร์ คณะวิชาวิทยาศาสตร์ และคณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- ปี พ.ศ. 2520 วิทยาลัยครูอุดรธานีได้ร่วมกับวิทยาลัยครูอีก 7 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินงานต่าง ๆ ร่วมกันในนามกลุ่มวิทยาลัยครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2528 มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2527 กำหนดให้วิทยาลัยครูรวมกันเป็นกลุ่มและสภาฝึกหัดครูได้ออกข้อบังคับว่าด้วยกลุ่มวิทยาลัยครู พ.ศ. 2528 เป็นผลให้วิทยาลัยครู 4 แห่งในภาคอีสานตอนบนรวมกันเป็น "สหวิทยาลัยอีสานเหนือ" มีสำนักงานตั้งอยู่ที่วิทยาลัยครูอุดรธานีและผลจากการแก้ไขพระราชบัญญัตินี้เอง วิทยาลัยได้เปิดสอนระดับปริญญาตรีในสาขาอื่น ๆ นอกเหนือจากสาขาวิชาการศึกษาและได้จัดตั้งคณะวิทยาการจัดการขึ้นอีกคณะหนึ่งเพิ่ม
ยุคที่ 4 : นามพระราชทาน "สถาบันราชภัฏอุดรธานี"
แก้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535[5] พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “สถาบันราชภัฏ” ให้กับวิทยาลัยครูทั่วประเทศ จึงมีผลทำให้วิทยาลัยครูอุดรธานี เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สถาบันราชภัฏอุดรธานีตั้งบัดนัน ครั้นต่อมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวราชภัฏเป็นล้นพ้นด้วยทรงพระเมตตา ทรงรพระกรุณาโปรดกล้าฯ พระราชทานพระราชลัญจกรประจำพระองค์ให้เป็น “สัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏ” นับเป็นมหาสิริมงคลอันควรที่ชาวราชภัฏทั้งมวลจักได้ภาคภูมิใจ และพร้อมใจกันปฏิบัติหน้าที่สนองพระมหากรุณาธิคุณให้เต็มความสามารถในอันที่จะพัฒนาสถาบันราชภัฏให้เป็น สถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
สถาบันราชภัฏอุดรธานีได้เปิดสอนในสาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และสาขาวิชาศิลปศาสตร์ ตามหลักสูตรวิทยาลัยครู (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2536) และปรับปรุง พ.ศ. 2543 ในระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา และมีภารกิจตามพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538
มาตรา 7 “ให้สถาบันราชภัฏเป็นสถาบัน อุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัยให้บริการวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู”
— พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538
ยุคที่ 5 : มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
แก้วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2547[6] พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงลงพระปรมาภิไธย พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ส่งผลให้สถาบันราชภัฏอุดรธานี ได้รับการยกฐานะและปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี” ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา บนพื้นที่ทั้งหมด 237 ไร่ 3 งาน 37 ตารางวา ซึ่งเหลือจากการแบ่งส่วนให้หน่วยงานราชการอื่น ๆ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มีภารกิจและปณิธานตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547
มาตรา 7 “ให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษา เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นที่เสริมสร้างพลังปัญญาของแผ่นดิน ฟื้นฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถิ่น สร้างสรรค์ ศิลปวิทยา เพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนของปวงชน มีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล และยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุง ศิลปะและวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู”
— พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547
ยุคปัจจุบัน : ขยายการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
แก้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งรับผิดชอบการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และพันธกิจในการพัฒนาบุคลากร ในสาขาอาชีพต่างๆ มหาวิทยาลัยได้คำนึงถึงการกระจายโอกาสทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ทางมหาวิทยาลัยจึงได้ขยายการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง กล่าวคือ
เมื่อปี พ.ศ. 2547 [7]ได้มีการจัดตั้ง "ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ" ในเขตอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ) โดยวัตถุประสงค์การจัดตั้งนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจหน้าที่ดังกล่าวบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
และต่อมาปี พ.ศ. 2549 [8]สภามหาวิทยาลัยฯ ได้อนุมัติโครงการขยายมหาวิทยาลัยฯ บนพื้นที่ใหม่ ณ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางการบริการความรู้ การฝึกอบรม การศึกษาวิจัย รวมถึงการขยายโอกาสทางการศึกษาในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ชื่อว่า "โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาสามพร้าว มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี" ตั้งอยู่บนพี้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณโคกขุมปูน หมู่ที่ 1 บ้านสามพร้าว ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บนพื้นที่ 2,090 ไร่ ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลสามพร้าว ซึ่งมีโครงการก่อสร้างอาคารและพัฒนาสถานที่ให้กลายเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการวิจัย และพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัย สร้างองค์ความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ที่มีบทบาทต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ท้องถิ่นชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ (Science Parks) เพื่อเป็นแหล่งความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข การแพทย์และพยาบาล การเกษตรและเลี้ยงสัตว์ ศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้พื้นเมือง และอาคารโรงพยาบาล เพื่อเป็นศูนย์ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของนักศึกษา และให้บริการท้องถิ่นชุมชนในอนาคต
การศึกษา
แก้หน่วยงานภายใน
แก้- สำนักงานอธิการบดี
- กองนโยบายและแผน
- งานประกันคุณภาพการศึกษา
- ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์
- กองบริหารงานบุคคล
- กองพัฒนานักศึกษา
- กองกลาง
- สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน
- สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ศูนย์วิทยบริการ
- ศูนย์คอมพิวเตอร์
- ศูนย์ภาษา
- สำนักศิลปะและวัฒนธรรม
- สถาบันวิจัยและพัฒนา
- ศูนย์วิทยาศาสตร์
- โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
สำนักวิชา
แก้คณะ
แก้
พื้นที่เก่าในเมือง ตำบลหมากแข้ง
|
โครงการจัดตั้งเป็นคณะในพื้นทีใหม่
|
โรงเรียนสาธิต
แก้ศูนย์การศึกษา
แก้เป็นวิทยาเขตแห่งเดียวของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งมีที่ตั้งนอกเขตจังหวัดตั้งอยู่พื้นที่ จังหวัดบึงกาฬ
การวิจัย
แก้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี [9]ได้นำผลงานวิจัยไปจัดแสดงในงาน “มหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2559 (Thailand Research Expo 2016)” ซึ่งได้ขึ้น ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2559 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.00 น. และทรงเสด็จพระราชดำเนินชมนิทรรศการภายในงาน โดยทรงให้ความสนพระทัยในบูทนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สร้างความปลื้มปิติแก่ชาวราชภัฏอุดรธานีเป็นล้นพ้น
โดยในครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีได้นำผลงานวิจัยไปจัดแสดงรวม 2 ผลงาน ได้แก่
- ผลงานวิจัยเพื่อผลิตน้ำนมคุณภาพอย่างยั่งยืน : การใช้นวัตกรรมอาหารสัตว์ท้องถิ่น และเทคนิคการตรวจและรักษาโรคเต้านมอักเสบในฟาร์มโคนมเพื่อผลิตน้ำนมคุณภาพอย่างยั่งยืน
โดยคณะวิจัย ผศ.ดร.น.สพ.ฤทธิชัย พิลาไชย , สพ.ญ.ปราณปรียา คำมี , ผศ.สุดาวรรณ ชื่นปรีชา , ดร.น.สพ.ยศวริศ เสมามิ่ง และ น.สพ.ธีระกุล นิลนนท์ : สาขาวิชาเทคนิคการสัตวแพทย์ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
- ผลงานวิจัย การใช้ใบและหัวมันสำปะหลังหมักเป็นอาหารโคนมเพื่อผลิตคุณภาพน้ำนมดิบคุณภาพ
โดยคณะวิจัย ผศ.ดร.น.สพ.ฤทธิชัย พิลาไชย , ผศ.ดร.อนันต์ เพชรล้ำ , ผศ.ดร.นิราวรรณ กุนัน , ดร.วลัยลักษณ์ แก้ววงษา , ดร.ภัทยา นาประเสริฐ , อ.วีระชัย ทองดี และ อ.เยาวพล ชุมพล : สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ , สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช , ศูนย์วิจัยและพัฒนาท้องถิ่น บ้านตาด คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
พื้นที่มหาวิทยาลัย
แก้พื้นที่เก่าในเมือง
แก้- อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา
อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นการอาคารที่มีลักษณะเด่น เมื่อมองเข้ามายังมหาวิทยาลัยฯ จะมองเห็นเด่นชัด มีความสูง 15 ชั้น ปัจจุบันใช้เป็นอาคารสำหรับการบริหารงานของมหาวิทยาลัย และหอประชุมขนาดเล็กและปานกลางจำนวนหลายห้อง โดยเป็นที่ทำการของสำนักงานอธิการบดี
- หอประวัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
หอประวัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นสถานที่สำคัญของมหาวิทยาลัยฯ เป็นศูนย์การจัดการแสดงเกียรติประวัติของมหาวิทยาลัยฯ และความเป็นมาของมหาวิทยาลัย รวมทั้งความเป็นมาและความเป็นอยู่ อาชีพ รูปภาพเก่า ของจังหวัดอุดรธานีด้วย จะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้เฉพาะเป็นกรณีพิเศษ เช่น จัดงานวันสถาปนา งานวันวิทยาศาสตร์-ราชภัฏอุดรธานีวิชาการ เป็นต้น
- หอประชุม อเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
หอประชุม อเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี หรือเหล่านักศึกษานิยมเรียกว่า "อาคารกิจการนักศึกษา" เป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น โดยมีหอประชุมขนาดใหญ่ในบริเวณชั้น 2 ขนาดบรรจุได้ 5,000 ที่นั่ง ส่วนบริเวณชั้นล่างเป็นที่ทำการของส่วนงานกิจการนักศึกษา อาทิเช่น กองพัฒนานักศึกษา องค์การนักศึกษา เป็นต้น ลักษณะอาคารเป็นแบบบ้านชั้นเดี่ยวแต่มีหน้าจั่ง 2 ทิศทั้งด้านหน้าและด้านข้างด้านขาวหากมองด้านหน้าของตัวอาคาร โดยมีทางเข้า-ออกมหาวิทยาลัยฯ ไปสู่ตัวเมืองอุดรธานี ด้านข้างหอประชุมฯ ด้วย ส่วนหอประชุมชั้น 2 มีทางขึ้น-ลง 4 มุมอาคาร และทางลาดขนาดใหญ่สำหรับยานพาหนะทางด้านข้าง
- สนามกีฬาใหม่
สนามกีฬาใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานและมีลู่วิ่งรอบสนาม เมื่อปี พ.ศ. 2560 สโมรสฟุตบอลจังหวัดอุดรธานี (อุดรธานี เอฟซี) ใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสร[10]
พื้นที่ใหม่สามพร้าว
แก้- หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (สามพร้าว)
หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (สามพร้าว) เป็นโครงการก่อสร้างหอประชุมนานาชาติและใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ในอนาคต) และเพื่อให้ประชาชนพร้อมด้วยชุมชนใช้ประโยชน์ในการจัดสัมนาฯ หรือประชุม รวมถึงการจัดแสดงสินค้าต่างๆ
การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากดอกทองกวาว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดอุดรธานีและประจำมหาวิทยาลัยฯ เนื่องจากตัวอาคารมีความลาดโค้งหลายระดับ และปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วเมื่อปลายี พ.ศ. 2559 กิจกรรมที่จัดภายในหอประชุมใหญ่ ได้แก่ พิธีไหว้ครู ประจำปี 2563 และการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48
- อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วเมื่อปลายปี พ.ศ. 2559 เป็นอาคารเรียนรวมและตึกบริหารของมหาวิทยาลัย ที่จะย้ายออกไปทำการในพื้นที่ใหม่สามพร้าวในอนาคต เป็นอาคารที่มีเอกลักษณ์ของจังหวัดอุดรธานี โดยมีแรงบบันดาลใจมาจากไหบ้านเชียง แหล่งมรดกโลกของชาวจังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันใช้เป็น "สำนักบริหารงานมหาวิทยาลัย ส่วนสามพร้าว" และห้องเรียนรวมของนักศึกษา
- อาคารกลุ่มเทคโนโลยี
อาคารกลุ่มเทคโนโลยี หรือเรียกอีกอย่างว่า "อาคาร TB" อาคารกลุ่มเทคโนโลยี TB เหล่านี้เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นช่วงแรกๆ ในโครงการขยายพื้นที่มหาวิทยาลัยออกไปสู่ตำบลสามพร้าว โดยสร้างแล้วเสร็จประมาณราวปี พ.ศ. 2551 และรับนักศึกษาเข้าศึกษาในพื้นที่อาคารเมื่อปีการศึกษา 2553 และนิยมเรียกนักศึกษารุ่นนี้ว่า "ดอกเห็ดช่องที่ 1" ต่อมาเหล่านักศึกษารุ่นหลังก็ถูกนับเรียงชื่อดอกเห็ดเป็นรุ่นๆ ตามกันมา ปัจจุบันอาคารกลุ่มเทคโนโลยี TB มีทั้งหมด 6 อาคาร โดยกลุ่มตัวอาคารเป็นสีขาว คือ
(1) อาคาร TB1 เป็นอาคารตึก 2 ชั้นอยู่ทางบริเวณด้านหลังอาคาร TB2 โดยมีทางเชื่อมไปมาถึงกันได้บริเวณทางด้านหลังของอาคาร TB2 ชั้น 2 ปัจจุบันอาคาร TB1 ใช้เป็นอาคารเรียนรวมของนักศึกษาพื้นที่ใหม่ ปัจจุบันใช้เป็นสถานทำการเรียนการสอนของชั้นปีที่ 1-4 คณะเทคโนโลยี
(2) อาคาร TB2 เป็นอาคารตึก 4 ชั้นอยู่ทางทิศใต้ของถนนภายในมหาวิทยาลัยโดยมุ่งหน้าไปหอพักนักศึกษาชาย-หญิง ปัจจุบัน อาคาร TB2ใช้เป็นอาคารเรียนรวมของนักศึกษาพื้นที่ใหม่ เนื่องจากอาคารเรียนรวม ปัจจุบันใช้เป็นสถานทำการเรียนการสอนของชั้นปีที่ 1-4 คณะเทคโนโลยี
(3) อาคาร TB3 เป็นอาคารขนาดใหญ่ 4 ชั้นกว้างขวาง อยู่ตรงข้ามอาคาร TB2 ทางทิศเหนือของถนนภายในมหาวิทยาลัยโดยมุ่งหน้าไปหอพักนักศึกษาชาย-หญิง ปัจจุบันชั้นล่าง เป็นศูนย์อาหารและเคยเป็นอดีตศูนย์บริหารงานของมหาวิทยาลัย อาทิเช่น งานคลัง งานทะเบียน งานบริหารมหาวิทยาลัย(ส่วยย่อย) เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งขยายพื้นที่โดยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในพื้นที่ใหม่สามพร้าว โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่พื้นที่เก่าในเมือง และส่วนด้านในยังเป็น "สำนักงานคณบดี" ของคณะเทคโนโลยีด้วย (ปัจจุบันย้ายไปที่อาคารวิศวกรรมศาสตร์ฯ) ส่วนชั้น 2 - 4 เป็นส่วนห้องเรียนขนาดใหญ่ และภายในชั้น 4 ยังแบ่งส่วนเป็นหอประชุมขนาด 300 ที่นั่ง
(4) อาคาร TB4 เป็นอาคารตึก 4 ชั้น อยู่ทิศเหนือด้านหลังอาคาร TB3 โดยมีทางเชื่อมไปมาถึงกันได้บริเวณทางด้านหลังของอาคาร TB3 ทุกชั้น ปัจจุบันใช้เป็นอาคารสำหรับเรียนรวมในวิชาพื้นฐานและวิชาทั่วไปของคณะเทคโนโลยี
(5) อาคาร TB5 เป็นอาคารตึก 2 ชั้น อยู่ทิศเหนือด้านหลังอาคาร TB3 ถัดจากอาคาร TB4ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนและสถานที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีทุกสาขาวิชา
(6) อาคาร TB6 เป็นอาคารตึก 2 ชั้น อยู่ทิศเหนือด้านหลังสุดของอาคาร TB4 ถัดจากอาคาร TB5 ไป ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนและสถานที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษากลุ่มวิชาวิศวกรรมศาสตร์
(7) อาคาร TB7 เป็นอาคารชั้นเดียว รูปทรงโมเดิร์น 2 หลังหันหน้าเข้าหากัน อยู่ทิศตะวันตกของอาคาร TB4 และ TB5 ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนของนักศึกษาสาชาวิชาโยธาสถาปัตยกรรม
(8) อาคารเทคโนโลยีสื่อสาร เฉลิมพระเกียรติฯ เดิมชื่อว่า อาคารวิศวกรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2561 เป็นอาคารสีน้ำตาลเข้มพร้อมลวดลายผ้าหมี่ขิด ซึ่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันอาคารปฏิบัติการและที่ตั้ง "สำนักงานคณบดี" ของคณะเทคโนโลยี
(9) อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีการอาหาร เป็นอาคาร 4 ชั้น อยู่ทางทิศเหนือสุดของกลุ่มอาคารเทคโนโลยีหันหน้าตรงข้ามกับอาคารเทคโนโลยีสื่อสาร เฉลิมพระเกียรติฯ ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนและสถานที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษากลุ่มวิชาอาหารและบริการ
(10) อาคารปฏิบัติการทางเกษตร เป็นอาคารชั้นเดียว ใช้สำหรับฝึกปฏิบัติงานของกลุ่มวิชาเกษตร ได้แก่ อาคารจรรยาบรรณสัตว์ทดลอง ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมฯ โรงเรือนฝึกปฏิบัติการธุรกิจการเกษตร โรงเรือนฝึกปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และฟาร์มฮัก
(11) อาคารปฎิบัติการครุศาสตร์อุตสาหกรรม เป็นอาคารห้องโถงฝึกปฏิบัติการนักศึกษากลุ่มวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารเทคโนโลยีสื่อสาร เฉลิมพระเกียรติฯ ด้านซ้ายทอดยาวคู่ขนานกัน
- อาคารกลุ่มวิทยาศาสตร์
อาคารกลุ่มวิทยาศาตร์ หรือเรียกอีกอย่างว่า "อาคาร ScB" อาคารกลุ่มวิทยาศาสตร์ ScB เหล่านี้เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นช่วงที่สองของโครงการขยายพื้นที่มหาวิทยาลัยออกไปสู่ตำบลสามพร้าว โดยเริ่มโครงการสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2552 โดยสร้างอาคาร ScB1 ขนาดใหญ่ของกลุ่มขึ้นก่อนแล้วสร้างอาคารอื่นๆ ตามลำดับถัดมา ปัจจุบันอาคารอาคารกลุ่มวิทยาศาสตร์ ScB พวกนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยมีอาคารทั้งหมด 4 อาคารโดยกลุ่มตัวอาคารเป็นสีฟ้า-ขาว คือ
(1) อาคาร ScB1 เป็นอาคารขนาดใหญ่ 6 ชั้นกว้างขวางมีพื้นทีมาก ติดถนนภายในทางด้านทิศตะวันออก นับถัดจากอาคาร ScB2 ถัดไป เป็นโครงการย้ายคณะวิทยาศาสตร์จากพื้นที่เก่าในเมืองที่คับแคบออกไปดำเนินการเรียนการสอน โดยในอนาคตจะเป็นที่ตั้งสำนักงานคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และเปิดสอนทางสายวิทยาศาสร์สุขภาพมากขึ้นในลำดับถัดไป โดยปัจจุบันเใช้เป็นอาคารเรียนรวมของนักศึกษาพื้นที่ใหม่ เนื่องจากอาคารเรียนรวมและที่ทำการ "สำนักงานคณบดี" คณะวิทยาศาสตร์
(2) อาคาร ScB2 เป็นอาคารตึก 6 ชั้นตรงสูง ติดถนนภายในทางด้านทิศตะวันออก จะเจอตัวอาคารนี้ก่อนตัวอาคารอื่นๆ ในกลุ่มทั้งหม โดยภายในมีห้องเรียนและอุปกรณ์ทางการวิจัย ทดลองและแหล่งเรียนรู้สำหรับด้านวิทยาศาสตร์ครบครัน ปัจจุบันใช้เป็นสถานทำการเรียนการสอนของชั้นปีที่ 1-4 คณะวิทยาศาสตร์
(3) อาคาร ScB3 เป็นอาคารตึก 5 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของตัวอาคาร ScB2 ถัดไปโดยมีทางเชื่อมระหว่างกันทุกๆชั้น และภายในมีห้องเรียนและอุปกรณ์ทางการวิจัย ทดลองและแหล่งเรียนรู้สำหรับด้านวิทยาศาสตร์ครบครัน ปัจจุบันใช้เป็นสถานทำการเรียนการสอนของชั้นปีที่ 1-4 คณะวิทยาศาสตร์
(4) อาคาร ScB4 เป็นอาคารตึก 5 ชั้น อาคารนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านในสุดของกลุ่มอาคาร ซึ่งอยู่ด้านหลังของตัวอาคาร ScB3 ถัดไป ส่วนด้านหลังของอาคารนี้จะมองเห็นกลุ่มอาคารเทคโนโลยี TB ด้วย โดยอยู่ห่างกันไม่มากนัก ส่วนด้านภายในอาคารมีห้องเรียนและอุปกรณ์ทางการวิจัย ทดลองและแหล่งเรียนรู้สำหรับด้านวิทยาศาสตร์ครบครัน ปัจจุบันใช้เป็นสถานทำการเรียนการสอนและที่ทำการ "สำนักงานคณบดี" คณะพยาบาลศาสตร์
- อาคารกลุ่มสังคมมนุษย์
(1) อาคารศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและภาษาอาเซียน เป็นอาคารขนาดใหญ่ 5 ชั้น พร้อมอาคารลูกด้านหน้า 2 ชั้น ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2561 ติดถนนภายในมหาวิทยาลัยทางไปหอพักนักศึกษาชาย-หญิง โดยอาคารมีลักษณะเด่นคือตัวอาคารมีสีส้ม-ขาว เอกลักษณ์ลายลวดผ้าหมี่ขิดด้านหน้าอาคาร ปัจจับันใช้เป็นอาคารเรียนรวมของนักศึกษาและที่ทำการ "สำนักงานคณบดี" คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
(2) อาคาร PL หรือ ชื่อเต็มว่า "Public Administration and Law นิติรัฐประศาสนศาสตร์" ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2562 เป็นอาคารขนาด 4 ชั้นยกใต้ถุนสูง อยู่ถัดไปจากอาคารศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและภาษาอาเซียน โดยมีสีดำ-ขาว พร้อมลายลวดผ้าหมี่ขิดด้านหน้าอาคาร ปัจจุบันใช้เป็นอาคารเรียนของสาขาวิชานิติศาสตร์และสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- อาคารกลุ่มที่พักอาศัย
(1) บ้านพักคณาจารย์
(2) หอพักบุคลากร
(3) หอพักนักศึกษา
- ศูนย์วิทยบริการ
เป็นพื้นที่ห้องสมุด สื่บค้นข้อมูลทางการศึกษา และห้องประชุมกลุ่มเล็กของนักศึกษา
- สนามกีฬากลาง
สถนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (สามพร้าว) เป็นสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้งของนักศึกษาในพืนที่ใหม่สามพร้าว และยังเป็นที่จัดกิจกรรม นันทนาการต่างๆมากมาย เช่น การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48
วันสำคัญ
แก้วันสถาปนา
แก้ทุกวันที่ 1 พฤศจิกายน [11]ของทุกปี นับว่าเป็น "วันสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี" โดยมหาวิทยาลัยจะจัดพิธีทำบุญตักบาตรบริเวณลานหน้าหอประวัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เพื่อความเป็นสิริมงคล และรำลึกถึงการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ที่มีวิวัฒนาการมาจากโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมลฑลอุดร เมื่อปี พ.ศ. 2466 จากนั้นได้รับการยกฐานะเป็นวิทยาลัยครูอุดรธานี สถาบันราชภัฏอุดรธานี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้สถาบันราชภัฏอุดรธานี ได้รับการยกฐานะและปรับเปลี่ยนสถานภาพในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี” ตั้งแต่นั้นมา
วันราชภัฏ
แก้ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ [12]ของทุกปี เป็น “วันราชภัฏ” สืบเนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม สถาบันราชภัฏแก่วิทยาลัยครูอุดรธานี และวิทยาลัยครูทั่วประเทศ และได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีและมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดพระมหากรุณาธิคุณนี้ไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติ และปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการพัฒนาประเทศและบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พี่น้อง ประชาชนชาวไทย ดังนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นวันราชภัฏ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีจึงถือเป็นการสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีด้วยเช่นกัน[13]
คำว่า “ราชภัฏ” ให้ความหมายที่กินใจความว่า “คนของพระราชา…ข้าของแผ่นดิน” หากตีความตามความรู้สึกยิ่งกินใจและตีความได้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “การถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และสุดจิตสุดใจ” ซึ่งการเป็นคนของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่อมเป็นข้าของแผ่นดินอีกด้วย เนื่องจากว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงานเพื่อบ้านเมือง และแผ่นดินอย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุดทรงงาน เพื่อความสุขของปวงชนชาวสยามของพระองค์นั้นเองด้วยเหตุผลเหล่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงได้พระราชทานพระราชลัญจกร อันเป็นเครื่องประกอบพระราชอิศริยยศ พระราชอิศริยศักดิ์ ลงมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจำว่าพวกเราชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน”
เนื่องในวันราชภัฎ[14] ในทุกๆ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ จึงได้จัดกรรมต่างๆ ขึ้นอาทิ การทำบุญตักบาตร การจัดนิทรรศการ การเสวนาทางวิชาการ และการมอบรางวัลต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อการสนับสนุนอุดมการณ์ของ “ชาวราชภัฎ” หนึ่งในรอบปีมีวาระสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราเลือดราชภัฎจะถือโอกาสในการทำงานเพื่อสนองแนวทางพระราชดำริสืบต่อพระราชปณิธานและสืบสานพระราชประสงค์ เหมาะสมกับการเป็น “ข้ารองพระยุคลบาทยิ่ง” และอย่างให้ชาวราชภัฏทุกท่านสำนึกอยู่เสมอว่า “มีหน้าที่อุทิศตนทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นบทพิสูจน์ความจงรักภักดิ์ดี และเทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุกๆ พระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ สำคัญนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พวกเราชาวราชภัฏต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเกศี ด้วยการปฏิบัติทึกภาระกิจที่ได้รับมอบหมายประหนึ่งทำถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในทุกกรณี เพราะพวกเราชาวราชภัฎคือ “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”
วันวิทยาศาสตร์ - ราชภัฏอุดรธานีวิชาการ
แก้ทุกปีสัปดาห์วิทยาศาสตร์ไทย ช่วงระหว่าง 15-20 สิงหาคมทุกปี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จะจัดงานวันวิทยาศาสตร์ – ราชภัฏอุดรธานีวิชาการ[15] เป็นประจำเพื่อให้ความรู้และวิทยาการแก่ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจทางด้านวิชาการ เป็นการเปิดโลกทัศน์สู่คลังความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังเป็นการเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานของมหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการ ผลงาน สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมของนักศึกษา งานวิจัยต่างๆ การแนะนำสาขาวิชา การบรรยายทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ การประกวดแข่งขันทักษะทางวิชาการ ประกวดสุนทรพจน์เฉลิมพระเกียรติฯ การตอบปัญหาอาเซียน การประกวดสุนัขไทยหลังอานและแมว ประกวดไก่พื้นเมืองเพื่อการอนุรักษ์ การออกร้านจำหน่ายสินค้า อาหาร การประกวดกล้วยไม้ การแสดงดนตรี ศิลปะและวัฒนธรรม นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการผ้าไทย การเดินแฟชั่นผ้าไทย นิทรรศการจากศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฯ ,นิทรรศการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ , คลินิกเทคโนโลยี , ประกวด Science Show , แข่งขันตอบปัญหา – ทักษะทางวิทยาศาสตร์ , สาธิตการใช้พลังงานทดแทน, จักรยานติดเครื่องยนต์ รถล้อเดียว , การประกวดหุ่นยนต์, บริษัททัวร์จำลอง Happiness Travel , บรรยาย-เสวนา ทางวิชาการ , การสอนผลิตสื่อการเรียนการสอนและโครงงานนักศึกษา , การแต่งกายชุดประจำชาติอาเซียน ประกวดร้องเพลง เทศกาลอาหารนานาชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวด แข่งขัน ทักษะทางวิชาการต่างๆ อาทิ การแข่งขันตอบปัญหากฎหมาย , แข่งขันต่อศัพท์อักษรไขว้ภาษาอังกฤษ , แข่งขันเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ,ประกวดวาดภาพ , เลือกซื้อหนังสือ สินค้าโอท็อป , กิจกรรมบันเทิงและการแสดงศิลปวัฒนธรรม ณ เวทีกลาง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ให้ความสนใจเข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่ง ตลอดการจัดงาน
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก้- ปี พ.ศ. 2526 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (เสด็จพระราชดำเนินเฉพาะปี พ.ศ. 2526) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูอุดรธานี-วิทยาลัยครูทั่วประเทศ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
- ปี พ.ศ. 2527-2537 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูอุดรธานี-วิทยาลัยครูทั่วประเทศ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
- ปี พ.ศ. 2538-2546 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันราชภัฏอุดรธานี-สถาบันราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ สถาบันราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2548 [16]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี[17]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
- ปี พ.ศ. 2547-2559 [18]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี[19]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2560 - 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เองในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี[19]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2564 - 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี[20]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2567 - ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | |||
ประจำปี | ผู้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ | สถานที่ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
รัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 | |||
พ.ศ. 2526
(17-20,22-25,27 พฤษภาคม พ.ศ. 2526) |
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี | อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร | เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูอุดรธานี-วิทยาลัยครูทั่วประเทศ |
พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2537 | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร | ||
พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2546 | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร | หอประชุมมหาวชิราลงกรณ สถาบันราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร | เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันราชภัฏอุดรธานี-สถาบันราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
พ.ศ. 2548[21] | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร | หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี[22] | เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2559[23] | สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร | หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร[24] | |
ประจำปี | ผู้เสด็จพระราชดำเนินฯ | สถานที่ | หมายเหตุ |
รัชสมัยปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 | |||
พ.ศ. 2560 - 2562 | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว | หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร | เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เองในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
พ.ศ. 2563 [25] | สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา | ||
พ.ศ. 2564 - 2566[26] | นายพลากร สุวรรณรัฐ | องคมนตรีผู้แทนพระองค์มอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |
พ.ศ. 2567 | พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ | หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา | ประธานองคมนตรีผู้แทนพระองค์มอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
ครุยวิทยฐานะ
แก้ครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีมีลักษณะคล้าย ๆ ชุดครุยพระยาแรกนา หรือขุนนางสมัยโบราณหรือที่เรียกว่าครุยเทวดา ลักษณะเป็นครุยเนื้อผ้าโปร่งสีขาวมีแทบสีเขียว-เหลือง-ทอง-น้ำเงิน และแทบสีคณะอยู่ตรงกลาง
สีแถบประจำคณะ
- สีฟ้า = คณะครุศาสตร์
- สีเหลือง = คณะวิทยาศาสตร์
- สีชมพู = คณะวิทยาการจัดการ
- สีแสด = คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- สีแดง = คณะเทคโนโลยี
- สีเขียวไข่กา = คณะพยาบาลศาสตร์
ลักษณะครุยวิทยะฐานะ
แก้- ดุษฎีบัณฑิต [27]
มาตรา 4 (1) เป็นเสื้อคลุมทำด้วยผ้าโปร่งสีขาว ผ่าอกตลอดยาวเหนือข้อเท้าพอประมาณแขนเสื้อกว้างและยาวตกข้อมือ ปลายแขนปล่อย มีสำรดรอบขอบ สำรดต้นแขน และสำรดปลายแขน โดยพื้นสำรดทำด้วยผ้าสักหลาดสีน้ำเงิน กว้าง 10 เซนติเมตร มีแถบสีทอง กว้าง 1 เซนติเมตร ที่ริมทั้งสองข้าง เว้นระยะห่าง 0.5 เซนติเมตร ทั้งสองข้างทาบแถบสีทอง กว้าง 1 เซนติเมตร เว้นระยะห่าง 0.5 เซนติเมตร ทั้งสองข้าง ทาบแถบสีทอง กว้าง 0.5 เซนติเมตร ตอนกลางสำรดเป็นแถบสีเขียว กว้าง 3 เซนติเมตร และมีแถบสีประจำคณะ กว้าง 0.5 เซนติเมตร จำนวน 3 แถบ ระยะห่างระหว่างแถบสีประจำคณะ 0.5 เซนติเมตร อยู่กลางสำรด และมีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ทำด้วยโลหะดุนนูนสีเงิน สูง 4 เซนติเมตร ติดบนสำรดรอบขอบด้านหน้าอกทั้งสองข้าง
— พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พ.ศ. 2552
- มหาบัณฑิต
มาตรา 4 (2) เช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต เว้นแต่ตอนกลางสำรดรอบขอบ สำรดต้นแขน และสำรดปลายแขน มีแถบสีประจำคณะ กว้าง 0.5 เซนติเมตร จำนวน 2 แถบ ระยะห่างระหว่าง แถบสีประจำคณะ 0.5 เซนติเมตร
— พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พ.ศ. 2552
- บัณฑิต
มาตรา 4 (3) เช่นเดียวกับครุยมหาบัณฑิต เว้นแต่ตอนกลางสำรดรอบขอบ สำรดต้นแขน และสำรดปลายแขน มีแถบสีประจำคณะ กว้าง 0.5 เซนติเมตร จำนวน 1 แถบ
— พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พ.ศ. 2552
ทำเนียบผู้บริหาร
แก้ทำเนียบผู้บริหาร ในอดีต - ปัจจุบัน[28] | |||
รายนามผู้บริหาร | ตำแหน่ง | สถานะสถานศึกษา | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|---|
1.ขุนประสม คุรุการ (ชื้น เชษฐสมุน) | ครูใหญ่ | โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมลฑลอุดร | 6 ก.ค.2471 - 10 ม.ค.2495 |
2.อาจารย์ อมร วรรณิสร | ครูใหญ่ | โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี | 10 ม.ค.2495 - 1 ต.ค. 2495 |
3.อาจารย์ จำนงค์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม | ครูใหญ่ | โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี | 1 ต.ค.2495 - 1 พ.ค.2501 |
4.อาจารย์ ศิริ สุขกิจ | อาจารย์ใหญ่ | โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี | 1 พ.ค.2501 - 1 ก.ค. 2501 |
5.อาจารย์ บุญจันทร์ วงศ์รักมิตร | อาจารย์ใหญ่ | โรงเรียนฝึกหัดครูอุดรธานี | 1 ก.ค.2502 - 12 ต.ค. 2515 |
6.อาจารย์ สกล นิลวรรณ | ผู้อำนวยการ | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 12 ต.ค.2515 - 6 พ.ย. 2516 |
7.อาจารย์ สุวิช อำนาจบุดดี | ผู้อำนวยการ (รักษาการ) | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 6 พ.ย.2516 - 14 พ.ย. 2517 |
8.อาจารย์ ทวี ห่อแก้ว | อธิการ | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 14 พ.ย.2517 - 23 มี.ค. 2520 |
9.ดร.วิชัย แข่งขัน | อธิการ | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 23 มี.ค.2520 - 1 ต.ค. 2523 |
10.รองศาสตราจารย์ ดร. จารึก เพชรจรัส | อธิการ | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 1 ต.ค.2523 - 17 ก.ค. 2529 |
11.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุนทร คำโตนด | อธิการ | วิทยาลัยครูอุดรธานี | 17 ก.ค.2529 - 16 ก.ค. 2537 |
12.ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.พล คำปัวสุ | อธิการบดี | สถาบันราชภัฏอุดรธานี | 27 ก.ย.2537 - พ.ศ. 2542 |
13.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรูญ ถาวรจักร์ | อธิการบดี | สถาบันราชภัฏอุดรธานี | พ.ศ. 2542 - 8 ก.ค. 2546 (วาระที่ 1) |
14.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพพร โฆสิระโยธิน | อธิการบดี | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 7 ก.ค.2546 - 12 ธ.ค. 2547 |
15.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรูญ ถาวรจักร์ | อธิการบดี | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 12 ธ.ค. 2547[29] - 12 ม.ค. 2552 (วาระที่ 2) |
16.ดร.ณัติเทพ พิทักษานุรักษ์ | อธิการบดี | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 13 ม.ค.2552 [30]- 8 พ.ค.2560[31] |
17.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาติชาย ม่วงปฐม | อธิการบดี (รักษาการ) | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 9 พ.ค.2560 - 18 ธ.ค. 2560[32] |
18.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรูญ ถาวรจักร์ | อธิการบดี | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 19 ธ.ค.2560[33] - 18 ธ.ค.2564 (วาระที่ 3) |
19.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณิศรา ธัญสุนทรกุล | อธิการบดี | มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 19 ธ.ค.2564[34] - ปัจจุบัน |
ทำเนียบนายกสภาฯ
แก้ทำเนียบนายกสภาฯ ในอดีต - ปัจจุบัน [35] | ||
รายนามนายกสภา | สถานะสถานศึกษา | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
1.นายโกวิท วรพิพัฒน์ | นายกสภาประจำสถาบันราชภัฏอุดรธานี | 5 กันยายน 2542 - 23 กุมภาพันธ์ 2544 |
2. นายสงบ ลักษณะ | นายกสภาประจำสถาบันราชภัฏอุดรธานี | 24 กุมภาพันธ์ 2544 - 9 กันยายน 2546[36] |
3. พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก | นายกสภาประจำสถาบันราชภัฏอุดรธานี | 10 กันยายน 2546 - 16 มกราคม 2548 (วาระที่ 1)[37] |
3. พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 17 มกราคม 2548 - 18 สิงหาคม 2551 (วาระที่ 2)[38] |
4. ศาสตราจารย์ ดร.พจน์ สะเพียรชัย | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 19 สิงหาคม 2551 - 1 ธันวาคม 2554 (วาระที่ 1) |
4. ศาสตราจารย์ ดร.พจน์ สะเพียรชัย | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 2 ธันวาคม 2554 - 23 มิถุนายน 2558 (วาระที่ 2)[39] |
4. ศาสตราจารย์ ดร.พจน์ สะเพียรชัย | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 24 มิถุนายน 2558 - 27 ตุลาคม 2560 (วาระที่ 3)[40] |
5. ดร.ชัยพร รัตนนาคะ | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 10 พฤษภาคม 2561 - 24 ธันวาคม 2561 (ลาออก)[41] |
6. ศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา ประเทพา | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ทำหน้าที่แทน) | 25 ธันวาคม 2561 - 18 พฤศจิกายน 2561[42] |
7. ศาสตราจารย์ ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ | นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี | 18 พฤศจิกายน 2561 - ปัจจุบัน |
การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
แก้ดูเพิ่มเติม การรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้กำหนดวิธีการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับปริญญาเอก ดังนี้
ระดับปริญญาตรี
แก้- ระบบโควตา[43] จะดำเนินการในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคมของทุกปี โดยแต่ละเขตพื้นที่จะดำเนินการรับสมัครเอง ซึ่งอาจจะมีการกำหนดคุณสมบัติการรับสมัคร วิธีการ และระยะเวลาในการคัดเลือกแตกต่างกัน
- ระบบรับตรง[44] มหาวิทยาลัยฯ จะดำเนินการรับสมัครบุคคลที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยฯ ในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม และดำเนินการสอบคัดเลือกเองในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี โดยผู้สมัครต้องมาสมัครด้ยตนเองที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น
ระดับปริญญาโท
แก้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้กำหนดการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท[45] โดยรับสมัครสอบคัดเลือกจากผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งภาคปกติ และภาคพิเศษ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ จะดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกโดยตรง ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี
ระดับปริญญาเอก
แก้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้กำหนดวิธีการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก[46] โดยคัดเลือกผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกสาขาวิชาต่างๆ โดยการพิจารณาของมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งจะรับสมัครสอบคัดเลือกพร้อมกันกับระดับปริญญาโท ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี
การเดินทางสู่มหาวิทยาลัย
แก้การเดินทางมายังมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ถือว่าเป็นการเดินทางมาได้หลากหลายทาง[47]
พื้นที่เก่าในเมือง
แก้- รถส่วนตัว
ขับมุ่งหน้าสู่จังหวัดอุดรธานี เข้าตัวเมืองมา มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ติดห้าแยกวงเวียนอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
(1) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 2 มิตรภาพ ฝั่งทิศเหนือ จ.หนองคาย ถึงห้าแยกวงเวียนกรมหลวงฯ ให้ตรงไป มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขาวมือของท่าน
(2) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 22 นิตโย ฝั่งทิศตะวันออก จ.สกลนคร ถึงห้าแยกวงเวียนกรมหลวงฯ ให้เลี้ยวขาวแล้วตรงไป มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขาวมือของท่าน
(3) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 2 มิตรภาพ ฝั่งทิศใต้ จ.ขอนแก่น ถึงสี่แยกเลี่ยงเมือง (สีแยกบ้านจั่น) ให้ตรงไป มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขซ้ายมือของท่านก่อนถึงห้าแยกวงเวียนกรมหลวงฯ
(4) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 210 ฝั่งทิศตะวันตก จ.หนองบัวลำภู ถึงสามแยกเลี่ยงเมืองก่อนถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานี เลี้ยวขาวมาทางถนนเลี่ยงเมือง ถนนหมายเลข 216 เพื่อสะดวกต่อการเดินทางรถไม่หนาแน่นเท่าถนนเส้นภายในเมือง เมื่อถึงสี่แยกเลียงเมือง (สีแยกบ้านจั่น) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าเมือง แล้วตรงไป มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขซ้ายมือของท่านก่อนถึงห้าแยกวงเวียนกรมหลวงฯ
- รถขนส่งสาธารณะ
รถขนส่งสาธารณะ เส้นทางสาย บขส.เก่า จะจอดส่งผู้โดยสารก่อนเข้า บขส.เก่าทุกคัน บริเวรข้างมหาวิทยาลัยฯ ฝั่งวงเวียนกรมหลวงฯ
- รถไฟ
เดินทางมายถึงสถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งจะอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี ห่างจากมหาวิทยาลัยฯ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วต่อรถขนส่งสาธารณะซึ่งวิ่งผ่านหน้ามหาวิทยาลัยฯ อาทิเช่น รถสองแถวสาย 6, 12, 15 ,22, 41, 44 เป็นต้น
- ทางอากาศยาน
สามารถเดินทางมาลงที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาวิทยาลัยฯ พื้นที่เก่าในเมือง ระยะห่างประมาณ 5 กิโลเมตร
พื้นที่ใหม่สามพร้าว
แก้- รถส่วนตัว
ขับมุ่งหน้าสู่จังหวัดอุดรธานี เข้าตัวเมืองมา มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่นอกตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออก บนทางหลวงชนบท หมายเลข 2410 (ถนนสามพร้าว-ดอนกลอย)
(1) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 2 มิตรภาพ ฝั่งทิศเหนือ จ.หนองคาย ถึงสี่แยกเลี่ยงเมือง (สี่แยกรังสิณา) ให้เลี้ยวซ้ายตามถนนหมายเลข 216 ข้ามทางรถไฟมาจะถึงสี่แยกไฟแดงสามพร้าวให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข 2410 ให้ตรงไปผ่านสี่แยกอนามัยสามพร้าวไปประมาณ 6 กิโลเมตร มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขาวมือของท่าน
(2) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 22 นิตโย ฝั่งทิศตะวันออก จ.สกลนคร จะใช้เส้นทางมุงหน้าเข้าตัวเมืองแล้วเลือกใช้ตามที่กล่าวใน (3) ก็ได้ หรือใช้เส้นทางดังนี้ วิ่งมาถึงสี่แยกหนองหาน ให้เลี้ยงขาวเข้าตัวอำเภอหนองหาน ผ่านออกไปยังทางหลวงชนบท หมายเลข 2312 (ถนนหนองหาน-อำเภอเพ็ญ) โดยมุงหน้าไปยังอำเภอพิบูลย์รักษ์แต่ก่อนถึงตัวอำเภอพิบูลย์รักษ์ โดยเมื่อถึงสามแยกดอยกลอย (หมู่บ้านดอยกลอย) ให้เลี้ยวซ้ายไปยังทางหลวงชนบท หมายเลข 2410 (ถนนสามพร้าว-ดอนกลอย) มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ซ้ายมือของท่าน
(3) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 2 มิตรภาพ ฝั่งทิศใต้ จ.ขอนแก่น ถึงสี่แยกเลี่ยงเมือง (สีแยกบ้านจั่น) ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 216 ข้ามทางรถไฟไป นับผ่านไปจนถึงไฟแดงที่ 3 จะถึงสี่แยกไฟแดงสามพร้าวให้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 2410 ให้ตรงไปผ่านสี่แยกอนามัยสามพร้าวไปประมาณ 6 กิโลเมตร มหาวิทยาลัยฯ จะอยู่ขาวมือของท่าน
(4) ถ้าหากมายังถนนหมายเลข 210 ฝั่งทิศตะวันตก จ.หนองบัวลำภู ถึงสามแยกเลี่ยงเมืองก่อนถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานี หากเลี้ยวซ้ายจะไปตามเส้นทางที่ (3) หากเลี้ยวซ้ายตรงไปจะเป็นไปตามเส้นทางที่กล่าวใน (1)
- รถขนส่งสาธารณะ
รถขนส่งสาธารณะ ให้ลงถึง บขส.เก่า แล้วเดินออกมาด้านหน้า บขส. จะมีรถขนส่งสาธารณะสีแดง สาย 9 ถึงมหาวิทยาลัยฯ (สามพร้าว)
- รถไฟ
เดินทางมายถึงสถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งจะอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี ต่อรถขนส่งสาธารณะมายังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี ถนนด้านหน้าศูนย์การค้าฯ จะมีรถขนส่งสาธารณะสีแดง สาย 9 ถึงมหาวิทยาลัยฯ (สามพร้าว)
- ทางอากาศยาน
สามารถเดินทางมาลงที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาวิทยาลัยฯ พื้นที่ใหม่สามพร้าว ระยะห่างประมาณ 20 กิโลเมตร
ชีวิตในมหาวิทยาลัย
แก้การเรียนในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีนั้นจะใช้เวลาในการเรียนต่างกันตามแต่ละหลักสูตรในแต่ละคณะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาในการเรียน 4 ปี และการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยฯ ยังแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ จะต้องใช้ชีวิตที่แตกต่างกันมาก เพราะแต่ละพื้นที่สังคมโดยรอบต่างกันสิ้นเชิง
- พื้นที่เก่าในเมือง
นักศึกษาที่ทำการเรียนและใช้ชีวิตในพื้นที่เก่าในเมือง จะใช้ชีวิตแบบสังคมเมือง เพราะพื้นที่นี้ตั้งอยู่ในกลางเมืองอุดรธานี
- พื้นที่ใหม่สามพร้าว
นักศึกษาที่ทำการเรียนและใช้ชีวิตในพื้นที่ใหม่สามพร้าว จะเป็นนักศึกษาที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสังคมชนบท เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ในพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์ ร่วมทั้งได้รับความร่มเย็นของพืชพรรณนาๆ ชนิดอีกด้วย บรรยากาศชวนให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใสดีโดยพื้นที่นี้เป็นที่พื้นที่ขนาดกว้างใหญ่ พร้อมยังเป็นพื้นที่ที่ได้ให้บรรยากาศเอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาและคณาจารย์อีกด้วย
กิจกรรมและประเพณีของมหาวิทยาลัย
แก้มหาวิทยาลัยฯ มีกิจกรรมต่างๆ ให้นักศึกษาได้เข้าร่วมเพื่อที่จะได้พบปะและทำความรู้จักกันในระดับคณะและทั้งระดับมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งมีการจัดหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี
- ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี [48]ได้จัดกิจกรรมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ เป็นประจำทุกปีในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ของทุกปีการศึกษาซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างช่วงเดือนกรกฎาคม โดยมีท่านอธิการบดี จะมากล่าวต้อนรับและให้โอวาทแก่นักศึกษาใหม่ ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษด้วย โดยจะมีนักศึกษาใหม่เข้าปฐมนิเทศอย่างพร้อมเพรียงเพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย และชี้แจงให้นักศึกษาใหม่ได้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนในระหว่างการศึกษา ตลอดจนข้อบังคับต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
- ประกวดเฟรชชี่คณะ
กิจกรรมการประกวดเฟรชชี่คณะ Faculty of Freshy นั้น เป็นการจัดประกวดเพื่อค้นหาตัวแทนของแต่ละคณะ เพื่อเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประกวดดาว-เดือน มหาวิทยาลัย UDRU Freshy ซึ่งมีการจัดขึ้นในทุกๆ ปี ก่อนการมีการจัดประกวดดาว-เดือน มหาวิทยาลัย UDRU Freshy ขึ้น 2-3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นงานระดับคณะ แต่ละคณะจะกำหนดการและสถานที่เองทั้งหมด โดยอยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยฯ
- ประกวดดาว-เดือน มหาวิทยาลัย
กิจกรรมการประกวดขวัญใจน้องใหม่[49] UDRU เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการรับน้องสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เกิดความรักสามัคคีระหว่างเพื่อน และรุ่นน้อง รุ่นพี่ นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างให้เกิดความรักและภูมิใจต่อสถาบันการศึกษาอีกทางหนึ่งด้วย
เมื่อกิจกรรมรับน้องมาถึงวาระสุดท้ายแล้ว ทางมหาวิทยาลัยฯ จะมีการจัดประกวดขวัญใจน้องใหม่ UDRU Freshy ทุกๆ ปี โดยจัดแบ่งเป็น 2 รอบ รอบความสามารถพิเศษและรอบตัดสิน โดยในแต่ละรอบจัดแบ่งการจัดงานออกเป็น 2 ครั้งในพื้นที่เก่า-ใหม่ หมุนวงเวียนกันไปทุกๆ ปีไม่ซ้ำกัน โดยจะมีผู้ผ่านการประกวดขวัญใจน้องใหม่ ทั้งชายและหญิง ซึ่งมาจากตัวแทนคณะของแต่ละคณะ รวม 15 คู่ 30 คน เข้าประกวด แสดงความสามารถพิเศษเน้นวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่อหน้าคณะกรรมการ และมีการตัดสินอีกครั้งในการจัดรอบตัดสิน รวมทั้งจัดมินิคอนเสริ์ตจากศิลปินต่าง ๆ มากมายแต่ละปีก็หมุนเวียนกันไปมา อาทิเช่น วง Tattoo Color วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยฯ เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศการประกวดเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้อง ร่วมเชียร์และให้กำลังใจผู้เข้าประกวดเป็นจำนวนมาก
- พีธีไหว้ครู
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี [50]จัดพิธีไหว้ครูเป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกถึงพระคุณครูอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่นักศึกษาใหม่ ตลอดจนทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับพระราชทานนาม “ราชภัฏ” ซึ่งแปลว่า “คนของพระราชา” และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชลัญจกรให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
โดยพิธีไหว้ครูจะเริ่มจาก ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย นายกองค์การนักศึกษา นำกล่าวไหว้ครูและกล่าวคำปฏิญาณตน หลังจากนั้นตัวแทนนักศึกษา นำพานดอกไม้ธูปเทียนเข้าบูชาครูอาจารย์ หลังจากนั้น อธิการบดีเจิมหนังสือ เพื่อความเป็นสิริมงคล ตัวแทนนักศึกษานำขับบทกลอนบูชาครู และร่วมกันร้องเพลงพระคุณที่สาม แลยังได้มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณแก่คณาจารย์ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย ที่ได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิจัยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ รวมทั้งนักศึกษาที่ได้รับรางวัลและสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นพิธีมอบทุนการศึกษา ให้แก่นักศึกษาที่เรียนดี ความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นประจำทุกปี
มีความภูมิใจในความเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และขอให้นักศึกษามีความฉลาด อดทน ตั้งใจพากเพียรเรียนหนังสือ และอ่อนน้อมถ่อมตน เสมือนดอกเข็ม หญ้าแพรก ข้าวตอก และดอกมะเขือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการไหว้ครู ขอให้นักศึกษาทุกคน ประสบความสำเร็จในชีวิต และนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาท้องถิ่นต่อไป
— ดร. ณัติเทพ พิทักษานุรัตน์ อธิการบดี : ปีการศึกษา 2559
- กิจกรรมรับขวัญน้องใหม่ ลอดซุ้มอัญเชิญตราพระราชลัญจร และประดับตรามหาวิทยาลัย
โดยกิจกรรมรับขวัญน้องใหม่ ลอดซุ้มอัญเชิญตราพระราชลัญจร และประดับตรามหาวิทยาลัยประกอบด้วย ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อัญเชิญตรามงคลมอบให้นายกองค์การนักศึกษา เพื่ออัญเชิญเข้าสู่ขบวน ขบวนอัญเชิญตราพระราชลัญจรเคลื่อนเข้าสู่สนามกีฬาเพื่อประดิษฐานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ วงประสานเสียงเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัย และเพลงราชภัฏสดุดี ตัวแทนถือธงคณะ ไปวางบนปะรำพิธี นักศึกษาใหม่ถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ และพระราชลัญจกร ประธานในพิธีกล่าวถวายราชสดุดีและมอบเข็มให้นักศึกษาใหม่ จากนั้นเป็นการแสดงฟ้อนเทิดพระเกียรติ และจุดเทียนชัยถวายพระพร และปิดท้ายด้วยการบูม UDRU ของนักศึกษาใหม่[51]
สำหรับกิจกรรมรับขวัญน้องใหม่ เป็นการเสริมสร้างความรัก ความภาคภูมิใจในสถาบันการศึกษา ส่งเสริมความรักสามัคคีระหว่างนักศึกษารุ่นพี่กับรุ่นน้อง และเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ กิจกรรมรับน้องเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้นักศึกษาได้ทำกิจกรรม สานสัมพันธ์ รุ่นพี่-รุ่นน้อง แบบไร้แอลกอฮอล์ สร้างภูมิคุ้มกัน ถ่ายทอดกระบวนการเป็นนักศึกษาที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม รู้จักปรับตัวจากนักเรียนสู่การเป็นนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาอย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเป็นสุข ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น และความสามัคคี ถึงแม้ว่าระหว่างที่ทำพิธีจะมีพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการจัดกิจกรรมแต่อย่างใด
ปรากฏการณ์โลกโซเซียว เมื่อปีการศึกษา 2559 [52]กิจกรรมรับขวัญน้องใหม่ ลอดซุ้มอัญเชิญตราพระราชลัญจร และประดับตรามหาวิทยาลัย ได้เป็นที่ฮือฮ่าในโลกโซเซียวเป็นอย่างมาโดยสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ได้ตีพิมพ์ข่าวการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยทางมหาวิทยาลัยได้ออกมาชี้แจ้งแล้วว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามความสมัครใจของนักศึกษาทุกคน โดยไม่ได้มีการบังคับให้ทำกิจกรรมดังกล่าว จึงทำให้โลกได้รู้ถึงความเป็น ราชภัฏ "คนของพระราชา" มากขึ้น
- พิธีทอดกฐินสามัคคี
เนื่อด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี [53]อยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมให้แก่นักศึกษาทราบและร่วมงานด้วย จึงได้จัดงานทอดกฐินเป็นประจำทุกปีขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อสืบสานประเพณีบุญเดือนสิบสองหรือบุญกฐิน ตามประเพณีฮีต 12 ของชาวอีสาน และเป็นกิจกรรมส่งเสริมให้นักศึกษาได้ร่วมอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ตั้งองค์กฐินให้ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคทำบุญ และได้รวบรวมปัจจัยจากคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และผู้มีจิตศรัทธาโดยได้บริจาคเงินเพื่อส่งเสริมด้านการศึกษาให้แก่โรงเรียนในเขตจังหวัดอุดรธานีแลใกล้เคียงและเพื่อใช้ในงานสาธารณกุศล อาทิ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา วัดวาอาราม สวนสาธารณะประโยชน์ เป็นต้น
โดยในงานแบ่งออกเป็น 2 วัน
วันที่ 1 จะมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ร่วมพิธีสวดสมโภชองค์กฐิน และถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ 9 รูป จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารเย็น โดยมีการออกโรงทานของคณะอาจารย์ นักศึกษา หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยฯ
วันที่ 2 คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ สถานที่กำหนดตามกำหนดการของทุกๆ ปี
- งานฉลองเมืองอุดรธานี
ประชาชนชาวอุดรธานีทุกหมู่เหล่า ร่วมงานวันที่ระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานีเป็นประจำทุกๆ ปี
วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี จังหวัดอุดรธานีมีการจัดงานวันที่ระลึกการตั้งเมืองเมืองอุดรธานีที่บริเวณวงเวียนพระอนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (ข้างหน้ามหาวิทยาลัยฯ พื้นที่เก่าในเมือง) โดยมีองคมนตรี มาเป็นประธาน พร้อมด้วยราชนิกูล “ทองใหญ่” และผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำข้าราชการทุกภาคส่วน องค์กรภาคเอกชน คหบดี และชาวอุดรธานี เข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในพิธีวันที่ระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ในช่วงเช้าได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวนรุ่นของการครบปีก่อตั้ง บริเวณรอบพระอนุสาวรีย์ฯ การถวายพานพุ่มดอกไม้สด พิธีบายศรีสู่ขวัญบ้าน สู่ขวัญเมือง และรำบวงสรวง จากนั้นประธานในพิธี ได้อ่านประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
- กิจกรรมการเลือกตั้งนายกองค์การนักศึกษา
การเลือกตั้งนายกองค์การนักศึกษา [54]มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเลือกผู้บริหารนายกองค์การนักศึกษาของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการระบอบประชาธิปไตยในสถาบันการศึกษา เพื่อวางรากฐานไปสู่การมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชนต่อไป ซึ่งได้จะมีการกำหนดวันเลือกตั้งนายกองค์การนักศึกษาขึ้นมาก่อนสิ้นปีการศึกษา โดยให้มีนักศึกษาออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้นำของตนในปีการศึกษาถัดไปเพื่อเป็นการวางแผนล่วงหน้า โดยจะมีการจัดตั้งแต่ช่วงเช้า 08.30 – 15.00 น. และไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนด้วย
- ปัจฉิมนิเทศนักศึกษา
คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย ร่วมกับ กองพัฒนานักศึกษา [55]จะมีการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศให้แก่ผู้กำลังจะสำเร็จการศึกษาในทุกๆ ปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาที่กำลังจะก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ออกไปทำงานรับใช้สังคม โดยมีกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้ เรื่องการปรับตัวจากวัยเรียนสู่วัยทำงาน รวมทั้งแนะแนวทางการสมัครงานอย่างไรให้ได้งาน และหลักในการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน และการเตรียมพร้อมสู่ตลาดแรงงานหลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
งานกีฬามหาวิทยาลัย
แก้- งานกีฬาวังแดงเกมส์
"วังแดง" เป็นอาคารหลังแรกของ “โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรมมณฑลอุดร” ตั้งแต่แรกอาคารหลังนี้ได้ถูกใช้เป็นอาคารอำนวยการหลักของโรงเรียน ภายในประกอบไปด้วยห้องหับต่าง ๆ ซึ่งเคยถูกใช้ประโยชน์มาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน ห้องทำงาน กระทั่งบางครั้งก็เป็นที่พักสำหรับครู ด้วยความที่มีห้องเหลือเฟือ ประกอบกับสมัยนั้นบริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่เปลี่ยว ไม่เจริญดังเช่นทุกวันนี้ การได้พักอยู่ในที่เดียวกับที่ทำงานคงเป็นการดีและปลอดภัย ส่วนที่มาของชื่อ “วังแดง” นี้ไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่าคงเรียกตามความใหญ่โตของอาคาร และความสลับซับซ้อนของห้องหับ อีกทั้งเรียกตามสีเนื้อไม้ที่ใช้ทำผนังอาคารก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ชื่อวังแดงนี้มิได้เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ บางครั้ง ก็มีการเรียกว่า “อาคารกลาง” หรือ “อาคารขุนประสม” ด้วยเช่นกัน[56]
งานกีฬาวังแดงเกมส์ เป็นงานกีฬาที่จัดขึ้นโดยองค์การนักศึกษา และสโมสรนักศึกษาคณะต่างๆ พร้อมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด ด้วยการหันมาเล่นกีฬา เสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และปลูกฝังความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา[57]
โดยมีการแข่งขันกีฬา 8 ชนิดกีฬา[58] ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล เปตอง ตะกร้อ บาสเกตบอล วอลเลย์บอลชายหาด และกีฬาพื้นบ้าน โดยพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าจะมีกิจกรรมการเดินขบวนพาเหรด ขบวนกองทัพนักกีฬา การแข่งขันกองเชียร์และเชียร์ลีดเดอร์ การแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ พิธีมอบเหรียญรางวัล และพิธีปิดการแข่งขันในช่วงเย็น
- งานกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[59]และกีฬาอาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกีฬาอาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานสายใย ความรักสามัคคี มีมิตรภาพและความสมานฉันท์ ระหว่างนักศึกษา, อาจารย์และบุคลากร ในกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 งานในแต่ละปี และจัดในสถานที่เดียวกันเป็นเจ้าภาพ โดยทางกีฬานักศึกษาจะมีการจัดขึ้นก่อนงานกีฬาอาจารย์บุคลากร 2-3 สัปดาห์ ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ส่งทัพนักกีฬาราชภัฏอุดรธานี เข้าร่วมชิงชัยในการแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[60] และการแข่งขันกีฬาอาจารย์และบุคลากร[61] มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทุกๆ ครั้งตลอดมา
- งานกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ส่งทัพนักกีฬาเข้าชิงชัยในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยทุกๆ ปี[62] และการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 ได้รับเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬาใหม่และสนามกีฬาในจังหวัดอุดรธานี
การจัดอันดับ
แก้Nature Index จัดโดยวารสารในเครือ Nature Publishing Group ซึ่งเป็นวารสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงชั้นนำของโลก โดยการนับจำนวนบทความที่ตีพิมพ์ต่อปีในวารสารที่ในเครือ Nature Publishing Group จัดให้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี อยู่ในอันดับที่ 12 ของประเทศไทย ปี 2016 [63]
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
แก้นักการเมือง
แก้- นายกว้าง รอบคอบ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา กรมพลศึกษา
- นายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ
- นายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
- นายสมคิด บาลไธสง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย
ครู/อาจารย์
แก้- นายภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์
นักร้อง/นักแสดง
แก้- ยศวรรธน์ ทะวาปี (ยูโร) นักแสดงสังกัดช่อง 7 HD
- รชตะ หัมพานนท์ (แจม) นักแสดงสังกัด ช่องวัน 31, มิสเตอร์แกรนด์ไทยแลนด์ 2017 และ รองอันดับ 1 มิสเตอร์แกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2017 สำเร็จการศึกษาจากคณะครุศาสตร์
อ้างอิง
แก้- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๓๑, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ "สถิตินักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ปีการศึกษา 2563". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-27. สืบค้นเมื่อ 2020-11-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-23. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2518/A/174/5.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2538/A/004/1.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/0AA/00141755.PDF
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-06. สืบค้นเมื่อ 2017-05-17.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-31. สืบค้นเมื่อ 2017-01-20.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-30. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ http://www.smmsport.com/reader.php?news=170789[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-05. สืบค้นเมื่อ 2017-05-17.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ https://th.wiki.x.io/w/index.php?title=%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%8F&action=edit§ion=3
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ http://www.udru.ac.th/index.php/aroundudru/383-aug-23-2016-a.html[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ 19.0 19.1 "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-19. สืบค้นเมื่อ 2022-12-19.
- ↑ https://www.mhesi.go.th/index.php/news-and-announce-all/news-all/executive-ps-news/9470-2563-2564-6.html
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ https://www.udru.ac.th/website/index.php/featured-articles/17-udru-news/around-udru/1012-udrunews-11-sep-2023-02.html
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-11-17. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-02. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/002/1.PDF
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2017-07-03.
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/002/1.PDF
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-04-19. สืบค้นเมื่อ 2022-04-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-01. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2018-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2019-01-22.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-09-22. สืบค้นเมื่อ 2019-01-22.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-01. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ http://www.udru.ac.th/images/admission2017/document/UDRU-ADMISSION-2017-Conditions.pdf[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-23. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "http://www.udru.ac.th/itml.html". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-23. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
{{cite web}}
: แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|title=
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-17. สืบค้นเมื่อ 2017-05-17.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-06. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-06. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-06. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-06. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ https://education.kapook.com/view155592.html
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-27. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-16. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-21. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ https://udgmzo.wordpress.com/2012/09/09/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87/
- ↑ http://www.smoedudru.com/smokaru/index.php/2015-07-05-05-48-06/39-%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-27[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-16. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ http://khunsakarin.nrru.ac.th/student/main.php?part=detail&pack=history_competition[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-29. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-03. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-01. สืบค้นเมื่อ 2017-05-19.
- ↑ http://www.natureindex.com/annual-tables/2016/institution/academic/all/countries-Thailand