ฟีลีปี โกชิญญู
ฟีลีปี โกชิญญู โกเรย์ยา (โปรตุเกส: Philippe Coutinho Correia, ออกเสียง: [fiˈlipi ko(w)ˈtʃĩɲu]; เกิดวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นให้สโมสรกีฬา วัชกู ดา กามา โดยยืมตัวจากแอสตันวิลลา และเล่นให้ทีมชาติบราซิล โดยสามารถเล่นได้ทั้งในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและปีกซ้าย
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ฟีลีปี โกชิญญู โกเรย์ยา[1] | ||||||||||||||||||||||||||||
วันเกิด | [2] | 12 มิถุนายน ค.ศ. 1992||||||||||||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | รีโอเดจาเนโร บราซิล | ||||||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.72 m (5 ft 7 1⁄2 in)[3] | ||||||||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก / ปีก | ||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน |
วัชกู ดา กามา (ยืมจาก แอสตันวิลลา) | ||||||||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 11 | ||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||||||||||||
–2008 | วัสกู ดา กามา | ||||||||||||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||||||||||||
2008–2013 | อินเตอร์มิลาน | 28 | (3) | ||||||||||||||||||||||||||
2008–2010 | → วัสกู ดา กามา (ยืม) | 36 | (4) | ||||||||||||||||||||||||||
2012 | → อัสปัญญ็อล (ยืม) | 16 | (5) | ||||||||||||||||||||||||||
2013–2018 | ลิเวอร์พูล | 152 | (41) | ||||||||||||||||||||||||||
2018–2022 | บาร์เซโลนา | 76 | (17) | ||||||||||||||||||||||||||
2019–2020 | → ไบเอิร์นมิวนิก (ยืม) | 23 | (8) | ||||||||||||||||||||||||||
2022 | → แอสตันวิลลา (ยืม) | 19 | (5) | ||||||||||||||||||||||||||
2022– | แอสตันวิลลา | 22 | (1) | ||||||||||||||||||||||||||
2023– | → อัดดุฮัยล์ (ยืม) | 16 | (3) | ||||||||||||||||||||||||||
2024– | → วัสกู ดา กามา (ยืม) | 2 | (0) | ||||||||||||||||||||||||||
ทีมชาติ | |||||||||||||||||||||||||||||
2009 | บราซิล อายุไม่เกิน 17 ปี | 3 | (0) | ||||||||||||||||||||||||||
2011–2012 | บราซิล อายุไม่เกิน 20 ปี | 7 | (3) | ||||||||||||||||||||||||||
2010–2022 | บราซิล | 68 | (21) | ||||||||||||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21:10, 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 (UTC) |
โกชิญญูถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่และลงเล่นนัดแรกในปี ค.ศ. 2010 ก่อนที่จะถูกเรียกตัวชุดลุยศึกโกปาอาเมริกา 2015
ชีวิตช่วงต้น
แก้โกชิญญูเป็นบุตรชายคนที่สามและคนสุดท้องของ Esmeralda Coutinho กับ José Carlos Correia สถาปนิก โดยเกิดในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1992 ที่ริโอเดจาเนโร[4] เขาเติบโตในย่าน Rocha ทางตอนเหนือของริโอระหว่างชุมชนแออัดเก่าและโกดังสินค้าอุตสาหกรรม[5][6]
สโมสรอาชีพ
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อัสปัญญ็อล (ยืมตัว)
แก้ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2012 โกชิญญูได้ย้ายไปร่วมทีมอัสปัญญ็อลด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล 2011-12 ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 โกชิญญูลงเล่นนัดแรกให้กับอัสปัญญ็อล ในนัดที่ อัสปัญญ็อล เสมอกับ อัตเลติกเดบิลบาโอ 3-3
ลิเวอร์พูล
แก้ในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ย้ายจากอินเตอร์มิลานมาอยู่กับลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ โดยโกชิญญูได้สวมเสื้อหมายเลข 10[7]
ฤดูกาล 2012-13
แก้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก โดยโกชิญญูถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน คาบ้าน 0-2[8] ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกและทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[9] ต่อมา ในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วีแกนแอธเลติก ที่ ดีดับเบิลยูสเตเดียม 4-0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูตีไข่แตกให้ ลิเวอร์พูล ไล่ เซาแทมป์ตัน มาเป็น 1-2 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-3 ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 นัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1-0 จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู จาก 13 นัด และได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ได้ถึง 7 ลูก ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ โกชิญญู ได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรลิเวอร์พูลประจำฤดูกาล 2012-13 ไปครอง ทำให้ โกชิญญูได้เป็นขวัญใจของสาวกเดอะค็อปได้อย่างเต็มตัว
ฤดูกาล 2013-14
แก้ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14 โกชิญญูช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 นัดติดต่อกัน (ชนะ สโตกซิตี 1-0, ชนะ แอสตันวิลลา 1-0 และชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-0) ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ จากการปะทะกับ แอชลีย์ วิลเลียมส์ กองหลังของ สวอนซีซิตี ทำให้ โกชิญญูต้องพักยาวถึงสิ้นเดือนตุลาคม ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 0-2 ต่อมา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 4-0 ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูแรก ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 3-3 ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-2
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 3-2 ต่อมา ในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-0[10] [11] ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป[12] [13] [14] ต่อมา ในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด และต้องลุ้นให้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 33 นัด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ในปี 2009
ฤดูกาล 2014-15
แก้ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014-15 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 2-1[15] ต่อมา ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ลีกคัพ รอบสี่ โกชิญญูได้เปิดบอลให้ เดยัน ลอฟเรน ทำประตูชัย ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 2-1[16] ต่อมา ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง และได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ที่ลอฟตัสโรด 2-1 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเอาชนะไป 3-2[17] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ อาร์เซนอล 2-2[18]
ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0[19] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล[20] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[21] ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[22] ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 2-1[23] ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบหก นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่อีวู้ด ปาร์ค 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[24] [25] ต่อมา ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ โกชิญญูได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แอสตันวิลลา 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[26] ต่อมา โกชิญญู ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ รวมถึงเข้าชิงราวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2015 โกชิญญู นักเตะของลิเวอร์พูลคนเดียวที่ได้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2-1[27] ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูคว้า 4 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ, รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี จากลูกยิงไกล ในเกมกับ เซาแทมป์ตัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และ รางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ซิตี จากงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า[28] จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 35 นัด
ฤดูกาล 2015-16
แก้ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2015 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2015–16 ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนที่บริแทนเนียสเตเดียม เจอกับ สโตกซิตี หลังจากนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลมาพ่ายแพ้สโตกซิตีที่นี่ 1-6 โดยโกชิญญูทำประตูชัยซัดไกลด้วยขวาประมาณ 25 หลาโค้งแฉลบปลายมือบัตแลนด์เสียบคานตุงตาข่ายสุดงามให้ลิเวอร์พูลเอาชนะ สโตกซิตี 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ล้างแค้นสำเร็จ[29] [30] ต่อมา ในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูโดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในฟุตบอลอาชีพ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 0-3 ทำให้ โกชิญญู โดนแบน 1 นัด[31]
ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญู ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 3-1[32] [33] ต่อมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ คริสตัลพาเลซ 1-2[34] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกและจ่ายบอลให้ โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 4-1[35] [36]
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ โกชิญญูทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-1 แต่สุดท้ายในช่วงต่อเวลาพิเศษก็แพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[37] ต่อมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 ฟุตบอลลีกคัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ โกชิญญูทำประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วง 90 นาที ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ โกชิญญู ยิงจุดโทษพลาดโดน วีลลี กาบาเยโร ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี เซฟเอาไว้ได้ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษ 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[38] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2016 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง โกชิญญู ทำประตูแรกในยูฟ่ายูโรปาลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่ายูโรปาลีกได้สำเร็จ[39] ต่อมา ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-3[40] ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1-1[41]
ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2016 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง โกชิญญู ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่ายูโรปาลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 4-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่ายูโรปาลีกได้สำเร็จ[42] ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0[43] ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูคว้า 4 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ, รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมีนาคม และ รางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ซิตี จากงานประกาศรางวัล Players' Awards 2016 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ Exhibition Centre[44]
ฤดูกาล 2016-17
แก้ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนที่เอมิเรตส์สเตเดียม เจอกับ อาร์เซนอล โกชิญญู ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 4-3[45] ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 3 โกชิญญูทำประตูแรกในอีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2016–17 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ดาร์บีเคาน์ตี ที่ไพรด์พาร์ก 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[46] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัลล์ซิตี 5-1[47] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-1[48] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[49]
ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 โดยผลสแกนจากเจ้าหน้าที่ทีมหงส์แดงเผยว่า โกชิญญูต้องพักยาว 5-6 สัปดาห์ ต่อมา ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2017 อีเอฟแอลคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก โกชิญญูกลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 0-1 ต่อมา ในวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ไปจนถึงปี 2022[50] [51] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 1-3[52] ต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1[53] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ บอร์นมัท 2-2[54] ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 2-1 ทำให้ โกชิญญูเป็นนักเตะบราซิลที่ทำประตูรวมมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 30 ประตู[55] ต่อมา ในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ คริสตัลพาเลซ 1-2[56] ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-0[57] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ มิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โกชิญญูทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[58] จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 13 ประตูจาก 31 นัด
ฤดูกาล 2017-18
แก้ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูจ่ายบอลให้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูและทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ด้วยลูกฟรีคิก นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-2[59] ต่อมา ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E โกชิญญูทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 1-1[60] ต่อมา ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 1-1[61] ต่อมา ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[62] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[63] ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[64] ต่อมา ในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 5-1[65] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม โกชิญญูทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[66] ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[67] ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-3[68] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูลในการลงสนามนัดที่ 200 ให้กับลิเวอร์พูลและทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[69]
ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูลงสนามนัดสุดท้ายของเขาให้กับลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1 โดย โกชิญญูยิง 12 ประตูจาก 20 นัดในฤดูกาล 2017-18 เขาช่วยพาทีมชนะไว้ได้มากก่อนที่จะจากไป
บาร์เซโลนา
แก้ในวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2018 ลิเวอร์พูลยืนยันว่าโกชิญญูได้บรรลุข้อตกลงกับสโมสรบาร์เซโลนาเพื่อย้ายไปร่วมทีม ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูแรกในลาลิกา ฤดูกาล 2017–18 นัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ คิโรนา 6-1 ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ มาลากา 2-0 ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018 โกปาเดลเรย์ รอบชิงชนะเลิศ 2018 โกชิญญูยิงประตูด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เซบิยา ที่เอสตาดีโอเมโตรโปลีตาโน 5-0 คว้าแชมป์โกปาเดลเรย์ สมัยที่ 30 มาครองได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูที่ 3 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เอาชนะ เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา 4-2 ช่วยให้ บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ลาลิกามาครองได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ บิยาร์เรอัล 5-1 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับบาร์เซโลนา ในนัดที่ บาร์เซโลนา พ่ายแพ้ เลบันเต 4-5 ต่อมา ในวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ลาลิกา นัดปิดฤดูกาล 2017-18 โกชิญญูทำประตูที่ 8 ในลาลิกา ในนัดที่ บาร์เซโลนา เปิดสนามกัมนอว์เอาชนะ เรอัลโซเซียดัด 1-0
ทีมชาติบราซิล
แก้ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญู ถูกเรียกติดทีมชาติโดย ดุงกา หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของทีมชาติบราซิลและได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตรกับ โคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ ในเดือนกันยายน ที่สหรัฐอเมริกา ต่อมา ในวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญู ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่ บราซิล เอาชนะ ชิลี 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมา ในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2015 โกชิญญู ทำประตูแรกให้กับทีมชาติ ในนัดที่เอาชนะ เม็กซิโก 2-0
ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ทีมชาติบราซิลได้เรียกตัว ฟีลีปี โกชิญญู ติดรายชื่อชุดลุยศึกโกปาอาเมริกา 2015 ลงเล่น 3 นัด พาทีมได้อันดับ 1 ของกลุ่มซี โดยบราซิลชนะ 2 แพ้ 1 (ชนะ เปรู 2-1, แพ้ โคลอมเบีย 0-1 และ ชนะ เวเนซุเอลา 2-1) ช่วยให้ บราซิล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเจอกับ ปารากวัย แต่พ่ายในการดวลจุดโทษ 3-4 หลังเสมอ 1-1 ใน 90 นาที
ทีมชาติบราซิลเรียกตัว โกชิญญู ติดรายชื่อชุดลุยศึกโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2016 โกชิญญู ทำแฮตทริกให้กับ บราซิล ในนัดที่ บราซิล เอาชนะ เฮติ 7-1
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 ทีมชาติบราซิลเรียกตัว โกชิญญู ติดรายชื่อชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย บราซิล ได้อยู่กลุ่มอี ร่วมกับ สวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา และ เซอร์เบีย ต่อมา ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูแรกในฟุตบอลโลก ในนัดที่ บราซิล เสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ต่อมา ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2018 โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในฟุตบอลโลก ในนัดที่ บราซิล เอาชนะ คอสตาริกา 2-0 สุดท้าย บราซิล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มอี ชนะ 2 เสมอ 1 ต่อมา ในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิล พ่ายแพ้ เบลเยียม 1-2 ทำให้ บราซิล ต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย เพียงเท่านี้
ชีวิตส่วนตัว
แก้เมื่อโกชิญญูย้ายไปอิตาลีตอนอายุ 18 ปีเพื่อเข้าเล่นกับอินเตอร์มิลาน เขาไปที่นั่นกับพ่อแม่และ Ainê แฟนของเขาที่พบกันครั้งแรกในงานเลี้ยงของเพื่อน เมื่อเขาย้ายไปเล่นให้กับอัสปัญญ็อล พ่อแม่เดินทางกลับบราซิล เขาแต่งงานกับ Ainê ที่บราซิลใน ค.ศ. 2012[70] ทั้งคู่ให้กำเนิดลูกสาวสองคนและลูกชายคนเดียว[71][72] โกชิญญูมีรอยสักที่แขน ซึ่งเป็นการแสดงความผูกพันต่อครอบครัวและภรรยาของเขา[70] เขานับถือศาสนาคริสต์[73]
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2018 โกชิญญูได้รับหนังสือเดินทางโปรตุเกสผ่านทางภรรยา ทำให้เขาไม่ได้เป็นผู้เล่นนอกยุโรปอีกต่อไป[74]
สถิติอาชีพ
แก้สโมสร
แก้- ณ วันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2024
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เนชันนอลคัพ[a] | ถ้วยลีก[b] | ทวีป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
วัสกู ดา กามา (ยืม) | 2009[75] | แซรียีเบ | 12 | 0 | 0 | 0 | — | — | 0 | 0 | 12 | 0 | ||
2010[75] | แซรียีอา | 7 | 1 | 7 | 1 | — | — | 17[c] | 3 | 31 | 5 | |||
รวม | 19 | 1 | 7 | 1 | — | — | 17 | 3 | 43 | 5 | ||||
อินเตอร์มิลาน | 2010–11[75] | เซเรียอา | 13 | 1 | 0 | 0 | — | 6[d] | 0 | 1[e] | 0 | 20 | 1 | |
2011–12[75] | เซเรียอา | 5 | 1 | 0 | 0 | — | 3[d] | 0 | 0 | 0 | 8 | 1 | ||
2012–13[75] | เซเรียอา | 10 | 1 | 0 | 0 | — | 9[f] | 2 | — | 19 | 3 | |||
รวม | 28 | 3 | 0 | 0 | — | 18 | 2 | 1 | 0 | 47 | 5 | |||
อัสปัญญ็อล (ยืม) | 2011–12[75] | ลาลิกา | 16 | 5 | — | — | — | — | 16 | 5 | ||||
ลิเวอร์พูล | 2012–13[76] | พรีเมียร์ลีก | 13 | 3 | — | — | — | — | 13 | 3 | ||||
2013–14[77] | พรีเมียร์ลีก | 33 | 5 | 3 | 0 | 1 | 0 | — | — | 37 | 5 | |||
2014–15[78] | พรีเมียร์ลีก | 35 | 5 | 7 | 3 | 4 | 0 | 6[g] | 0 | — | 52 | 8 | ||
2015–16[79] | พรีเมียร์ลีก | 26 | 8 | 1 | 1 | 3 | 1 | 13[f] | 2 | — | 43 | 12 | ||
2016–17[80] | พรีเมียร์ลีก | 31 | 13 | 2 | 0 | 3 | 1 | — | — | 36 | 14 | |||
2017–18[81] | พรีเมียร์ลีก | 14 | 7 | 0 | 0 | 1 | 0 | 5[d] | 5 | — | 20 | 12 | ||
รวม | 152 | 41 | 13 | 4 | 12 | 2 | 24 | 7 | — | 201 | 54 | |||
บาร์เซโลนา | 2017–18[75] | ลาลิกา | 18 | 8 | 4 | 2 | — | — | — | 22 | 10 | |||
2018–19[75] | ลาลิกา | 34 | 5 | 7 | 3 | — | 12[d] | 3 | 1[h] | 0 | 54 | 11 | ||
2020–21[75] | ลาลิกา | 12 | 2 | 0 | 0 | — | 2[d] | 1 | 0 | 0 | 14 | 3 | ||
2021–22[75] | ลาลิกา | 12 | 2 | 0 | 0 | — | 4[d] | 0 | 0 | 0 | 16 | 2 | ||
รวม | 76 | 17 | 11 | 5 | — | 18 | 4 | 1 | 0 | 106 | 26 | |||
ไบเอิร์นมิวนิก (ยืม) | 2019–20[75] | บุนเดิสลีกา | 23 | 8 | 4 | 0 | — | 11[d] | 3 | — | 38 | 11 | ||
แอสตันวิลลา (ยืม) | 2021–22[82] | พรีเมียร์ลีก | 19 | 5 | — | — | — | — | 19 | 5 | ||||
แอสตันวิลลา | 2022–23[83] | พรีเมียร์ลีก | 20 | 1 | 1 | 0 | 1 | 0 | — | — | 22 | 1 | ||
2023–24[84] | พรีเมียร์ลีก | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | 2 | 0 | ||
รวม | 41 | 6 | 1 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | — | 43 | 6 | |||
อัดดุฮัยล์ (ยืม) | 2023–24[85] | กาตาร์สตาร์สลีก | 16 | 3 | 3 | 2 | 1 | 1 | 3[i] | 2 | — | 23 | 8 | |
วัสกู ดา กามา (ยืม) | 2024 | แซรียีอา | 2 | 0 | 1 | 0 | — | — | — | 3 | 0 | |||
รวมทั้งหมด | 373 | 84 | 40 | 12 | 14 | 3 | 74 | 18 | 19 | 3 | 520 | 120 |
- ↑ รวมโกปาดูบราซิล, เอฟเอคัพ, โกปาเดลเรย์, เดเอ็ฟเบ-โพคาล, เอมีร์คัพ
- ↑ รวมฟุตบอลลีกคัพ/อีเอฟแอลคัพ, กาตารีสตาร์สคัพ
- ↑ ลงเล่นในCampeonato Carioca
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลงเล่นในยูฟ่าซูเปอร์คัพ
- ↑ 6.0 6.1 ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
- ↑ ลงเล่น 5 ครั้งในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ลงเล่นครั้งเดียวในยูฟ่ายูโรปาลีก
- ↑ ลงเล่นในซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา
- ↑ ลงเล่นในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก
ทีมชาติ
แก้- ณ วันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2022[86]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
บราซิล | 2010 | 1 | 0 |
2011 | 0 | 0 | |
2012 | 0 | 0 | |
2013 | 0 | 0 | |
2014 | 4 | 0 | |
2015 | 7 | 1 | |
2016 | 11 | 5 | |
2017 | 9 | 2 | |
2018 | 13 | 5 | |
2019 | 16 | 4 | |
2020 | 2 | 1 | |
2021 | 0 | 0 | |
2022 | 5 | 3 | |
รวม | 68 | 21 |
ประตูในนามทีมชาติ
แก้- Scores and results list Brazil's goal tally first:
Goal | วันที่ | สนาม | คู่แข่งขัน | ประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 7 มิถุนายน 2015 | Allianz Parque, เซาเปาลู, บราซิล | เม็กซิโก | 1–0 | 2–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
2. | 8 มิถุนายน 2016 | Camping World Stadium, Orlando, United States | เฮติ | 1–0 | 7–1 | โกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ |
3. | 2–0 | |||||
4. | 7–1 | |||||
5 | 6 ตุลาคม 2016 | Arena das Dunas, Natal, Brazil | โบลิเวีย | 2–0 | 5–0 | ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก |
6. | 10 พฤศจิกายน 2016 | Estádio Mineirão, Belo Horizonte, Brazil | อาร์เจนตินา | 1–0 | 3–0 | |
7. | 27 มีนาคม 2017 | Arena Corinthians, São Paulo, Brazil | ปารากวัย | 1–0 | 3–0 | |
8. | 31 สิงหาคม 2017 | Arena do Grêmio, Porto Alegre, Brazil | เอกวาดอร์ | 2–0 | 2–0 | |
9. | 23 มีนาคม 2018 | Luzhniki Stadium, Moscow, Russia | รัสเซีย | 2–0 | 3–0 | เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร |
10. | 10 มิถุนายน 2018 | Ernst-Happel-Stadion, Vienna, Austria | ออสเตรีย | 3–0 | 3–0 | |
11. | 17 มิถุนายน 2018 | Rostov Arena, Rostov-on-Don, Russia | สวิตเซอร์แลนด์ | 1–0 | 1–1 | ฟุตบอลโลก 2018 |
12. | 22 มิถุนายน 2018 | Krestovsky Stadium, Saint Petersburg, Russia | คอสตาริกา | 1–0 | 2–0 |
เกียรติประวัติ
แก้สโมสร
แก้วัสกู ดา กามา
- Campeonato Brasileiro Série B: 2009
อินเตอร์มิลาน
- โกปปาอีตาเลีย: 2010–11
- ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา: 2010
บาร์เซโลนา
- ลาลิกา: 2017–18
- โกปาเดลเรย์: 2017–18
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2018
ทีมชาติ
แก้บราซิล
- FIFA U-20 World Cup: 2011
- Superclásico de las Américas: 2014
รางวัลส่วนตัว
แก้- PFA Fans' Player of the Month: กุมภาพันธ์ 2015
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2014–15
- UEFA Europa League Squad of the Season: 2015–16[87]
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2014–15, 2015–16
- Liverpool FC Players' Player of the Year: 2014–15, 2015–16
- Samba Gold Award (Samba d'Or): 2016[88]
- Football Supporters' Federation Player of the Year: 2016
- FIFPro World XI 4th team: 2017
- ผู้ทำประตูสูงสุดของลิเวอร์พูล: 2016–17[89]
- ประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: (2014–15: เจอกับ เซาแทมป์ตัน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 17 มีนาคม 2016)
- ฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี: (2014–15: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 1 มีนาคม 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015)
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2012–13
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากสมาคมกองเชียร์ผู้พิการ: 2014–15[90], 2015–16
- Liverpool Player of the Month Award (12): มีนาคม 2013, เมษายน 2013, ตุลาคม 2014[91], ธันวาคม 2014[92], มกราคม 2015[93], กุมภาพันธ์ 2015[94], เมษายน 2015[95], สิงหาคม 2015[96], พฤศจิกายน 2015[97], มีนาคม 2016[98], ตุลาคม 2016[99], เมษายน 2017[100]
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (9): กุมภาพันธ์ 2015[101], มีนาคม 2015[102], เมษายน 2015[103], สิงหาคม 2015[104], ตุลาคม 2015[105], กุมภาพันธ์ 2016[106], มีนาคม 2016[107], สิงหาคม 2016[108], ตุลาคม 2016[109]
อ้างอิง
แก้- ↑ "Updated squad lists for 2021/22 Premier League". Premier League. 4 February 2022. สืบค้นเมื่อ 6 February 2022.
- ↑ "FIFA World Cup Russia 2018: List of Players: Brazil" (PDF). FIFA. 15 July 2018. p. 4. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 11 June 2019.
- ↑ "Philippe Coutinho: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 29 April 2023.
- ↑ "Biografia: O berço". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 August 2016. สืบค้นเมื่อ 8 November 2016.
- ↑ Hendrix, Hale (19 July 2017). "Philippe Coutinho Childhood Story Plus Untold Facts". LifeBlogger. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-08. สืบค้นเมื่อ 17 August 2021.
- ↑ "Philippe Coutinho: The story so far". Aston Villa F.C. 12 January 2022. สืบค้นเมื่อ 23 January 2022.
- ↑ "New boy handed vacant No.10 shirt". Liverpoolfc.com. 30 January 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-24. สืบค้นเมื่อ 2014-05-16.
- ↑ "Liverpool 0–2 West Brom" BBC Sport. 11 February 2013. Retrieved 12 February 2013.
- ↑ "Liverpool 5–0 Swansea" BBC Sport. 17 February 2013. Retrieved 17 February 2013.
- ↑ "ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-02. สืบค้นเมื่อ 2015-02-24.
- ↑ "ลิเวอร์พูลถล่มสเปอร์ส 4-0 พร้อมขึ้นนำเป็นจ่าฝูง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-02-24.
- ↑ "Liverpool 3–2 Man City" BBC Sport. 13 April 2014. Retrieved 13 April 2014.
- ↑ "ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ซิตี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-16. สืบค้นเมื่อ 2015-02-24.
- ↑ "โกชิญญูยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-16. สืบค้นเมื่อ 2015-02-24.
- ↑ "ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-07-01.
- ↑ บาโลเตลลี และลอฟเรน ทำประตูชัยสุดดราม่าท้ายเกม[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลบุกเฉือนคิวพีอาร์ท้ายเกม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-10-21.
- ↑ "ลูกโหม่งของสเคอร์เทล ช่วยทีมได้ผลเสมอกับอาร์เซนอล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2014-12-23.
- ↑ สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน[ลิงก์เสีย]
- ↑ "โกชิญญูจรดปากกาเซ็นสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-02-03.
- ↑ ลูกยิงท้ายเกมของโกชิญญูส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-02-25.
- ↑ ความยอดเยี่ยมของโกชิญญูช่วยทีมคว้าชัยเหนือแมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง[ลิงก์เสีย]
- ↑ เวทมนตร์ของโกชิญญูส่งลิเวอร์พูลสู่เวมบลีย์[ลิงก์เสีย]
- ↑ "5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลบุกชนะแบล็กเบิร์น". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-13. สืบค้นเมื่อ 2015-04-12.
- ↑ "วิลลาเบียดเข้ารอบชิงฯ ดับความฝันลิเวอร์พูล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-04-23.
- ↑ "5 ข้อเท็จจริงที่ได้รับจากเกมลิเวอร์พูลชนะควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-08. สืบค้นเมื่อ 2015-05-07.
- ↑ "โกชิญญูกวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-05-22.
- ↑ ความพิเศษของโกชิญญูช่วยหงส์แดงคว้าสามแต้มที่สโต๊ก[ลิงก์เสีย]
- ↑ "5 ข้อเท็จจริงจากชัยชนะของลิเวอร์พูลในนัดเยือนสโต๊ก ซิตี้". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-22. สืบค้นเมื่อ 2015-08-14.
- ↑ หงส์แดงพ่ายเวสต์แฮมที่แอนฟิลด์[ลิงก์เสีย]
- ↑ "คล็อปป์คว้าชัยชนะในลีกเป็นครั้งแรกในเกมหงส์แดงบุกไปชนะเชลซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-11-02.
- ↑ "5 ข้อเท็จจริงที่ได้จากเกมลิเวอร์พูลบุกชนะเชลซีในพรีเมียร์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-11-02.
- ↑ พาเลซบุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้ทีมลิเวอร์พูลของคล็อปป์[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลบุกไปยิงแมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัดถึง 4 ประตู". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-25. สืบค้นเมื่อ 2015-11-23.
- ↑ "5 ข้อเท็จจริงที่เรียนรู้จากชัยชนะของลิเวอร์พูลในเกมเยือนแมนฯ ซิตี้". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-26. สืบค้นเมื่อ 2015-11-24.
- ↑ "ลิเวอร์พูลพ่ายเวสต์แฮม ตกรอบเอฟเอ คัพ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-13. สืบค้นเมื่อ 2016-02-12.
- ↑ ลิเวอร์พูลอกหักพ่ายการดวลจุดโทษในรอบชิงฯ แคปิตัล วัน คัพ[ลิงก์เสีย]
- ↑ ลูกยิงเหนือชั้นของโกชิญญูช่วยให้ลิเวอร์พูลผ่านแมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบต่อไป[ลิงก์เสีย]
- ↑ นักบุญพลิกกลับมาชนะหงส์แดง 3-2[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลและสเปอร์สแบ่งแต้มกันที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-08. สืบค้นเมื่อ 2016-04-05.
- ↑ "ลิเวอร์พูลสร้างประวัติศาสต์ในการกลับมาชนะดอร์ทมุนท์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-18. สืบค้นเมื่อ 2016-04-17.
- ↑ "ชัยชนะอันถล่มทลายของลิเวอร์พูลในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-24. สืบค้นเมื่อ 2016-04-23.
- ↑ "โกชิญญูคว้า 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล LFC Players' Awards". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-16. สืบค้นเมื่อ 2016-05-17.
- ↑ "ลิเวอร์พูลกบุกไปกำชัยเหนืออาร์เซนอลในเกมเปิดฤดูกาล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-17. สืบค้นเมื่อ 2016-08-16.
- ↑ "ลิเวอร์พูลตีตั๋วเข้ารอบ หลังถล่มดาร์บีขาดลอย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-24. สืบค้นเมื่อ 2016-09-22.
- ↑ "ลิเวอร์พูลฟอร์มเยี่ยม เปิดแอนฟิลด์ถล่มฮัลล์ 5-1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-27. สืบค้นเมื่อ 2016-09-26.
- ↑ "มาเน่ และโกชิญญู ยิงคว้าชัยเหนือเวสต์บรอมที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-26. สืบค้นเมื่อ 2016-10-24.
- ↑ "ลิเวอร์พูลครองจ่าฝูง หลังถล่มวัตฟอร์ดที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-09. สืบค้นเมื่อ 2016-11-08.
- ↑ สโมสรลิเวอร์พูลประกาศการต่อสัญญาระยะยาวของฟิลิปเป้ โกชิญญู[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สัมภาษณ์พิเศษ ฟิลิปเป้ โกชิญญู หลังต่อสัญญาฉบับใหม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-22. สืบค้นเมื่อ 2017-01-25.
- ↑ "ลิเวอร์พูลพ่ายเลสเตอร์ ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-07. สืบค้นเมื่อ 2017-03-03.
- ↑ "ลิเวอร์พูลคว้าชัยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี ที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-04. สืบค้นเมื่อ 2017-04-03.
- ↑ "ลิเวอร์พูลเสมอบอร์นมัธที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-09. สืบค้นเมื่อ 2017-04-07.
- ↑ "สองคู่หูบราซิลยิงให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะสโต๊ก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-10. สืบค้นเมื่อ 2017-04-10.
- ↑ พาเลซบุกมาฉกสามแต้มที่แอนฟิลด์[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลบุกทุบเวสต์แฮมพร้อมเก็บคลีนชีต". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-17. สืบค้นเมื่อ 2017-05-16.
- ↑ "ลิเวอร์พูลทุบโบโร่ขาดลอย 3-0 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-23. สืบค้นเมื่อ 2017-05-23.
- ↑ "ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ถึงคิง เพาเวอร์ สเตเดียม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-02. สืบค้นเมื่อ 2017-09-24.
- ↑ ลิเวอร์พูลเสมอสปาร์ตัก มอสโก ในเกมแชมเปียนส์ลีก[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ลิเวอร์พูลเสมอนิวคาสเซิล 1-1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-04. สืบค้นเมื่อ 2017-10-02.
- ↑ "ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มหรูถล่มมาริบอร์ในแชมเปียนส์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-21. สืบค้นเมื่อ 2017-10-18.
- ↑ "ลิเวอร์พูลเฉลิมฉลองการทำลายสถิติในค่ำคืนยุโรปที่มาริบอร์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-21. สืบค้นเมื่อ 2017-10-21.
- ↑ "ซาลาห์เหมาสองประตูอีกครั้งในเกมถล่มเซาท์แฮมป์ตัน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-22. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ "ลิเวอร์พูลโชว์ความคมในแนวรุก ออกไปถล่มไบรท์ตัน 5-1!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-06. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ "โกชิญญูกดแฮตทริก! ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตัก มอสโก 7-0 พร้อมเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-08. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ "ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มบอร์นมัธ พร้อมเก็บคลีนชีต". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-23. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ "ลิเวอร์พูลเก็บหนึ่งแต้ม ในเกมสุดมันส์ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-25. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ "เปิดกล่องของขวัญที่แอนฟิลด์ กับ 5 ประตูสุดสวยเหนือสวอนซี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-31. สืบค้นเมื่อ 2018-01-08.
- ↑ 70.0 70.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCNN Interview
- ↑ "Philippe Coutinho is expecting a boy with wife Aine". futballnews.com. 6 July 2020.
- ↑ "Barcelona and Koeman have complete confidence in Philippe Coutinho". Sport. Barcelona. 28 December 2020.
- ↑ Burt, Jason (14 December 2013). "Tottenham Hotspur v Liverpool: Brazilian midfielder Philippe Coutinho inspired by hero Ronaldinho". The Daily Telegraph. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 January 2022. สืบค้นเมื่อ 16 August 2016.
- ↑ "Coutinho's Portuguese passport confirmed to free up Barcelona squad space". Marca. Madrid. 20 December 2021. สืบค้นเมื่อ 10 August 2018.
- ↑ 75.00 75.01 75.02 75.03 75.04 75.05 75.06 75.07 75.08 75.09 75.10 "Philippe Coutinho: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2012/2013". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2013/2014". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2014/2015". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2015/2016". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2016/2017". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2017/2018". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "Games played by ฟีลีปี โกชิญญู in 2023/2024". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 12 August 2023.
- ↑ "Brazil - Philippe Coutinho". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 10 October 2023.
- ↑ "Philippe Coutinho". National Football Teams. Benjamin Strack-Zimmermann. สืบค้นเมื่อ 12 March 2023.
- ↑ "UEFA Europa League Squad of the Season". UEFA. 20 May 2016.
- ↑ "ฟีลีปี โกชิญญู คว้ารางวัลแซมบ้า โกลด์ประจำปี 2016". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-04. สืบค้นเมื่อ 2017-01-05.
- ↑ "โกชิญญูทำสถิติยิงประตูให้ลิเวอร์พูลมากที่สุดในฤดูกาล 2016-17". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-25. สืบค้นเมื่อ 2017-05-24.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัล LDSA". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-05-23.
- ↑ โกชิญญูคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ประกาศนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-01-09.
- ↑ "โกชิญญูคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-02-18.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนอีกครั้ง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-03-21.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-05-16.
- ↑ "โกชิญญูได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเดือนสิงหาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-09-16.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-12-18.
- ↑ "โกชิญญู คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-08. สืบค้นเมื่อ 2016-04-07.
- ↑ โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม[ลิงก์เสีย]
- ↑ โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลประจำเดือนเมษายน[ลิงก์เสีย]
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-03-13.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-04-13.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลประตูประยอดเยี่ยม 3 เดือนซ้อน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-15. สืบค้นเมื่อ 2015-05-16.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-09-19.
- ↑ "ลูกยิงของโกชิญญูได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-11-29.
- ↑ "สุดยอดฟรีคิกของโกชิญญูได้รับการโหวตให้เป็นประตูที่ดีที่สุดของเดือนกุมภาพันธ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-15. สืบค้นเมื่อ 2016-03-14.
- ↑ "เวทมนตร์ของโกชิญญูที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมเดือนมีนาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-14. สืบค้นเมื่อ 2016-04-02.
- ↑ "โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยม ประจำเดือนสิงหาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-18. สืบค้นเมื่อ 2015-09-19.
- ↑ "โกชิญญูเอาชนะมาเน่ และฟีร์มีนู คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ต.ค." คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-10. สืบค้นเมื่อ 2016-11-09.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Philippe Coutinho at Aston Villa F.C.
- ฟีลีปี โกชิญญู ที่พรีเมียร์ลีก
- ฟีลีปี โกชิญญู – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
- ฟีลีปี โกชิญญู – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)