ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตำแหน่งผู้ว่าการยังดำรงตำแหน่งอื่นเป็น รองประธานคณะกรรมการธปท., ประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน, ประธานคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน และ ประธานคณะกรรมการระบบการชำระเงิน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี ติดต่อกันได้ไม่เกินสองวาระ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อไปยังคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติรับรองจึงจะทูลเกล้าฯไปยังพระมหากษัตริย์เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย | |
---|---|
ตราธนาคารแห่งประเทศไทย | |
คณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย | |
ผู้เสนอชื่อ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์ไทย |
วาระ | 5 ปีและไม่เกินสองวาระ |
ผู้ประเดิมตำแหน่ง | พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย |
สถาปนา | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 |
เงินตอบแทน | 1,111,572 บาทต่อเดือน[1] |
เว็บไซต์ | ผู้ว่าการอดีตถึงปัจจุบัน |
คุณสมบัติ
แก้ผู้มีสิทธิ์ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีสัญชาติไทย สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี มีความรู้ความสามารถในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคและสถาบันการเงิน มีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของธนาคารแห่งประเทศไทย หากเคยเป็นข้าราชการการเมืองหรือมีตำแหน่งในพรรคการเมือง
หน้าที่
แก้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มีหน้าที่กำกับดูแลนโยบายและบริหารธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเงินของประเทศ แม้โดยตำแหน่งจะต่ำกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่ก็มีความสำคัญมาก ดังข้อความเรื่อง "ศาสตร์และศิลป์แห่งการเป็นผู้ว่าการธนาคารกลาง" ของ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่ว่า
...ตำแหน่งของผู้ว่าการธนาคารชาตินี้ในทำเนียบราชการไทยเป็นตำแหน่งที่ต่ำกว่ารัฐมนตรี และเราจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับรัฐมนตรีอยู่เฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้กำกับการงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะแต่ผู้ว่าการเท่านั้น ผู้ใหญ่คนอื่นในธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย เพราะฉะนั้น การติดต่อกับรัฐมนตรีเพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมรัฐมนตรีให้ดำเนินนโยบายอย่างใดอย่างหนึ่งที่ธนาคารเห็นสมควรก็ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้านโยบายต่างๆไม่ประสานกัน การดำเนินราชการแผ่นดินก็จะเป็นไปโดยราบรื่นมิได้
เช่น ถ้างบประมาณแผ่นดินตั้งรายจ่ายไว้เกินกำลัง จะทำให้เงินเฟ้อ ถ้าแก้ไขไม่ได้และต้องการจะรักษาเสถียรภาพไว้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็จำเป็นต้องจำกัดทางด้านการเงินด้านอื่น หมายความว่าเงินที่ปล่อยให้ชาวไร่ชาวนากับพ่อค้าอุตสาหกรที่จะต้องน้อยลงไป จะต้องไปหดเครดิตทางธนาคารพาณิชย์ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็อาจจะเสียหาย นี่เป็นเรื่องที่เราต้องพูดกับรัฐมนตรีแทบทุกปี
ถ้าเราไม่สามารถที่จะเกลี้ยกล่อมท่านได้ หน้าที่ของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะด้อยลงไป ความรับผิดชอบและประโยชน์ที่เราจะทำให้ก็จะเสียหายไปเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ในการที่จะติดต่อกับรัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้มีความเชื่อถือให้รัฐบาลหรือบุคคลในรัฐบาลเชื่อ ถือว่าเราไม่ได้เห็นประโยชน์ของส่วนตัว ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เห็นแก่ประโยชน์ของแผ่นดิน...[2]
รายพระนาม/รายนาม
แก้ลำดับ (สมัย) |
รูป | รายพระนาม/รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ |
1 (1) |
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย | 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2489 | |
---|---|---|---|---|
2 (1) |
เสริม วินิจฉัยกุล | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2489 | 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 | |
3 (1) |
เล้ง ศรีสมวงศ์ | 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 | 2 กันยายน พ.ศ. 2491 | |
1 (2) |
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย | 3 กันยายน พ.ศ. 2491 | 2 ธันวาคม พ.ศ. 2491 | |
3 (2) |
เล้ง ศรีสมวงศ์ | 3 ธันวาคม พ.ศ. 2491 | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2492 | |
4 | หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์ | 4 สิงหาคม พ.ศ. 2492 | 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 | |
2 (2) |
เสริม วินิจฉัยกุล | 1 มีนาคม พ.ศ. 2495 | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 | |
5 | เกษม ศรีพยัคฆ์ | 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 | |
6 | โชติ คุณะเกษม | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 | 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 | |
7 | ป๋วย อึ๊งภากรณ์ | 11 มิถุนายน พ.ศ. 2502 | 15 สิงหาคม พ.ศ. 2514 | |
8 | พิสุทธิ์ นิมมานเหมินท์ | 16 สิงหาคม พ.ศ. 2514 | 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 | |
9 | เสนาะ อูนากูล | 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2522 | |
10 | นุกูล ประจวบเหมาะ | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 | 13 กันยายน พ.ศ. 2527 | |
11 | กำจร สถิรกุล | 14 กันยายน พ.ศ. 2527 | 5 มีนาคม พ.ศ. 2533 | |
12 | ชวลิต ธนะชานันท์ | 6 มีนาคม พ.ศ. 2533 | 30 กันยายน พ.ศ. 2533 | |
13 | วิจิตร สุพินิจ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2533 | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 | |
14 | เริงชัย มะระกานนท์ | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 | 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 | |
15 | ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ | 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 | |
16 | หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล | 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 | 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 | |
17 | หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล | 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2549 | |
18 | ธาริษา วัฒนเกส | 8 ตุลาคม พ.ศ. 2549 | 30 กันยายน พ.ศ. 2553 | |
19 | ประสาร ไตรรัตน์วรกุล | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 | 30 กันยายน พ.ศ. 2558 | |
20 | วิรไท สันติประภพ[3] | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 | 30 กันยายน พ.ศ. 2563 | |
21 | เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563[4] | ปัจจุบัน |
เชิงอรรถ
แก้- นอกจากนั้น รายชื่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยังใช้เป็นส่วนช่วยในการดูอายุของธนบัตรไทยด้วย
อ้างอิง
แก้- ↑ "เปิดทรัพย์สิน 254 ล.! 'เศรษฐพุฒิ' ผู้ว่าฯ ธปท. สะสมพระเครื่องดังเพียบ". bangkokbiznews. กรุงเทพธุรกิจ. 27 December 2023. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024.
- ↑ วีรพงษ์ : การเมืองกับแบงก์ชาติ โดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย