แอมะซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์
แอมะซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์ หรือเดิมชื่อ แอมะซอน สตูดิโอส์ เป็นสตูดิโอผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่งมีเจ้าของคือแอมะซอน เปิดตัวเมื่อปี 2010 ใช้ชื่อปัจจุบันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 หลังจากการควบรวมกิจการกับเอ็มจีเอ็มโฮลดิงส์ ซึ่งแอมะซอนได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อปี 2022[3]
โลโก้ที่ใช้ตั้งแต่ปี 2023 | |
คัลเวอร์สตูดิโอส์, สำนักงานใหญ่ของแอมะซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์ ใน คัลเวอร์ซิตี, รัฐแคลิฟอร์เนีย | |
ชื่อเดิม | แอมะซอน สตูดิโอส์ (2010–2023) |
---|---|
ประเภท | บริษัทย่อย |
อุตสาหกรรม | บันเทิง |
ก่อนหน้า | |
ก่อตั้ง | 16 พฤศจิกายน 2010 | (ในชื่อ แอมะซอน สตูดิโอส์)
สำนักงานใหญ่ | , สหรัฐอเมริกา |
พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
บุคลากรหลัก | Jennifer Salke (ซีอีโอ) |
ผลิตภัณฑ์ |
|
บริษัทแม่ | แอมะซอน |
แผนก |
|
บริษัทในเครือ | |
เว็บไซต์ | amazonmgmstudios.com |
เชิงอรรถ / อ้างอิง [1][2] |
ผลงานจากสตูดิโอแห่งนี้ ณ เดือนกันยายน 2023 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ (เอ็มจีเอ็ม) และบริการสตรีมมิ่งของแอมะซอนเองอย่างแอมะซอนไพรม์วิดีโอ[4]
นอกเหนือจากแอมะซอนไพรม์วิดีโอแล้ว แอมะซอน เอ็มจีเอ็ม สตูดิโอส์ ยังถือเป็นหนึ่งในสองสมาชิกของสมาคมภาพยนตร์สหรัฐ (MPA) ซึ่งบริษัทเข้าร่วมเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024
ภาพรวม
แก้การก่อตั้งและความสำเร็จในช่วงแรก (2010–2021)
แก้ในปี 2008 แอมะซอนได้ขยายกิจการเข้าสู่การผลิตภาพยนตร์โดยผลิตภาพยนตร์เรื่อง The Stolen Child ร่วมกับทเวนตีท์เซนจูรีสตูดิโอส์ [5] ในเดือนกรกฎาคม 2015 แอมะซอนประกาศว่าได้ซื้อภาพยนตร์เรื่องใหม่ของสไปก์ ลี เรื่อง Chi-Raq ไว้เป็นแอมะซอนออริจินัลมูฟวี่ส์เรื่องแรก[6][7][8]
ในปี 2010 แอมะซอนสตูดิโอส์เริ่มต้นให้ผู้คนส่งบทภาพยนตร์เข้ามา ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้โหวต นักเขียนบทจะได้รับแจ้งว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลเงินสด อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยุติในอีกแปดปีต่อมาเนื่องจากบทที่ส่งมามีคุณภาพต่ำ[9]
นอกจากนี้ แอมะซอนสตูดิโอส์ยังเปิดตัวหนังสือการ์ตูนชุดเดียวของพวกเขาในชื่อ Blackburn Burrow ในปี 2012 โดยให้ดาวน์โหลดฟรี[10] แอมะซอนมีแบบสำรวจที่รวบรวมคำติชมเพื่อพิจารณาว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะสร้างการ์ตูนเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์[10]
แอมะซอนสตูดิโอส์ได้รับบทภาพยนตร์ที่ส่งเข้ามาพิจารณามากกว่า 10,000 เรื่อง ณ เดือนกันยายน 2012[10] และบทละครโทรทัศน์ 2,700 เรื่อง ณ เดือนมีนาคม 2013[11] มีภาพยนตร์ 23 เรื่องและละครซีรีส์ 26 เรื่องที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาในเดือนมีนาคม 2013[10][12] ในช่วงปลายปี 2016 บริษัทได้ปรับโครงสร้างแผนกภาพยนตร์ใหม่เป็นไพรม์มูฟวี่ส์[13]
ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2017 มีการประกาศว่า Wonder Wheel ที่จะเข้าฉายในเดือนธันวาคม 2017 บริษัทแอมะซอนสตูดิโอส์จะเป็นผู้จัดจำหน่ายเอง ก่อนหน้านี้ แอมะซอนสตูดิโอส์จะต้องอาศัยสตูดิโอภายนอกหลายแห่งในการจัดจำหน่ายผลงานของพวกเขา[14] บริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์การออกอากาศทางโทรทัศน์ทั่วโลกของ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ในราคา 250 ล้านเหรียญสหรัฐ[15] อย่างไรก็ตาม Amazon ยังคงมีตัวแทนจัดจำหน่ายภายนอกสหรัฐอเมริกา เช่น Elevation Pictures ในแคนาดา รวมถึงวอร์เนอร์บราเธอส์ และ StudioCanal ในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส
ในเดือนเมษายน 2018 แอมะซอนสตูดิโอส์ประกาศว่าจะไม่รับการส่งบทภาพยนตร์แบบเปิดอีกต่อไป เพื่อจำกัดจำนวนผู้สร้างภาพยนตร์ที่ทำงานร่วมกับพวกเขาให้เหลือเฉพาะผู้ที่สตูดิโอมีความสัมพันธ์ในการทำงานกับพวกเขาเท่านั้น และปฏิเสธไม่ให้ผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่เสนอโปรเจ็กต์ของพวกเขา โดยถือว่าโปรเจ็กต์เหล่านี้เป็นผลงานที่ "ไม่โดดเด่นหรือมีความสามารถเพียงพอที่จะทำงานร่วมกับพวกเขา"[16]
การเข้าซื้อกิจการเอ็มจีเอ็มและการรีแบรนด์ (2021–ปัจจุบัน)
แก้ในเดือนพฤษภาคม 2021 แอมะซอน (บริษัทแม่ของแอมะซอนสตูดิโอส์) ได้เข้าสู่การเจรจาเพื่อซื้อกิจการของเมโทร-โกลด์วิน-เมเยอร์ (เอ็มจีเอ็ม) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2021 มีการประกาศว่า แอมะซอนจะเข้าซื้อสตูดิโอนี้ด้วยมูลค่า 8.45 พันล้านดอลลาร์ โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และจะดำเนินงานร่วมกับแอมะซอนสตูดิโอส์และแอมะซอนไพรม์วิดีโอต่อไป[3] Amazon จะยังคงเป็นพันธมิตรกับ United Artists Releasing (บริษัทร่วมจัดจำหน่ายระหว่างเอ็มจีเอ็มและ Annapurna Pictures) ต่อไป ซึ่งจะดำเนินการและเผยแพร่ภาพยนตร์ของเอ็มจีเอ็มในโรงภาพยนตร์ต่อไป
ในเดือนสิงหาคม 2021 มีรายงานว่า Steven Prinz ได้เซ็นสัญญาข้อตกลงทางทีวีโดยรวมและข้อตกลงเบื้องต้นกับสตูดิโอ[17] ในเดือนกันยายน 2021 มีรายงานว่า Brian Otaño ได้ลงนามในข้อตกลงกับแอมะซอนสตูดิโอส์[18] ในเดือนกันยายน เอ็ดดี เมอร์ฟี ยังได้เซ็นสัญญาเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์กับทางแอมะซอนสตูดิโอส์เป็นครั้งแรก[19]
ในเดือนมกราคม 2022 เวสต์บรู๊ค ได้ลงนามข้อตกลงล่วงหน้าหลายปีกับแอมะซอนสตูดิโอส์ ในเดือนเดียวกันนั้น แอมะซอนสตูดิโอส์ได้ลงนามในข้อตกลงกับ 87North Productions
อ้างอิง
แก้- ↑ Lumb, David (February 10, 2018). "NBC's Jennifer Salke is the new Amazon Studios chief". Engadget. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 4, 2019. สืบค้นเมื่อ February 15, 2018. Her predecessor, Roy Price, resigned in October 2017
- ↑ Andreeva, Nellie (17 October 2016). "Amazon Studios Comedy Chief Joe Lewis Adds Drama Oversight, Morgan Wandell To Head International Productions". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2021. สืบค้นเมื่อ 19 February 2020.
- ↑ 3.0 3.1 Spangler, Todd; Lang, Brent (May 26, 2021). "Amazon Buys MGM, Studio Behind James Bond, for $8.45 Billion". Variety (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2022. สืบค้นเมื่อ May 26, 2021.
- ↑ Perez, Sarah (May 2, 2012). "Amazon Studios Now Funding Original Content Series For Amazon Video Service". TechCrunch. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 19, 2019. สืบค้นเมื่อ May 2, 2012.
- ↑ Graser, Marc (February 21, 2008). "Amazon, Fox nursing 'Stolen '". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2008. สืบค้นเมื่อ February 21, 2008.
- ↑ "Amazon Studios acquiring Spike Lee film as its 1st release". The Denver Post. The Associated Press. July 15, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 16, 2015. สืบค้นเมื่อ July 15, 2015.
- ↑ Barnes, Henry (2015-07-16). "Spike Lee's Chiraq gets Amazon release – and Oscars push". The Guardian (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-28. สืบค้นเมื่อ 2018-02-27.
- ↑ Kharpal, Arjun (2015-07-16). "Spike Lee directs Amazon's first ever movie". CNBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-28. สืบค้นเมื่อ 2018-02-27.
- ↑ Stone, Brad (2021). Amazon unbound: Jeff Bezos and the invention of a global empire. New York: Simon & Schuster. p. 143. ISBN 978-1-9821-3261-3.
- ↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 Fritz, Ben (September 12, 2012). "Amazon Studios going into comics". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2012. สืบค้นเมื่อ September 12, 2012.
- ↑ Vanderbilt, Tom (March 28, 2013). "The Nielsen Family Is Dead". Wired. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 28, 2013. สืบค้นเมื่อ March 28, 2013.
- ↑ Moyer, Edward (June 23, 2012). "Amazon's 'Studios' effort picks first TV shows to develop". CNET. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2012. สืบค้นเมื่อ June 23, 2012.
- ↑ Andreeva, Nellie (17 October 2016). "Amazon Studios Comedy Chief Joe Lewis Adds Drama Oversight, Morgan Wandell To Head International Productions". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 June 2020. สืบค้นเมื่อ 19 February 2020.
- ↑ "Amazon Moves Into Self-Distribution With Woody Allen's 'Wonder Wheel' (EXCLUSIVE)". Variety. 27 July 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2017. สืบค้นเมื่อ 29 September 2017.
- ↑ "Amazon's $1bn bet on Lord of the Rings shows scale of its TV ambition". The Guardian. November 21, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 10, 2020. สืบค้นเมื่อ October 18, 2020.
- ↑ Spangler, Todd (April 14, 2018). "Amazon Studios Shuts Down Open Script-Submission Program". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2018. สืบค้นเมื่อ November 8, 2018.
- ↑ Otterson, Joe (2021-08-17). "Amazon Inks Overall TV Deal, First-Look Film Deal With Development Executive Steven Prinz". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-08-18. สืบค้นเมื่อ 2021-08-18.
- ↑ Cordero, Rosy (2021-09-01). "Amazon Studios Inks Overall Deal with TV Scribe & Playwright Brian Otaño". Deadline (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-02. สืบค้นเมื่อ 2021-09-02.
- ↑ D'Alessandro, Anthony (September 22, 2021). "Eddie Murphy Signs Three-Picture & First-Look Film Deal With Amazon Studios". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 22, 2021. สืบค้นเมื่อ September 22, 2021.