หม่อมเจ้าขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร
มหาอำมาตย์ตรี หม่อมเจ้าขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร (29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2431 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2468) อดีตผู้พิพากษาศาลคดีต่างประเทศ และอดีตอัยการ กระทรวงยุติธรรม
หม่อมเจ้าขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 4 | |
ประสูติ | 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2431 |
ชีพิตักษัย | 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2468 (37 ปี) |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ |
พระมารดา | หม่อมสุภาพ กฤดากร ณ อยุธยา |
พระประวัติ
แก้หม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร ทรงเป็นโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ กับหม่อมสุภาพ กฤดากร ณ อยุธยา ประสูติเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2430 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2431) ปีกุน ในปี พ.ศ. 2440 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เกษากันต์ ในพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
ในปี พ.ศ. 2442 ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนราชวิทยาลัย จนสำเร็จการศึกษา
ในปี พ.ศ. 2446 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนักเรียนหลวงออกไปศึกษาวิทยาศาสตร์ที่ยุโรป ได้ศึกษาที่โรงเรียนแฮร์โรว์ (Harrow school) ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 4 ปี จนสำเร็จการศึกษา
ในปี พ.ศ. 2450 เข้าศึกษาวิชาประวัติศาสตร์และนิติศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยใช้เวลาศึกษา 3 ปี จนสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญา ศิลปศาสตรบัณฑิต (B.A.) และ นิติศาสตรบัณฑิต (LL.M)
ในปี พ.ศ. 2453 ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย ณ กรุงลอนดอน สอบได้เป็นเนติบัณฑิตอังกฤษ แล้วไปเป็นนักเรียนล่ามประจำอยู่ที่สถานราชทูตสยามแห่งกรุงปารีส และศึกษาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ อีก 2 ปี สอบได้ประกาศนียบัตร
ในปี พ.ศ. 2455 เสด็จกลับเข้ามารับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ ในตำแหน่งผู้ช่วยชั้นที่ 1 กรมที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน
ในปี พ.ศ. 2456 ได้รับพระราชทานยศเป็น อำมาตย์เอก แล้วได้เข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมายกระทรวงยุติธรรม สอบได้เป็นเนติบัณฑิตสยาม ในปี พ.ศ. 2459
ในปี พ.ศ. 2457 เป็นเลขานุการกรมที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน
ในปี พ.ศ. 2461 หลังจากลาผนวชแล้ว ได้เข้ารับราชการในกระทรวงยุติธรรม ในตำแหน่งอัยการ หลังจากนั้นได้เสด็จออกไปรับราชการเป็นเลขานุการใหญ่ แห่งคณะอัครราชทูตพิเศษสยาม ในการประชุมปรึกษาสัญญาสันติภาพ ณ กรุงปารีส
ในวันที่ 9 เมษายน 2463 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับสำนักงานสำหรับตรวจแลใช้หนี้เชลย[1] ต่อมาในวันที่ 1 มิถุนายน 2463 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลต่างประเทศ[2]
ในปี พ.ศ. 2463 ได้เป็นอาจารย์พิเศษ โรงเรียนกฎหมายกระทรวงยุติธรรม สอนวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง
ในปี พ.ศ. 2464 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการเนติบัณฑิตยสภา
ในปี พ.ศ. 2465 เป็นกรรมการสอดส่องความประพฤติทนายความ
ในปี พ.ศ. 2467 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรรมการแห่งสภานิติศึกษา และได้รับการเลื่อนยศเป็น "มหาอำมาตย์ตรี" และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับตระกูลจุลจอมเกล้า ชั้น ทุติยจุลจอมเกล้า พร้อมพานทองและเครื่องยศ
ในปี พ.ศ. 2468 มหาอำมาตย์ตรีหม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร ได้รับพระมาหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี[3]
หม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ กฤดากร ประชวรพระโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม เนื่องด้วยปับผาสะอักเสบมาก สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2468 เวลา 2 นาฬิกา 20 นาที สิริพระชันษา 37 ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบทองลายก้านขด ฉัตรเบญจา 4 คัน ตั้งประดับ เมื่อเวลารับพระราชทานน้ำสรงศพ มีประโคมกลองชนะ 10 จ่าปี 1[4]
พระนิพนธ์
แก้หม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ ทรงผนวชในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปฌาย์จารย์ ในขณะที่หม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ ผนวชและจำพรรษาอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ศึกษาพระธรรมวินัย สอบได้เป็นนักธรรมชั้นตรี และได้ทรงนิพนธ์หนังสือ "พระไตรรัตน์" ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตำราในการศึกษาพระไตรปิฎกของพระภิกษุสามเณร จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2467
พระยศ
แก้พระยศพลเรือน
แก้เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2464 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)[7]
- พ.ศ. 2467 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[8]
- พ.ศ. 2461 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. 2460 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[9]
- พ.ศ. 2461 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 4 (ว.ป.ร.4)
อ้างอิง
แก้- ↑ ประกาศกระทรวงยุติธรรม
- ↑ "แจ้งความกระทรวงยุติธรรม" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา: 792. 6 มิถุนายน 1920.
- ↑ การพระราชพิธีตั้งองคมนตรี พระพุทธศักราช 2468http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/D/145.PDF
- ↑ ข่าวสิ้นชีพิตักษัย และประวัติหม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์ กระทรวงยุติธรรม
- ↑ พระราชทานยศ (หน้า ๒๔๘๔)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานยศ, เล่ม ๓๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๙๐๑, ๖ มกราคม ๒๔๖๐
- ↑ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เล่ม 38 หน้า 3195 ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 29 มกราคม 2464
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้าฝ่ายหน้า, เล่ม ๔๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๖๕๖, ๒๓ พฤศจิกายน ๒๔๖๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๔, ตอน ๐ ง, ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐, หน้า ๙๔๗