พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์)
มหาอำมาตย์ตรี พระยานลราชสุวัจน์ ชื่อจริง ทองดี นลราชสุวัจน์ (สกุลเดิม วณิกพันธุ์ ; 8 สิงหาคม พ.ศ. 2424 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2496) อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราว และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 13
พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์) | |
---|---|
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ชั่วคราว) | |
ดำรงตำแหน่ง 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 16 มิถุนายน พ.ศ. 2489 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
นายกรัฐมนตรี | ปรีดี พนมยงค์ |
ก่อนหน้า | ปรีดี พนมยงค์ |
ถัดไป | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร พระยามานวราชเสวี |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กันยายน พ.ศ. 2488 – 31 มกราคม พ.ศ. 2489 | |
นายกรัฐมนตรี | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
ก่อนหน้า | ดิเรก ชัยนาม |
ถัดไป | เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 8 สิงหาคม พ.ศ. 2424 เมืองกรุงเก่า ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 6 มีนาคม พ.ศ. 2496 (71 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธ |
คู่สมรส | คุณหญิงอ่อน นลราชสุวัจน์ |
ประวัติ
แก้พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์) เป็นบุตรนายคง และนางจุ้ย เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2424 ที่ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 10 คน
พระยานลราชสุวัจน์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2496 พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2496[1]
งานการเมือง
แก้พระสุธรรมวินิจฉัย ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชั่วคราว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 13[2]
เมื่อ พ.ศ. 2489 หลังการลาออกของปรีดี พนมยงค์ พระยานลราชสุวัจน์ (ทองดี นลราชสุวัจน์) พระสุธรรมวินิจฉัย (ชม วณิกเกียรติ) และสงวน จูฑะเตมีย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชั่วคราว ตามมาตรา 11 ของรัฐธรรมนูญ และได้มีส่วนร่วมในการกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชให้เสด็จขึ้นครองราชย์[3][4]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2482 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[5]
- พ.ศ. 2473 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[6]
- พ.ศ. 2462 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[7]
- พ.ศ. 2478 – เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)[8]
- พ.ศ. 2471 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[9]
- พ.ศ. 2468 – เหรียญศารทูลมาลา (ร.ศ.ท.)[10]
- พ.ศ. 2446 – เหรียญทวีธาภิเศก (ท.ศ.)
- พ.ศ. 2450 – เหรียญรัชมงคล (ร.ร.ม.)
- พ.ศ. 2451 – เหรียญรัชมังคลาภิเศก รัชกาลที่ 5 (ร.ม.ศ.5)
- พ.ศ. 2454 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 (ร.ร.ศ.6)
- พ.ศ. 2468 – เหรียญบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 7 (ร.ร.ศ.7)
- พ.ศ. 2475 – เหรียญเฉลิมพระนคร 150 ปี (ร.ฉ.พ.)
อ้างอิง
แก้- ↑ อธิบายแผนที่พระนครศรีอยุธยากับคำวินิจฉัยของพระยาโบราณราชธานินทร์ ฉบับชำระครั้งที่ 2[ลิงก์เสีย]
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๒ ราย)
- ↑ บทที่ 3 สถาบันพระมหากษัตริย์ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช[ลิงก์เสีย]
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งนายตำรวจเอกเป็นหัวราชสำนัก (จำนวน ๑๖ ราย)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๕๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๗๐๑, ๑๑ ธันวาคม ๒๔๘๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา, เล่ม ๔๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๐๘๑, ๑๖ พฤศจิกายน ๒๔๗๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๓๖ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๒๙๘, ๒๕ มกราคม ๒๔๖๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, บัญชีรายนามผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ, เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๙๙, ๒๖ พฤษภาคม ๒๔๗๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๔๕ ตอน ๐ ง หน้า ๒๔๑๐, ๑๘ พฤศจิกายน ๒๔๗๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพระราชทาน, เล่ม ๔๓ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๖๑, ๒ พฤษภาคม ๒๔๖๙