พระยาชัยสุนทร (หล้า)
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บทความชีวประวัตินี้เขียนเหมือนประวัติสมัครงาน |
พระยาชัยสุนทร (หล้า) หรืออีกนามเรียกว่า “ท้าวหล้า” เป็นเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 (พ.ศ. 2381–2390)[1] เป็นต้นเชื้อสายตระกูล “วงศ์กาฬสินธุ์“ ซึ่งผู้ใช้นามสกุลส่วนใหญ่ตั้งรกรากและอาศัยอยู่ในจังหวัดสกลนครในปัจจุบัน[ต้องการอ้างอิง]
พระยาชัยสุนทร (หล้า) | |
---|---|
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2381 – พ.ศ. 2390 | |
ก่อนหน้า | พระยาชัยสุนทร(เจียม) |
ถัดไป | พระยาชัยสุนทร(ทอง) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ไม่ทราบปีเกิด เมืองกาฬสินธุ์ |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2390 เมืองกาฬสินธุ์ |
ศาสนา | ศาสนาพุทธ |
ชาติกำเนิด
แก้เกิดเมื่อราวปี พ.ศ.ใดไม่ปรากฏ บิดาคือพระธานี(หมาป้อง)อุปฮาดเมืองสกลนคร ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม ซึ่งเป็นบุตรของพระยาไชยสุนทร(เจ้าโสมพะมิตร) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 1 ส่วนมารดาไม่ปรากฏนาม มีพี่น้องร่วมสายโลหิต เป็นชายได้แก่ ท้าวเจียม ท้าวลาว ท้าวละ ท้าวหล้า ส่วนบุตรหญิงไม่ปรากฏนาม
การรับราชการ
แก้•เมื่อเติบโตขึ้นได้เข้ารับราชการในกรมการเมืองกาฬสินธุ์และได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ “หลวงไชยอาสา” ตำแหน่งนายกอง ในสมัยพระยาไชยสุนทร (หมาแพง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 2 และได้เป็นที่อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ ในสมัยพระยาไชยสุนทร(เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3
•ภายหลังพระยาไชยสุนทร(เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3 ได้ถึงแก่กรรมลง ในปี พ.ศ. 2380 กรมการเมืองกาฬสินธุ์ได้มีใบบอกกราบบังคมทูลให้โปรดเกล้าฯ พระทานสัญญาบัตรตั้งท้าวหล้า เป็นที่พระยาไชยสุนทร เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ และพระสุวรรณ(เกษ)บุตรท้าวหมาสุย เป็นที่อุปฮาด ท้าวทองบุตรพระยาไชยสุนทร(เจียม) เป็นที่ราชวงศ์ และท้าวปัดสา(ละ)บุตรท้าวหมาป้อง เป็นที่ราชบุตร
•โปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องยศแก่กรมการเมืองประกอบบรรดาศักดิ์ดังนี้
เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ “พานเงินเครื่องในถมสำรับหนึ่ง คนโทเงินถมยาดำหนึ่ง ลูกประคำทองหนึ่ง กระบี่บั้งเงินหนึ่ง สัปทนปัศตูหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง แพรทับทิมติดขลิบผืนหนึ่ง ชวานปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง” - พร้อมตราประทับประจำตำแหน่งเจ้าเมืองกาฬสินธุ์คือ “เทวดานั่งแท่นถือพระขรรค์และดอกบัว”
อุปฮาด “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบริ้วดีตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”
ราชวงศ์ “ถาดหมากเงินคนโทเงินสำรับหนึ่ง สัปทนแพรคันหนึ่ง เสื้อเข้มขาบลายก้านแย่งตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”
ราชบุตร “เสื้ออัตลัตดอกถี่ตัวหนึ่ง ผ้าโพกขลิบผืนหนึ่ง ผ้าดำปักทองผืนหนึ่ง แพรขาวผืนหนึ่ง ผ้าปูมผืนหนึ่ง”
เหตุการณ์สำคัญ
แก้•ปี พ.ศ. 2381 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระบรมราชโองการใบบอกพระราชทานสารตราต้งเมืองสกลนครมายังกรมการเมืองกาฬสินธุ์ที่รักษาราชการเมืองสกลนคร โปรดเกล้าฯให้ ท้าวลาวบุตรท้าวหมาป้องราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์เป็นที่อุปฮาดเมืองสกลนครและท้าวด่างบุตรพระยาไชยสุนทร(เจียม)ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์เป็นที่ราชบุตรเมืองสกลนครและให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ไปจัดทำแผนที่แบ่งเขตแขวงเมืองสกลนครและเมืองกาฬสินธุ์ ดังปรากฏในท้องตราดังกล่าวแล้ว
•ปี พ.ศ. 2384 ครัวเมืองวัง มีราชวงศ์กอ เป็นหัวหน้า ได้อพยพมาต้งอยู่ที่บ้านกุดสิมหรือบ้านกุดกว้างที่ห้วยน้ำยัง จึงโปรดเกล้าฯ ให้ราชวงศ์กอ เป็น “พระธิเบศรวงศา” เจ้าเมือง ยกบ้านกุดสิมเป็นเมืองกุดสิมนารายณ์ ให้ท้าวคองเป็นอุปฮาด ท้าวตั้วเป็นราชวงศ์ ท้าวเนตรเป็นราชบุตร ทำราชการขึ้นกับเมืองกาฬสินธุ์
•ปี พ.ศ. 2387 ได้เป็นแม่กองจัดสร้างวัดกลาง เป็นพระอารามหลวงประจำเมือง โดยแยกธรณีสงฆ์ออกมาจากวัดศรีบุญเรือง(เหนือ) ซึ่งแต่เดิมคือวัดเดียวกัน
•ปี พ.ศ. 2388 หมื่นเดชอุดม ชาวเมืองเวียงจันทน์ ได้พาไพร่พลบ้านห้วยนายม แขวงเมืองวังมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านภูแล่นช้างชายเขาภูพานด้านทิศตะวันตก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หมื่นเดชอุดมเป็นที่ “พระพิชัยอุดมเดช” เจ้าเมืองภูแล่นช้าง ให้เพี้ยโคตรหลักคำเป็นอุปฮาด ให้เพี้ยมหาราชเป็นราชวงศ์และให้เพี้ยดวงพรหมสีเป็นราชบุตร ยกบ้านภูแล่นช้างเป็นเมืองภูแล่นช้าง ทำราชการขึ้นกับเมืองกาฬสินธุ์ ผูกส่วยผลเรว ส่งเงินแทนปีละ 8 ชั่ง มีจำนวนเลก 318 คน
•ปี พ.ศ. 2388 ครัวเมืองคำเกิดของพระคำดวนและครัวเมืองคำม่วนของพระคำแดงรวมกันจำนวน 2,859 คน อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเมื่อครั้งพระยามหาอำมาตย์(ป้อม อมาตยกุล)เป็นแม่กองมาเกลี้ยกลรอม พระยามหาอำมาตย์ให้ครัวพระคำดวนมาตั้งอยู่ที่บ้านท่าขอนยาง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระคำดวนเป็น “พระสุวรรณภักดี” เจ้าเมืองท่าขอนยาง และแต่งตั้งกรมการเมืองคำเกิดเป็นอุปฮาด ราชวงศ์ และราชบุตร ช่วยราชการพระสุวรรณภักดีเมืองท่าขอนยางผกส่วยผลเรว ส่งเงินแทนปีละ 10 ชั่ง มีจำนวนเลก 407 คน ให้ทำราชการขึ้นกับเมืองกาฬสินธุ์ ส่วนครัวเมืองคำม่วน มีพระคำแดง เป็นหัวหน้าอพยพมาตั้งที่บ้านบึงกระดาน จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระคำแดง เป็น “พระศรีสุวรรณ” เจ้าเมือง ยกบ้านบึงกระดานเป็นเมืองแซงบาดาล ให้ทำราชการขึ้นกับเมืองกาฬสินธุ์
ถึงแก่กรรม
แก้•พระยาไชยสุนทร(หล้า) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา รับราชการเป็นเจ้าเมืองสนองพระเดชพระคุณ 10 ปี ที่โฮงเจ้าเมือง ในเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ. 2490 สืบมาภายหลังลูกหลานเรียกขานทานว่า “อัญญาหลวงองค์น้อย” สิ้นประวัติพระยาไชยสุนทร (หล้า) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 4 เพียงเท่านี้
ทายาท
แก้พระยาไชยสุนทร(หล้า) สมรสกับ อัญญานางคำแดง มีบุตร 7 คน ได้แก่
1) นางขาว สมรสกับ พระอิทธิสาร(ด่าง) ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์และสกลนคร บุตรคนที่ 3 ของพระยาไชยสุนทร(เจียม) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 3 มีบุตร 4 คน ได้แก่ 1)นางอ่อน 2)นางน้อย 3)ท้าวเปีย 4)ท้าวอุปละ เป็นต้น
2) พระยาไชยสุนทร(โคตร) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 9 สมรสกับ คุณหญิงพา ณ กาฬสินธุ์ บุตรีคนที่ 2 ของพระยาไชยสุนทร(กิ่ง) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 7 มีบุตร 10 คน ได้แก่ 1)ท้าวหนูแดง 2)พระสุริยมาตย์(สุรินทร์) ราชบุตรเมืองกาฬสินธุ์ 3)พระไชยแสง(ทองอินทร์) นายกองเมืองกาฬสินธุ์ 4)พระศรีธงไชย(คำตา) กรมการเมืองพิเศษสกล 5)หลวงไชยสวัสดิ์(คำแสน) เสมียนตราเมืองกาฬสินธุ์ 6)ขุนไชยสาร(จารย์เฮ้า) ผู้ดูแลพาหนะเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ 7)นางข่าง 8)นางคะ 9)นางบัวสา 10)ท้าวคำหวา เป็นต้น
3) พระศรีวรวงศ์(สี) ผู้ช่วยเจ้าเมืองกาฬสินธุ์ สมรสกับ นางเจียงคำ บุตรีคนที่ 2 ของพระอุปสิทธิ์(สีน) กรมการเมืองสกลนคร มีบุตร 9 คน คือ 1)นางแพง 2)นางสระ 3)นางเอี่ยม 4)ท้าวทิตย์ 5)นางขำ 6)ท้าวทะ 7)ขุนพรหมวิศัย(เทพ) 8)ท้าวเถื่อน 9)ท้าวธรรม เป็นต้น
4) พระไชยราช(ไชย) กรมการเมืองสกลนคร สมรสกับ นางอุด บุตรีคนที่ 7 ของพระยาไชยสุนทร(จารย์ละ) เจ้าเมืองกาฬสินธุ์ ลำดับที่ 6 มีบุตร 11 คน ได้แก่ 1)ท้าวคำขาน 2)ท้าวคำสาร 3)นางข่าว 4)นางคำขาว 5)ท้าวปี 6)ท้าวชาลี 7)ท้าวคำสิงห์ 8)ท้าวคำแสน 9)ท้าวคำส่อง 10)ท้าวคำตัน 11)ท้าวคำจันทร์ เป็นต้น
5) พระอุปสิทธิ์(สีน) กรมการเมืองสกลนคร สมรสกับ นางคำผิว บุตรีของพระยาประจันตประเทศธานี(ปิด) เจ้าเมืองสกลนคร มีบุตร 7 คน ได้แก่ 1)นางเจียงคำ 2)นางบัว 3)นางด้วง 4)นางสุมณฑา 5)นางทองแก้ว(กับนางเขียว) 6)นางเหลี่ยม(กับนางเขียว) 7)นางพรหมา(กับนางเขียว) เป็นต้น
6) พระโพธิสาร(คำ) ราชวงศ์เมืองกาฬสินธุ์ สมรสกับใครไม่ทราบนาม มีบุตร 5 คน ได้แก่ 1)ท้าวสีหาราช 2)ท้าวสูญเมฆขลา 3)ท้าวสีสุราช 4)ท้าวเชียงสา 5)นางเชียงสี เป็นต้น
7) นางหมอก สมรสกับ ขุนไชยวงศ์ กำนันตำบลบ้านวังยาง แขวงเมืองสกลนคร มีบุตร 7 คน ได้แก่ 1)นางทอง 2)นางกอง 3)ท้าวเชียงคุณ 4)ท้าวพรหม 5)นางเป็ง 6)นางใบ 7)นางลี เป็นต้น
สายตระกูล
แก้พงศาวลีของพระยาชัยสุนทร (หล้า) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ก่อนหน้า | พระยาชัยสุนทร (หล้า) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาชัยสุนทร (เจียม) | เจ้าเมืองกาฬสินธุ์, ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ (พ.ศ. 2381 - 2490) |
พระยาชัยสุนทร (ทอง) |