คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

องค์กรอิสระที่เป็นของรัฐ

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (อังกฤษ: The National Broadcasting and Telecommunication Commission) หรือ กสทช. (NBTC) เป็นองค์กรอิสระของรัฐ ทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่วิทยุและกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
National Broadcasting and Telecommunication Commission
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง7 ตุลาคม พ.ศ. 2554 (14 ปี)
หน่วยงานก่อนหน้า
สำนักงานใหญ่87 ซอยพหลโยธิน 8 (สายลม) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • ศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์, ประธานกรรมการ​
  • นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล, รักษาราชการแทนเลขาธิการ
  • นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล, รองเลขาธิการ
  • ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ, รองเลขาธิการ
  • นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน, รองเลขาธิการ
  • นายกีรติ อาภาพันธุ์, รองเลขาธิการ
  • นายสมบัติ ลีลาพตะ, รองเลขาธิการ
เว็บไซต์https://www.nbtc.go.th/
เชิงอรรถ
เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

สำนักงาน กสทช. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ

แก้
 
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าอาคารสำนักงาน กสทช.

กรมไปรษณีย์โทรเลข

แก้

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ การจัดตั้งกรมไปรษณีย์ขึ้น และในช่วงเวลาเดียวกันการสื่อสารทางโทรเลขเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมโทรเลขขึ้นด้วย โดยได้รับช่วงงานโทรศัพท์จากกรมกลาโหม ต่อมากิจการไปรษณีย์และโทรเลขต้องอาศัยซึ่งกันและกัน มีความสอดคล้องกันอย่างใกล้ชิด ในปี พ.ศ. 2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมกรมทั้งสองเข้าด้วยกันเป็น กรมไปรษณีย์โทรเลข โดยมีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีพระองค์แรก[1]

นับแต่นั้นมากิจการไปรษณีย์โทรเลขทั้งในและต่างประเทศได้เจริญพัฒนามาเป็นลำดับ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางของการติดต่อสื่อสารทั่วราชอาณาจักร หลังจากที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพสากลไปรษณีย์ (UPU) และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ทำให้มีการประสานงานเชื่อมต่อการให้บริการระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีบริการหลัก 3 ด้าน ได้แก่ บริการไปรษณีย์ บริการการเงิน และบริการโทรคมนาคม โดยเฉพาะส่วนงานด้านโทรคมนาคมมีการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในกรมไปรษณีย์โทรเลข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2477 ได้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารหลายฉบับ แต่ฉบับหลักคือพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 และพระราชบัญญัติโทรเลขและโทรศัพท์ พ.ศ. 2477 ส่งผลให้มีการปรับองค์กรให้เหมาะสมกับสภาพการณ์หลายครั้ง และมีการแยกงานสำคัญ ๆ ออกไปจัดตั้งเป็นหน่วยบริการหลายหน่วย เพื่อให้หน่วยงานเหล่านั้นมีโอกาสพัฒนาสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับองค์กรและสนองตอบความต้องการของประชานชนได้อย่างเพียงพอ ได้แก่

ต่อมาเมื่อมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 จึงมีการแยกส่วนงานของกรมไปรษณีย์โทรเลขอีกครั้ง คือ[1]

  • งานระดับปฏิบัติการทางด้านไปรษณีย์และโทรคมนาคม แยกไปขึ้นอยู่กับรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นใหม่ คือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย (ซึ่งต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2546 ได้แยกออกเป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (ควบรวมกิจการกับทีโอที จัดตั้งเป็น บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564)) ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการด้านการสื่อสารแก่สาธารณะ ทั้งบริการไปรษณีย์ โทรคมนาคม และบริการการเงิน
  • กรมไปรษณีย์โทรเลขรับผิดชอบงานนโยบาย และมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคลื่นความถี่วิทยุ งานนโยบาย งานวิชาการ งานวิจัยพัฒนา และงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทั้งในและระหว่างประเทศ

กทช. และ กสช.

แก้

เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2543 (พ.ร.บ. กสท. 2543) จึงมีการโอนกิจการของกรมไปรษณีย์โทรเลขไปสู่สำนักงานคณะกรรมการจำนวน 2 องค์กร ดังต่อไปนี้

  • 19 มกราคม พ.ศ. 2545 มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกายุบกรมไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงคมนาคม พุทธศักราช 2545 กรมฯ จึงโอนถ่ายบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ หน้าที่ ความรับผิดชอบ การปฏิบัติงานทั้งหมด ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กทช.) ส่วนในด้านกิจการไปรษณีย์ และเงินงบประมาณทั้งเงินเดือนและค่าจ้างของข้าราชการกับลูกจ้างซึ่งยังมีผลครอบครองอยู่ พร้อมกับกลุ่มบุคคลเดิม ไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ในมาตรา 82, 83, 84
  • ส่วนในด้านของกรมประชาสัมพันธ์ ได้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ งบประมาณ การปฏิบัติงานทั้งหมด ในส่วนของกองงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (สำนักงาน กสช.) ส่วนในด้านงบประมาณทั้งเงินเดือนและค่าจ้างของข้าราชการกับลูกจ้างซึ่งยังมีผลครอบครองอยู่ พร้อมกับกลุ่มบุคคลเดิม ให้ยังคงไว้กับกรมประชาสัมพันธ์อยู่เช่นเดิม ในมาตรา 85, 86

ทั้งนี้ หลังจากกรมไปรษณีย์โทรเลข ถูกยุบเลิกเป็น สำนักงาน กทช. ตามพระราชกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็ได้มีการโอนกิจการไปรษณีย์ทั้งหมดที่เหลืออยู่ไปขึ้นกับ บจก.ไปรษณีย์ไทยในทันที หลังวันเปลี่ยนผ่านไปสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นต้นไป (ทั้งนี้ การแปรสภาพโดยสมบูรณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547) ส่วนงานโทรเลขก็ได้ดำเนินการจนถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551 โดย กสท โทรคมนาคม ได้ว่าจ้างไปรษณีย์ไทยให้เป็นผู้ดำเนินการ[4]

กสทช.

แก้

แต่ต่อมา พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 (พ.ร.บ. กสทช. 2553) มีการประกาศบังคับใช้ ทำให้มีการรวมคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด คือ กทช. และ กสช. ไปจัดตั้งใหม่เป็น กสทช. แทน และในวันที่ 20 ธันวาคม ปีเดียวกัน ได้บังคับใช้ พ.ร.บ. กสทช. 2553 จึงมีประกาศเปลี่ยนแปลงสำนักงาน กทช. มาเป็นสำนักงาน กสทช. ขึ้นมาดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน[5]

ในปีเดือนวันที่ 1 สิงหา​คม พ.ศ. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา​ แต่งตั้ง นายไตรรัตน์​ วิริยะ​ศิริกุล​ ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสื่อสารในอินเทอร์เน็ต ​ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี​ที่ 13/2564 เรื่องการจัดโครงสร้างของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)​

องค์กรและหน่วยงานในกำกับปัจจุบัน

แก้
  • สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (อังกฤษ: Office of National Broadcasting and Telecommunications Commission) หรือ สำนักงาน กสทช. - เป็นหน่วยงานที่มีฐานะเป็นสำนักงานเลขานุการของ กสทช. ที่มีชื่อเดิมคือ กรมไปรษณีย์โทรเลข และสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กทช.) ตามลำดับ ซึ่ง พ.ร.บ. กสท. 2543 บัญญัติให้มีการโอนกิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ และงบประมาณของกรมไปรษณีย์โทรเลข ไปเป็นของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ชื่อในขณะนั้น) รวมทั้งข้าราชการและลูกจ้างของกรมไปรษณีย์โทรเลข ปัจจุบันสำนักงาน กสทช. มีเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้บริหารสูงสุดที่รับผิดชอบการปฏิบัติงานของสำนักงาน และรายงานขึ้นตรงต่อ ประธาน กสทช.[6]
  • สถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ. - เป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ขึ้นตรงกับ สำนักงาน กสทช. ซึ่งมีสถานีวิทยุในบางจังหวัดของประเทศ สำหรับสถานีส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครนั้น ส่งกระจายเสียงในระบบวีเอชเอฟ ภาค เอฟ เอ็ม ความถี่ 98.5 MHz และ 106.5 MHz ภาค เอ เอ็ม ความถี่ 1035 KHz และ 1089 KHZ ซึ่งสามารถส่งสัญญาณได้จนถึงปริมณฑล และบริเวณที่ใกล้เคียงแต่ในขณะนี้ทางสถานีฯได้ให้เอกชนเช่าคลื่นความถี่และสัมปทานอยู่

องค์กรและหน่วยงานในกำกับที่ถูกยกเลิก (พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2553)

แก้
  • สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (อังกฤษ: Telecommunications Research and Industrial Development Institute) หรือ สพท. - จัดตั้งขึ้นโดย กทช. ให้เป็นหน่วยงานหนึ่งของ สำนักงาน กทช. เพื่อดำเนินการตามภารกิจของอำนาจหน้าที่ใน พ.ร.บ. กสท. 2543 มาตรา 51 (15) และ (16) กล่าวคือ การส่งเสริมการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่งเสริมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง[7]
  • สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (อังกฤษ: Telecommunications Consumer Protection Institute) หรือ สบท. - จัดตั้งขึ้นโดย กทช. ในปี พ.ศ. 2550 เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2[8] (ได้โอนย้ายพนักงานเข้าส่วนงานต่างๆ ในฐานะพนักงานสัญญาจ้าง)

คณะกรรมการ

แก้

รายนามประธานกรรมการและคณะกรรมการในอดีต

แก้
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)
แก้

คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติมีทั้งหมด 7 คน ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียวนาน 6 ปี ในวาระเริ่มแรกเมื่อครบกำหนดสามปี ให้กรรมการออกจากตำแหน่งจำนวนสามคนโดยวิธีจับสลาก [ต้องการอ้างอิง]

  1. พลเอก ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ - อดีตประธานกรรมการ (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 28 กันยายน พ.ศ. 2550)
  2. ศาสตราจารย์ เศรษฐพร คูศรีพิทักษ์ (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 28 กันยายน พ.ศ. 2550)
  3. เหรียญชัย เรียววิไลสุข (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 28 กันยายน พ.ศ. 2550)
  4. ศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  5. สุชาติ สุชาติเวชภูมิ (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  6. รองศาสตราจารย์ สุธรรม อยู่ในธรรม (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  7. อาทร จันทวิมล (24 สิงหาคม พ.ศ. 2547 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549) - ลาออก
  8. สุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร (พ.ศ. 2553 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  9. รองศาสตราจารย์ ดร.พนา ทองมีอาคม (พ.ศ. 2553 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  10. พันเอก นที ศุกลรัตน์ (พ.ศ. 2553 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
  11. บัณฑูร สุภัควณิช (พ.ศ. 2553 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553)
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ กสทช.
แก้

คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554[9]

  1. ศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ
  2. สุชาติ สุชาติเวชภูมิ
  3. รองศาสตราจารย์ สุธรรม อยู่ในธรรม
  4. สุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร
  5. รองศาสตราจารย์ ดร.พนา ทองมีอาคม
  6. พันเอก นที ศุกลรัตน์
  7. บัณฑูร สุภัควณิช

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

แก้

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีชื่อเรียกในอดีตว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ต่อมาเมื่อมีการตรากฎหมาย พ.ร.บ. กสทช. 2553 ขึ้นทูลเกล้าและโปรดเกล้าฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงโปรดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติแทนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติโดยให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนเรียกว่าคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553[10]

ตาม พ.ร.บ. กสทช. 2553 กำหนดให้มีคณะกรรมการอีก 2 ชุด ภายใต้โครงสร้างของ กสทช. คือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการกระกอบกิจการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนั้น ให้แต่งตั้งจากคณะกรรมการ กสทช. โดยให้รองประธาน กสทช. คนหนึ่งทำหน้าที่ประธาน กสท. และรองประธาน กสทช. อีกคนหนึ่ง ทำหน้าที่ประธาน กทค. โดยให้กรรมการ กสทช. ที่มิได้เป็นประธานและรองประธาน กสทช. ที่เหลืออีก 8 คน ทำหน้าที่เป็นกรรมการ กสท. 4 คน และอีก 4 คน ทำหน้าที่กรรมการ กทค. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2560 ได้กำหนดให้คณะกรรมการ กสทช. มีเพียงชุดเดียว คณะกรรมการ2 ชุดเดิม ได้เปลี่ยนเป็นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯแทน

รายนามประธานกรรมการและคณะกรรมการ กสทช. (พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2557)
แก้
  • พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี - ประธาน กสทช.
  • พันเอก นที ศุกลรัตน์ - รองประธาน กสทช. และประธาน กสท.
  • พันเอก รองศาสตราจารย์ ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ - รองประธาน กสทช. และประธาน กทค.
  • พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร - กสทช. และ กทค.
  • พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า - กสทช. และ กสท.
  • พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ - กสทช. และ กสท.
  • รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ - กสทช. และ กทค.
  • นายแพทย์ ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา - กสทช. และ กทค.
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ - กสทช. และ กสท.
  • สุทธิพล ทวีชัยการ - กสทช. และ กทค. ได้ลาออก
  • นายแพทย์ ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา - กสทช. และ กทค.
  • สุภิญญา กลางณรงค์ - กสทช. และ กสท.
รายนามประธานกรรมการและคณะกรรมการ กสทช. (พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2560)
แก้
  • พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร- ประธาน กสทช.[11]
  • พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ - รองประธาน กสทช. และประธาน กสท.
  • พันเอก รองศาสตราจารย์ ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ - รองประธาน กสทช. และประธาน กทค.
  • พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ - กสทช. และ กสท.
  • รองศาสตราจารย์ ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ - กสทช. และ กทค.
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ - กสทช. และ กสท.
  • นายแพทย์ ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา - กสทช. และ กทค.
  • สุภิญญา กลางณรงค์ - กสทช. และ กสท. ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560
รายนามประธานกรรมการและคณะกรรมการ กสทช. (10 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2566)
แก้

ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 7/2561[12] ส่งผลให้รายนามประธานกรรมการและคณะกรรมการ กสทช.เป็นดังต่อไปนี้ ต่อมา วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561 พันเอก รองศาสตราจารย์ ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ลาออกจากตำแหน่งรองประธาน กสทช. และประธาน กทค.[13]

  • พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร- ประธาน กสทช.
  • พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ - รองประธาน กสทช. และประธาน กสท.
  • พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ - กสทช. และ กสท.
  • รองศาสตราจารย์ ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ - กสทช. และ กทค.
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ - กสทช. และ กสท.
  • นายแพทย์ ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา - กสทช. และ กทค.

ผู้บริหาร สำนักงาน กสทช. พ.ศ. 2566

แก้
  • ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.[14]
  • พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. (ด้านกิจการกระจายเสียง)
  • ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. (ด้านกิจการโทรทัศน์)
  • ต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการ กสทช. (ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน)
  • รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช. (ด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.(ข) ด้านเศรษฐศาสตร์)
  • พลตำรวจเอก ดร. ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช. (ด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.(ก) ด้านกฎหมาย)
  • รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. (สายงานกิจการโทรคมนาคม)

กทปส.

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 "ประวัติกิจการไปรษณีย์ไทย". ไปรษณีย์ไทย. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด. "ประวัติความเป็นมา". สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. "อดีตถึงปัจจุบัน". ทีโอที. สืบค้นเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  4. "ปิดตำนานบริการโทรเลข". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-08. สืบค้นเมื่อ 2021-05-08.
  5. "ประกาศ กสทช. เรื่อง เปลี่ยนแปลงสำนักงาน กทช. เป็น สำนักงาน กสทช" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-05-10. สืบค้นเมื่อ 2021-05-10.
  6. ""ประวัติสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ "". สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-03. สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. ""สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม - ความเป็นมา"". สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม. สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  8. ""ระเบียบการจัดตั้งสถาบัน"". สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-03. สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. http://www.nbtc.go.th/phocadownload/notification/notification-onbtc001.pdf[ลิงก์เสีย]
  10. http://www.nbtc.go.th/phocadownload/notification/notification-onbtc001.pdf[ลิงก์เสีย]
  11. บอร์ด กสทช.เลือก 'สุกิจ'นั่งประธาน
  12. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/093/11.PDF
  13. http://www.thansettakij.com/content/330469
  14. บอร์ด กสทช. ตั้ง “ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ” นั่งรักษาการเลขาธิการ

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้