กีฬาโอลิมปิกเยาวชน
กีฬาโอลิมปิกเยาวชน (อังกฤษ: Youth Olympic Games) เป็นมหกรรมกีฬานานาชาติ ที่จัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 26 สิงหาคม ค.ศ. 2010 การแข่งขันจะมีขึ้นทุกสี่ปีในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวที่สอดคล้องกับรูปแบบของกีฬาโอลิมปิกในปัจจุบัน[1] โดยมีข้อจำกัดอายุของนักกีฬาอยู่ที่ 14 ถึง 18 ปี[2] ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนำมาจากโยฮัน โรเซนซอพฟ์ จากประเทศออสเตรียใน ค.ศ. 1998 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ทางสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ในการประชุมไอโอซี ครั้งที่ 119 ที่กัวเตมาลาซิตี ได้อนุมัติการสถาปนากีฬาโอลิมปิกระดับเยาวชนขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายของพื้นที่จัดงานจะออกร่วมกันโดยไอโอซีและเมืองที่เป็นเจ้าภาพ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนักกีฬาและโค้ช ทางไอโอซีเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
กีฬาโอลิมปิกเยาวชน | |
---|---|
ตราสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกเยาวชน | |
กีฬาฤดูร้อน | |
กีฬาฤดูหนาว | |
ในขณะที่โอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2010 กินเวลา 12 วัน และโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาว 2012 กินเวลาสิบวัน[3] ทางไอโอซีจะช่วยให้มีนักกีฬาสูงสุด 3,530 คน กับเจ้าหน้าที่ได้รับการรับรองจากไอโอซีอีก 481 คน ได้มีส่วนร่วมในกีฬาฤดูร้อน[4] ในขณะที่ นักกีฬา 970 คน กับเจ้าหน้าที่ 580 คน ต่างได้คาดหวังที่จะเข้าร่วมในกีฬาฤดูหนาว มหกรรมกีฬานี้ยังมีโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและเป็นโอกาสสำหรับผู้เข้าร่วมในการพบปะกับเหล่านักกีฬาโอลิมปิก
การแข่งขันโอลิมปิกสำหรับเยาวชนอื่นหลายรายการ เช่น มหกรรมโอลิมปิกเยาวชนยุโรปจะจัดขึ้นทุกปีในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว และมหกรรมโอลิมปิกเยาวชนออสเตรเลียที่ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ การแข่งขันในระดับเยาวชนจะจำลองรูปแบบกีฬาเหล่านี้[5] โดยกีฬาโอลิมปิกเยาวชนเป็นการสานต่อกีฬาเยาวชนโลกที่ได้รับการยกเลิกไป
การแข่งขันโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งถัดไป จะจัดขึ้นที่เมืองหนานจิง ใน ค.ศ. 2014 ในขณะที่โอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งถัดไป จะจัดขึ้นที่เมืองลีลแฮมเมอร์ ใน ค.ศ. 2016
ประวัติ
แก้แนวคิดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนมาจากผู้จัดการอุตสาหกรรมชาวออสเตรียที่มีชื่อว่าโยฮัน โรเซนซอพฟ์ ใน ค.ศ. 1998 [6] ซึ่งเป็นปฏิกิริยาสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับโรคอ้วนที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก รวมถึงการมีส่วนร่วมในกีฬาของเยาวชนที่ลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชนของประเทศที่กำลังพัฒนา[7] นอกจากนั้น เพื่อปรับปรุงผลการเรียนของนักเรียน โรงเรียนได้ลดวิชาพลศึกษาและการกีฬาออกไปจากหลักสูตรของพวกเขา[7] กีฬาโอลิมปิกระดับเยาวชนเป็นที่ยอมรับมากขึ้นว่าจะช่วยส่งเสริมให้คนมีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิก[8] แม้จะมีเหตุผลเหล่านี้สำหรับการมีการแข่งขันโอลิมปิกสำหรับคนหนุ่มสาว แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของไอโอซีต่อการจัดขึ้นต่างหากก็เป็นไปในเชิงคัดค้าน[9] เหล่าตัวแทนของไอโอซีมีความต้องการให้มีการแข่งขันกีฬา เป็นเหมือนการศึกษาวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนเท่า ๆ กับด้านกีฬา ซึ่งเป็นเหตุผลที่โครงการวัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยน (ซีอีพี) ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นส่วนประกอบของแต่ละมหกรรมกีฬา[9] ฌัก โรเกอ ประธานแห่งไอโอซีได้ประกาศแผนอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนในการประชุมไอโอซีครั้งที่ 119 ที่กัวเตมาลาซิตี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 [10] โดยมีเป้าหมายหลายประการสำหรับกีฬาโอลิมปิกเยาวชน โดยมีเป้าหมาย 4 ข้อที่รวมอยู่ในนั้น ได้แก่ การร่วมกันสร้างนักกีฬาเยาวชนที่ดีที่สุดของโลก, นำเสนอความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก, สร้างนวัตกรรมในการให้ความรู้ และอภิปรายถึงคุณค่าของกีฬาโอลิมปิก[11] เมืองสิงคโปร์ได้ประกาศการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งสถาปนา ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 [12] วันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2008 ทางไอโอซีได้ประกาศให้เมืองอินส์บรุค ซึ่งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 1964 และ 1976 เข้าเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งสถาปนาใน ค.ศ. 2012 [13]
ความประสงค์ของเมืองเจ้าภาพ
แก้สัดส่วนของกีฬาโอลิมปิกเยาวชนจะมีขนาดเล็กกว่าของกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นความตั้งใจและช่วยให้เมืองขนาดเล็กได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เมืองที่เป็นเจ้าภาพต้องสามารถจัดรายการทั้งหมดให้อยู่ภายในเมืองเดียวกัน และไม่ควรสร้างสถานที่แข่งขันกีฬาแห่งใหม่ขึ้น[11] ยกเว้น อาคารศูนย์สื่อมวลชน ห้องอำนวยความสะดวกรูปครึ่งวงกลมสำหรับการฝึกอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงหมู่บ้านสำหรับโค้ชและนักกีฬา[11] ซึ่งหมู่บ้านนี้จะเป็นหัวใจสำหรับมหกรรมของเหล่านักกีฬา ตลอดจนเป็นศูนย์กลางของกิจกรรม[11] ไม่ต้องมีระบบการขนส่งที่ใหม่หรือระบบขนส่งเฉพาะ นักกีฬาและผู้ฝึกสอนทั้งหมดจะได้รับการขนส่งโดยรถรับส่ง[11] เพื่อให้สอดคล้องกับการเสนอเป็นเจ้าภาพ สนามกีฬาสำหรับจัดพิธีเปิดและปิดการแข่งขันจะต้องสามารถรองรับได้ถึง 10,000 คน และศูนย์แข่งขันกีฬาทางน้ำจะต้องมีที่นั่ง 2,500 ที่นั่ง (สำหรับกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน)[14]
การจัดหาเงินทุน
แก้ค่าใช้จ่ายเดิมสำหรับดำเนินงานการแข่งขันกีฬาฤดูร้อนอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับกีฬาฤดูหนาว ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ได้รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการก่อสร้างสถานที่ ซึ่งทางไอโอซีได้กำหนดว่าค่าใช้จ่ายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสถานที่ เมืองที่เป็นเจ้าภาพจะเป็นผู้จ่าย[15] ส่วนทางไอโอซีจะออกค่าใช้จ่ายการเดินทางไปยังเมืองเจ้าภาพ และห้องพร้อมที่พักสำหรับนักกีฬาและผู้ตัดสินด้วยงบประมาณ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการระดมทุนจะมาจากเงินของไอโอซี งบประมาณของผู้เสนอประมูลการเป็นเจ้าภาพสองประเทศสุดท้ายสำหรับกีฬาฤดูร้อนครั้งสถาปนาอยู่ที่ 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจัดว่าสูงกว่าค่าใช้จ่ายโดยประมาณ[16] ค่าใช้จ่ายในปีการแข่งขันแรกที่สิงคโปร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นที่ประมาณ 387 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (284 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[17][18] เหล่าผู้ให้การสนับสนุนมีความล่าช้าในการลงนามต่อการแข่งขันโอลิมปิกเยาวชน เนื่องจากความจริงที่ว่านี่เป็นรายการที่ริเริ่มใหม่ และบรรดาบริษัทต่างไม่แน่ใจถึงการนำผลิตภัณฑ์ของพวกเขาออกแสดง[16] ส่วนงบประมาณสำหรับกีฬาฤดูหนาวครั้งสถาปนาที่จะจัดขึ้นในอินส์บรุคได้รับการประเมินไว้ที่ 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ซึ่งไม่รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้างสถานที่[19]
การมีส่วนร่วม
แก้กว่า 200 ประเทศและนักกีฬา 3,600 คน เข้าร่วมในครั้งสถาปนาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2010 [20] โดยมีผู้เข้าร่วมอยู่ในกลุ่มอายุ 14–15 ปี, 16–17 ปี และ 17–18 ปี[21] ซึ่งอายุของนักกีฬาได้กำหนดด้วยการดูว่าพวกเขาหรือเธอมีอายุเท่าใดภายในวันที่ 31 ธันวาคมของปีที่พวกเขาเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเยาวชน[11] ไอโอซีเป็นผู้กำหนดการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน โดยพิจารณาร่วมกับสหพันธ์กีฬาสากล (ไอเอสเอฟ) ในกีฬาหลากหลายชนิดที่แข่งขันกัน[11] เพื่อให้แน่ใจว่าทุกประเทศสามารถส่งตัวแทนเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน ไอโอซีจึงมีแนวคิดจัดตั้งมหาวิทยาลัยเพลซ โดยในจำนวนหนึ่งของแต่ละการแข่งขัน จะมีการเปิดให้สำหรับนักกีฬาจากตัวแทนของแต่ละประเทศโดยไม่คำนึงถึงระดับการผ่านเข้ารอบ เพื่อช่วยให้แน่ใจว่าทุกประเทศได้ส่งนักกีฬาอย่างน้อย 4 คน เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชน[11] สำหรับการแข่งขันทีม หนึ่งทีมต่อหนึ่งทวีปจะได้รับอนุญาตเข้าแข่งขันพร้อมกับทีมที่หก ทั้งที่เป็นตัวแทนประเทศเจ้าภาพหรือตามข้อเสนอของไอเอฟตามความเห็นชอบจากไอโอซี โดยจะมีผู้ลงแข่งของสองทีม (ของเยาวชนชายหนึ่งทีม และของเยาวชนหญิงหนึ่งทีม) ต่อประเทศเข้าร่วม[11] ในท้ายที่สุด แต่ละประเทศไม่สามารถส่งนักกีฬาได้มากกว่า 70 คนในกีฬาประเภทบุคคล[11]
กีฬา
แก้การแข่งขันกีฬาในระดับเยาวชนจะเป็นเช่นเดียวกับรายการกีฬาแบบดั้งเดิม หากแต่มีการดัดแปลงในบางส่วนและจำกัดจำนวนประเภทการแข่งขัน[22] ตัวอย่างเช่น ในกีฬาทางน้ำไอโอซีได้ตัดสินให้มีการแข่งกระโดดน้ำและว่ายน้ำ แต่จะไม่มีระบำใต้น้ำกับโปโลน้ำ[23] บางส่วนของกีฬาได้รับการแก้ไขสำหรับการแข่งขัน การแข่งขันบาสเกตบอลใช้รูปแบบฟีบา 33 ซึ่งเป็นการเล่นแบบ 3 ต่อ 3 ในครึ่งสนาม โดยมีระยะเวลาในแต่ละช่วงที่ 5 นาที และทีมแรกที่ได้ 33 คะแนนจะเป็นฝ่ายชนะ[24] ส่วนด้านการขี่จักรยานมีในประเภทจักรยานภูเขา, บีเอ็มเอกซ์ และประเภทถนน ในขณะที่การขี่จักรยานติดตามไม่ได้มีอยู่ในรายการ[25] สำหรับกีฬาเยาวชนอื่นอาจมีการแข่งขันในท้ายที่สุดหากได้รับการสนับสนุนโดยสหพันธ์กีฬาสากล ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 ได้มีการเปิดเผยว่าจะรวมปัญจกรีฑาเข้าในมหกรรมกีฬานี้ เช่นเดียวกับการแข่งเรือใบ เพื่อให้เข้ากับเมืองเสนอชื่อที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ
ส่วนโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวจะมีกีฬาเจ็ดชนิด การแข่งขันฮอกกี้จะไม่ได้มีเพียงการแข่งขันชายและหญิงเท่านั้น หากแต่ยังมีการท้าชิงความสามารถในประเภทบุคคลเดี่ยวด้วย[26] ส่วนลูจ, สเกตลีลา และวิ่งสเก็ตแทร็คระยะสั้น จะรวมอยู่ในการแข่งขันของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ ที่อนุญาตให้นักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ เข้าแข่งร่วมทีมกัน ส่วนสกีอัลไพน์และสกีครอสคันทรีในรายการของชายและหญิงจะมีการจัดเป็นทีมผสมขึ้น[26]
ฤดูร้อน
แก้
|
|
ฤดูหนาว
แก้
|
|
วัฒนธรรมและการศึกษา
แก้การศึกษาและวัฒนธรรมต่างก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับกีฬาโอลิมปิกเยาวชน ไม่เพียงเฉพาะด้านการศึกษาและวัฒนธรรมที่นำไปใช้กับนักกีฬาและผู้มีส่วนร่วมเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงเยาวชนทั่วโลก ตลอดจนผู้อาศัยอยู่ในเมืองเจ้าภาพและบริเวณโดยรอบ ด้วยเหตุนี้ โครงการวัฒนธรรมและการศึกษา (ซีอีพี) จึงมีความสำคัญในแต่ละการแข่งขัน[8] โครงการวัฒนธรรมและการศึกษาครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาที่สิงคโปร์ 2010 ได้มีการส่งเสริมความร่วมมือในหมู่นักกีฬาของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน โดยมีหัวข้อต่าง ๆ ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากมาย ไปจนถึงด้านสิ่งแวดล้อมและการวางแผนสู่ระดับอาชีพ เหล่านักเรียนในชุมชนสิงคโปร์ได้จัดทำบูธขึ้นที่หมู่บ้านวัฒนธรรมโลกซึ่งเป็นตัวแทนของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติผู้เข้าร่วมจากแต่ละประเทศ 205 ราย[27] การประชุมแชทกับผู้ชนะเลิศเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโครงการ[8] บรรดาผู้มีส่วนร่วมต่างได้รับเชิญเข้ารับฟังการพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจจากนักกีฬาโอลิมปิกทั้งอดีตและปัจจุบัน[8]
ความสำคัญนอกเหนือไปจากโครงการวัฒนธรรมและการศึกษา คือความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกีฬาโอลิมปิกเยาวชนที่มีการแข่งขันในประเภทเพศผสมและทีมชาติผสม ไตรกีฬาแบบผลัด, ฟันดาบสากล, เทเบิลเทนนิส, ยิงธนู และว่ายน้ำผลัดแบบผสม ต่างเป็นเพียงกีฬาไม่กี่ชนิดที่นักกีฬาจากคนละประเทศและต่างเพศสามารถร่วมทีมกันได้[8] กีฬาโอลิมปิกเยาวชนยังได้ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก, ฟลิคเกอร์ และทวิตเตอร์เป็นฐานสำคัญสำหรับนักกีฬาเยาวชนที่เข้าแข่งขัน ทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังการเฉลิมฉลองของแต่ละการแข่งขัน[8] ภาษาที่หลากหลาย, ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความหลากหลายระหว่างวัย ต่างเป็นเป้าหมายของโครงการ ซึ่งมุ่งเน้นในรูปแบบของ "เรียนรู้เพื่อรู้, เรียนรู้เพื่อเป็น, เรียนรู้เพื่อทำ และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน"[27]
รายการกีฬาโอลิมปิกเยาวชน
แก้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 กรุงเอเธนส์, กรุงเทพมหานคร, สิงคโปร์, กรุงมอสโก และตูริน ต่างได้รับการคัดเลือกโดยไอโอซี ในฐานะห้าเมืองที่สมัครเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนครั้งสถาปนา[28] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 เมืองผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกเหลือเพียงกรุงมอสโกและสิงคโปร์ ในที่สุด ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 เมืองสิงคโปร์ก็ได้รับการประกาศให้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนครั้งสถาปนา ใน ค.ศ. 2010 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดจากเมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยเป็นฝ่ายชนะด้วย 53 คะแนนโหวต ในขณะที่กรุงมอสโกได้ 44 คะแนนโหวต[29]
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2008 ทางไอโอซีได้ประกาศคณะกรรมการบริหารเมืองสี่แห่งที่เสนอการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งแรกใน ค.ศ. 2012 ซึ่งเมืองที่เข้าเสนอ ได้แก่ ฮาร์บิน, อินส์บรุค, โกเปียว และลีลแฮมเมอร์[30] ซึ่งทาง ฌัก โรเกอ ผู้เป็นประธานไอโอซี ได้แต่งตั้ง เพอร์นิลลา วิลเบิร์ก เข้าดำรงตำแหน่งคณะกรรมการผู้วิเคราะห์โครงการ เช่นเดียวกับกีฬาฤดูร้อน รายการได้ถูกตัดให้สั้นลงจนเหลือสองผู้เข้ารอบสุดท้าย ซึ่งได้แก่ อินส์บรุคและโกเปียวในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 จากนั้น ในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2008 ได้มีการประกาศให้อินส์บรุคเป็นฝ่ายชนะโกเปียวในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬา[30] ส่วนเมืองหนานจิง ประเทศจีน ที่ได้รับเลือกโดยไอโอซีเป็นฝ่ายชนะเมืองพอซนาน ประเทศโปแลนด์ โดยจะเป็นเมืองเจ้าภาพสำหรับโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014 ซึ่งการเลือกตั้งดังกล่าวจัดขึ้น ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 สองวันก่อนที่จะเริ่มโอลิมปิกฤดูหนาว 2010 ในแวนคูเวอร์[31] และเมืองลีลแฮมเมอร์ ประเทศนอร์เวย์จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาว 2016 [32]
กีฬาฤดูร้อน
แก้ค.ศ. | โอลิมเปียด | กีฬา | เมืองเจ้าภาพ | ประเทศ | เปิดโดย |
---|---|---|---|---|---|
2010 | I | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 1 | สิงคโปร์ | สิงคโปร์ | ประธานาธิบดีเซลลัปปัน รามนาทัน |
2014 | II | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 2 | หนานจิง | จีน | ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง |
2018 | III | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 3 | บัวโนสไอเรส | อาร์เจนตินา | ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มากริ |
2022 | lV | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 4 | ดาการ์ (เลื่อนการจัดแข่งขันเป็นปี 2026) | เซเนกัล | - |
2026 | IV | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 4 | ดาการ์ | เซเนกัล | ประธานาธิบดีแห่งเซเนกัล |
2030 | V | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อนครั้งที่ 5 | โลซาน | สวิตเซอร์แลนด์ |
กีฬาฤดูหนาว
แก้ค.ศ. | โอลิมเปียด | กีฬา | เมืองเจ้าภาพ | ประเทศ | เปิดโดย |
---|---|---|---|---|---|
2012 | I | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งที่ 1 | อินส์บรุค | ออสเตรีย | ประธานาธิบดีไฮนทซ์ ฟิชเชอร์ |
2016 | II | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งที่ 2 | ลีลแฮมเมอร์ | นอร์เวย์ | สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 |
2020 | III | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งที่ 3 | โลซาน | สวิตเซอร์แลนด์ | ประธานาธิบดีซีโมเนตตา ซอมมารูกา |
2024 | IV | กีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาวครั้งที่ 4 | คังว็อน | เกาหลีใต้ | ประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ |
สรุปเหรียญโอลิมปิกเยาวชนตลอดกาล
แก้ลำดับที่ | ประเทศ | ทอง | เงิน | ทองแดง | รวม |
---|---|---|---|---|---|
1 | จีน | 99 | 50 | 38 | 187 |
2 | รัสเซีย | 96 | 74 | 58 | 228 |
– | ทีมผสม | 48 | 46 | 52 | 146 |
3 | ญี่ปุ่น | 43 | 42 | 30 | 115 |
4 | เกาหลีใต้ | 37 | 23 | 21 | 81 |
5 | สหรัฐ | 34 | 31 | 31 | 96 |
6 | เยอรมนี | 29 | 42 | 42 | 113 |
7 | อิตาลี | 28 | 34 | 34 | 96 |
8 | ฝรั่งเศส | 25 | 28 | 36 | 89 |
9 | ฮังการี | 24 | 20 | 22 | 66 |
รวม (9 ประเทศ) | 463 | 390 | 364 | 1217 |
ดูเพิ่ม
แก้- กีฬายุวชนโลก (12-15 ปี)
อ้างอิง
แก้- ↑ "FIS in favor of Youth Olympic Games". FIS. 8 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 20 May 2007.
- ↑ "No kidding: Teens to get Youth Olympic Games". USA Today. 25 April 2007. สืบค้นเมื่อ 19 May 2007.
- ↑ "IOC to Introduce Youth Olympic Games in 2010". 25 April 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-08. สืบค้นเมื่อ 20 May 2007.
- ↑ "1st Summer Youth Olympic Games in 2010" (PDF). International Olympic Committee Department of Communications. 2007. p. 8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (pdf)เมื่อ 2007-11-18. สืบค้นเมื่อ 24 August 2007.
- ↑ "Rogge wants Youth Olympic Games". BBC Sport. 19 March 2007. สืบค้นเมื่อ 19 May 2007.
- ↑ "Olympischer Frieden". Frankfurter Allgemeine Zeitung. 27 December 2010. สืบค้นเมื่อ 4 February 2011.
- ↑ 7.0 7.1 "Youth Olympic Games" (pdf). International Olympic Committee. p. 28. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 8.5 Stoneman, Michael. "Welcome to the Family". International Olympic Committee. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ 9.0 9.1 "Youth Olympic Games" (pdf). International Olympic Committee. p. 35. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "IOC Session: A "go" for Youth Olympic Games". International Olympic Committee. 5 July 2007. สืบค้นเมื่อ 5 July 2007.
- ↑ 11.00 11.01 11.02 11.03 11.04 11.05 11.06 11.07 11.08 11.09 "Factsheet Youth Olympic Games" (PDF). International Olympic Committee. February 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-03-24. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ Wang, Jeanette. "Perfect Pitch" (PDF). International Olympic Committee. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "Innsbruck Elected To Host the Inagural Youth Olympic Winter Games In 2012". Gamebids.com. 12 December 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-28. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "2018 Youth Olympic Games: Appraising Abuja's Bid Plan". Leadershipeditors.com. 19 March 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-02. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "Youth Olympic Games Candidature Procedure and Questionnaire" (pdf). International Olympic Committee. p. 52. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ 16.0 16.1 Leyl, Sharanjit (15 August 2010). "Youth Olympic Games gamble for Singapore". BBC.com. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "Cost of Youth Games goes up three-fold An extra $265 million". Comsenz Inc. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Youth Olympic Games to cost $387 million". Singapore Democrats. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-23. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ "1st Winter Youth Olympic Games in 2012" (pdf). International Olympic Committee. pp. 12–14. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ "About Us". Singapore 2010 Youth Olympic Games. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-20. สืบค้นเมื่อ 19 May 2011.
- ↑ "Youth Olympic Games". International Olympic Committee. สืบค้นเมื่อ 19 May 2011.
- ↑ Murphy, Pam. "Youth Olympics:Which Sports?". Livestrong.com. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ "Sports-Aquatics". Singapore 2010 Youth Olympic Games. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-27. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ "Sports-Basketball". Singapore 2010 Youth Olympic Games. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-27. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ "Sports-Cycling". Singapore 2010 Youth Olympic Games. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ 26.0 26.1 "Sports events and eligibility requirements". Innsbruck 2012 Youth Olympic Games. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ 27.0 27.1 "Youth Olympic Games" (pdf). International Olympic Committee. p. 42. สืบค้นเมื่อ 20 May 2011.
- ↑ "Teenage Kicks: The Inaugural Youth Olympic Games". SportsPro. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ "Factsheet Youth Olympic Games" (PDF). International Olympic Committee. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (pdf)เมื่อ 2012-03-24. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ 30.0 30.1 "Innsbruck Elected To Host the Inagural Youth Olympic Winter Games In 2012". Gamesbids.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-28. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ "Nanjing, China Elected To Host 2014 Summer Youth Olympic Games". Gamesbids.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 12 July 2011.
- ↑ Lillehammer awarded 2016 Winter Youth Olympic Games
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Youth Olympic Games – official site
- Singapore 2010 เก็บถาวร 2012-05-26 ที่ archive.today – official site
- Innsbruck 2012 – official site
- Nanjing 2014 – official site