กองทัพอากาศบรูไน
กองทัพอากาศบรูไน (อังกฤษ: Royal Brunei Air Force: RBAirF มลายู: Tentera Udara Diraja Brunei: TUDB) เป็นกองทัพอากาศของรัฐสุลต่านบรูไนดารุสซาลาม มีกองบัญชาการหลักอยู่ที่ฐานทัพอากาศริมบาภายในท่าอากาศยานนานาชาติบรูไน[4] บทบาทของกองทัพอากาศบรูไนคือการปกป้องน่านฟ้าของประเทศ และการตรวจตรารักษาอธิปไตยเหนือห้วงอากาศและการเฝ้าระวังเขตแดนทางบกและทางทะเล[5] ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2566 กองทัพอากาศบรูไนมีอากาศยานประจำการอยู่ 20 ลำ[1] และอากาศยานไร้คนขับ (UAV) จำนวน 4 ลำ
กองทัพอากาศบรูไน | |
---|---|
Tentera Udara Diraja Brunei | |
ตรากองทัพอากาศบรูไน | |
ประจำการ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2534 |
ประเทศ | บรูไน |
ขึ้นต่อ | กองทัพบรูไน |
รูปแบบ | กองทัพอากาศ |
บทบาท | การสงครามทางอากาศ, ป้องกันภัยทางอากาศ, ลาดตระเวนทางอากาศ, การค้นหาและกู้ภัย |
กำลังรบ | อากาศยาน 20 ลำ[1] อากาศยานไร้คนขับ 4 ลำ |
ขึ้นกับ | กองทัพบรูไน |
กองบัญชาการ | ริมบา, บรูไน-มัวรา, บรูไน |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผู้บัญชาการ | พล.อ.จ. Sharif Ibrahim[2][3] |
รองผู้บัญชาการ | น.อ. Haszahaidi Ahmad Daud |
เสนาธิการ | น.ท. Mohammad Albadii Shahnoel |
จ่าสิบเอกพิเศษ | นายดาบ Suridi Ibrahim |
ผบ. สำคัญ | พล.อ.จ. Mahmud Saidin @ Muhammad Saidin (ชาวบรูไนคนแรกที่มีใบอนุญาตนักบินรบ) |
เครื่องหมายสังกัด | |
เครื่องหมายแพนหางดิ่ง |
กองทัพอากาศบรูไนก่อตั้งขึ้นในฐานะกองทัพอากาศอิสระเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2543 เดิมทีถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2508 ในฐานะกองบินของกรมรอยัลบรูไนมาเลย์ (มลายู: Askar Melayu Diraja Brunei – AMDB) หน่วยบุกเบิกของกองทัพบรูไน (RBAF) กองบินของกองทัพบรูไนมีเฮลิคอปเตอร์ (เบลล์ 205) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509[4]
ประวัติ
แก้กองทัพอากาศบรูไนได้รับการสถาปนาขึ้นมาจากกองบินของกรมรอยัลบรูไนมาเลย์เมื่อปี พ.ศ. 2508 โดยกองทัพอากาศได้รับมอบภารกิจในการส่งแพทย์ไปยังพื้นที่ชนบทเป็นครั้งแรกด้วยอากาศยาน ซิคอร์สกี เอส-55 จำนวน 2 ลำ ซึ่งปฏิบัติการบินโดยนักบินจากบริษัทเวิร์ลวายด์เฮลิคอปเตอร์คอมปานี และเปลี่ยนไปปฏิบัติการโดยนักบินอังกฤษ 3 นายและอากาศยาน 3 ลำจากกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร (RAF)[6][7]
ในปี พ.ศ. 2510 หน่วยนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหมวดเฮลิคอปเตอร์ (Helicopter Platoon) และรับมอบเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 206 เจ็ทเรนเจอร์ จำนวน 5 ลำ หลักจากนั้นได้มีการก่อตั้งโรงเรียนฝึกอบรมเทคนิคทางอากาศเมื่อปี พ.ศ. 2523 และในปี พ.ศ. 2524 การมีการก่อตั้งฝูบิน 2 ขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ Bölkow บีโอ105 จำนวน 6 ลำ
ฝูงบิน 3 ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นฝูงบินที่ประจำการของอากาศยานเอสเอฟ-260 โดยในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2526 กองบิน 2 ถูกก่อตั้งขึ้นบริเวณที่เคยเป็นกองร้อยป้องกันภัยทางอากาศ เมื่อบรูไนได้รับภารกิจในการป้องกันตนเองมาจากสหราชอาณาจักรในปี พ.ศ. 2527 กองบินได้ขยายขีดความสามารถของตัวเองออกไป จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2534 องค์สุลต่านได้อนุญาตและอนุมัติให้กองบินเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพอากาศบรูไน[6] กองร้อยป้องกันภัยทางอากาศได้ถูกย้ายไปยังกองทัพอากาศบรูไนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2538 และตั้งชื่อใหม่ว่า ฝูงบินป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defence Squadron)
ฝูงบิน 4 ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2540 และนำเฮลิคอปเตอร์ เอส-70เอ แบล็กฮอว์ก มาประจำการยังฝูงบินนี้ ฝูงบิน 5 ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2540 เช่นเดียวกันและประจำการอากาศยานปีกตรึง ซีเอ็น-235 และฝูงบินป้องกันฐานทัพ ในปีเดียวกัน ฝูงบิน 3 ได้รับมอบอากาศยานฝึก Pilatus PC-7 Mk.II ต่อมาฝูงบิน 38 ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 และประจำการขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Mistral หลังจากการเข้าซื้อลิขสิทธิ์ของระบบ Mistral[6] และในปีเดียวกัน การป้องกันภาคพื้นของสนามบินถูกย้ายการบังคับบัญชาจากส่วนบริหารกองทัพอากาศบรูไนไปยังกรมทหารอากาศ
กองบินล่าสุดทีก่อตั้งขึ้นมาชื่อว่ากองบิน 3 เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559[8] ในปี พ.ศ. 2562 กองทัพอากาศบรูไนได้เปิดตัวลายพรางดิจิทัลสีเทาเนื่องในโอกาศครบรอบ 58 ปีที่ค่ายโบลเกียห์[9]
ในปี พ.ศ. 2563 กองทัพอากาศบรูไนได้สั่งซื้ออากาศยานไร้คนขับ Boeing Insitu RQ-21 Blackjack จำนวน 5 ลำจากสหรัฐในปี พ.ศ. 2564[10] เพื่อปฏิบัติการ การข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวน (ISR) โดยรอบน่านน้ำบรูไนในทะเลจีนใต้[11] ซึ่งได้รับการเปิดเผยครั้งแรกโดยสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไนภายในงานครบรอบ 60 ปีของกองทัพบรูไน[11]
กองทัพอากาศบรูไนได้มีความร่วมมือกันกับกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ (PAF) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564 โดยนักบินจากฟิลิปปินส์จะทำการฝึกด้วยเครื่องจำลองการบินเอส-70 แบล็กฮอว์ก ณ ศูนย์ฝึกอบรมอเนกประสงค์บรูไน (BMPTC) ของบริษัแคนาเดียนเอวิชันอิเล็คทรอนิกส์ (CAE)[12]
พิธีปลดประจำการอากาศยานฝูงบิน Bölkow BO105 จัดขึ้น ณ ศูนย์การเคลื่อนที่ทางอากาศ (Air Movement Centre: AMC) ภายในฐานทัพอากาศริมบาในวันที่ 5 กุมภาาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 6 ลำเข้าประจำการในฝูงบินครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ซึ่งควบคุมการซ่อมบำรุงโดยหน่วยวิศวกรไฟฟ้าและเครื่องกลของสหราชอาณาจักร (REME) และยุติลงในปี พ.ศ. 2536 จุงยุติการให้บริการอากาศยานประเภทนี้ และถูกแทนที่โดยกองบิน 1 กองบินปฏิบัติการ[13]
การจัดกำลัง
แก้กองทัพอากาศบรูไน แบ่งออกเป็น 7 กองบิน ได้แก่[14][15]
กองบินปฏฺบัติการ
แก้กองบินปฏฺบัติการ (Operation Wing) ประกอบไปด้วย 4 กองบินและ 3 หน่วยเพิ่มเติม ได้แก่
- กองบิน 1 ประกอบไปด้วย 4 ฝูงบิน แต่ละฝูงบินมีภารกิจในการปฏิบัติการเฉพาะด้านสำหรับการลาดตระเวนทางทะเลและตระเวนชายแดน[16]
- ฝูงบิน 11 (เดิมคือฝูงบิน 1) ประกอบไปด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบ เบลล์ 214เอสที โดยก่อนหน้านี้ฝูงบิน 1 เคยใช้แบบ เบลล์ 212 ก่อนที่จะถูกปลดประจำการในปี พ.ศ. 2556[17] บทบาทหลักของฝูงบินนี้คือขนส่งกำลังทหาร การอพยพผู้บาดเจ็บ การอพยพทางการแพทย์ การดับเพลิง การเป็นพาหนะให้ VVIP และการค้นหาและกู้ภัย[18]
- ฝูงบิน 12 (เดิมคือฝูงบิน 2) ก่อนหน้านี้ประจำการเฮลิคอปเตอร์ Bölkow BO105 บทบาทหลักของฝูงบินคือการให้บริการทางการแพทย์ทางอากาศ การลาดตระเวน การเฝ้าระวัง การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด การเป็นพาหนะให้ VVIP และการบินค้นหาและระบุตำแหน่ง[18]
- ฝูงบิน 14 (เดิมคือฝูงบิน 4) ประกอบไปด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบ เอส-70 แบล็กฮอว์ก บทบาทหลักคือการเป็นฝูงบินร่วมปฏิบัติการพิเศษ ขนส่งกำลังทหาร การอพยพผู้บาดเจ็บ การอพยพทางการแพทย์ การดับเพลิง การเป็นพาหนะให้ VVIP และการค้นหาและกู้ภัย[18]
- ฝูงบิน 15 (เดิมคือฝูงบิน 5) ประกอบไปด้วยอากาศยาน ซีเอ็น-235 บทบาทหลักคือการจัดเตรียมกำลังเพื่อขนส่งทางอากาศ การเฝ้าระวัง และความสามารถในการค้นหาและระบุตำแหน่ง[18]
- กองบิน 2 เดิมชื่อว่ากรมทหารอากาศ (Air Regiment) มีภารกิจในการป้องกันฐานทัพอากาศบรูไนและน่านฟ้าของบรูไนจากภัยคุกคามทางอากาศ[19]
- ฝูงบิน 233 (เดิมคือฝูงบิน 33 และกองร้อยอากาศ) ประกอบไปด้วยเครื่องยิงขีปนาวุธ Rapier FSB1[20] โดยฐานปฏิบัติการแห่งแรกคือค่ายปนันจง ซึ่ง Rapier FSB1 เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการยุติการใช้งานระบบนี้ โดยบทบาทนอกจากการเตรียมพร้อมระบบป้องกันภัยทางอากาศใหม่แล้ว ฝูงบินนี้ยังเป็นหน่วยปฏิบัติการสนับสนุนฝูงบิน 238 อีกด้วย[19]
- ฝูงบิน 236 (เดิมคือฝูงบินป้องกันฐานทัพ) มีภารกิจในการปกป้องฐานทัพอากาศบรูไนและฐานปฏิบัติการส่วนหน้า[20]
- ฝูงบิน 238 (เดิมคือฝูงบิน 38) ประกอบไปด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้มาก คือเครื่อยิงขีปนาวุธ Mistral ณ ฐานในค่ายเบรากัส[20][19]
- ฝูงบินช่างอากาศยาน ตั้งอยู่ในค่ายเบรากัส ผ่านการซ่อมบำรุง ฝูงบินนี้จะช่วยรับรองความพร้อมในการปฏิบัติการของฝูงบินป้องกันภัยทางอากาศ[19]
- กองบิน 3 มีภารกิจในการช่วยเหลือกลุ่มปฏิบัติการในการปฏิบัติภารกิจและบรรลุภารกิจ[8]
- หน่วยพลร่มยุทธวิธีส่งทางอากาศ (Parachute Airborne Tactical Delivery Unit: PATDU) มีภารกิจในการกู้ภัยในป่า สายการการสนับสนุนภายในป่า และการโรยตัว โดยหน่วยยังมีส่วนร่วมในการแข่งขันร่มชูชีพระดับภูมิภาคและในระดับนานาชาติ[20]
- กองดับเพลิง (เดิมคือหน่วยดับเพลิง) มีภารกิจในการป้องกันการเกิดอัคคีภัยและการกู้ภัยให้กับอากาศยานทุกลำเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน[20]
- หน่วยควบคุมการบินเคลื่อนที่ทางอากาศ (Air Movement Flight) มีหน้าที่ดูแลอากาศยานทุกลำที่เข้าออกจากฐานบินรวมไปถึงอากาศยานขนส่งสินค้า[8]
- หน่วยควบคุมพื้นที่ทางอากาศ (Air Space Control) ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของกรมการบินพลเรือน (DCA) ในการควบคุมอากาศยานที่บินผ่านในพื้นที่ของกองทัพอากาศ และมีเป้าหมายในการค้นหาผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC)[8]
- กองบิน 4 หรือเรียกกันว่า กองบัญชาการพลาธิการ (Supply Headquarter) อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการกลุ่มสนับสนุนการรบ[21]
- ฝูงบินพลาธิการภายในประเทศ (Domestic Supply Squadron: DSS) มีภารกิจในการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงและยุทโธปกรณ์ประจำตัวทหาร[21]
- หน่วยบินควบคุมบัญชีพลาธิการ (Supply Control and Accounting Flight: SCAF) ประกอบด้วย 5 ส่วนหลักได้แก่ ส่วนควบคุมบัญชี (CAC) ส่วนบัญชีพลาธิการ (SAC) ส่วนควบคุมพลาธิการ (SCC) ส่วนรับและจัดส่ง (R&D) และส่วนติดตั้งฐานเก็บเชื้อเพลิง[21]
- ฝูงบินพลาธิการทางเทคนิค (Technical Supply Squadron: TSS) เดิมมีชื่อว่า หน่วยบินพลาธิการทางเทคนิค (Technical Supply Flight) มีภารกิจในการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคให้กับกองทัพอากาศบรูไน ซึ่งเป็นหน่วยส่วนหน้าและหน่วยหลักในการเก็บชิ้นส่วนอากาศยาน โดยอาคารหลักของกองบิน 4 เป็นที่ตั้งของโรงซ่อมหลัก และโรงซ่อมบำรุงส่วนหน้า ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในโรงเก็บเครื่องบิน A และโรงเก็บเครื่องบิน B และฝูงบิน 28[21]
- ฐานกักเก็บเชื้อเพลิง (Bulk Fuel Installation)[21]
- กองบิน 5 รู้จักกันในชื่อ กองบินซ่อมบำรุง เป็นกองบินที่คอยตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าอากาศยานนั้นผ่านตามมาตรฐานข้อกำหนดด้านการปฏิบัติการและการฝึกเกี่ยวกับอากาศยานจะได้รับการตรวจสอบรับรอง รวมไปถึงการควบคุมให้เป็นไปตามวงรอบในการซ่อมบำรุงให้กับ เอส-70 แบล็กฮอว์ก, บีโอ-105, เบลล์ 206 เจทเรนเจอร์, เอส70เอ แบล็กฮอว์ก และ ซีเอ็น235 เป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินช่างอากาศ 51, 52, 53, 54 และ 55 ที่มีหน้าที่ในการซ่อมบำรุงโดยตรง ครอบคลุมไปถึงการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ระบบอำนวยการบิน โครงสร้างเครื่องบิน และส่วนประกอบอื่น ๆ[22]
- ส่วนวิศวกรรมทั่วไป (Standard Engineering Cell) เป็นส่วนในการจัดเตรียมด้านเอกสาร พลาธิการและซ่อมบำรุงของฝูงบินและกรมของกองบิน 5[22]
- ส่วนควบคุมและวางแผนทางวิศวกรรม (Engineering Control & Planning: EC & P) เป็นส่วนที่ตรวจสอบกิจกรรมการซ่อมบำรุงทุกอย่างว่าได้รับการซ่อมบำรุงตามเอกสารและปรับปรุงให้ถูกต้องที่สุด[22]
- ส่วนจัดการทรัพยากรการวางแผนซ่อมบำรุง (Maintenance Planning Resources Management: MPRM) เป็นส่วนในการประมาณการปฏิบัติการและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงทั้งหมด[22]
- กรมบำรุงรักษาอุปกรณ์ทางเทคนิค (Technical Equipment Maintenance Department: TEMD) เป็นหน่วยงานพลเรือนที่ได้รับมอบหมายให้ซ่อมบำรุงอากาศยาน[23]
- ฝูงบิน 51
- ฝูงบิน 52
- ฝูงบิน 53
- ฝูงบิน 54
- ฝูงบิน 55
- ส่วนบินสนับสนุนด้านวิศวกรรม (Engineering Support Flight) เป็นส่วนในการให้ความช่วยเหลือกับฝูงบิน โดยเจ้าหน้าที่อุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นดิน (Ground Support Equipment: GSE) มีหน้าที่ในการจัดหาอุปกรณ์ทั้งหมดสำหรับการบำรุงรักษาอากาศยาน เจ้าหน้าที่กลศาสตร์เส้นทางบิน (Flight Line Mechanics: FLM) มีหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายอากาศยานบนพื้นโรงเก็บอากาศยานหรือบริเวณลานจอด และเจ้าหน้าที่ส่วนอุปกรณ์เอาชีวิตรอด (Survival Equipment Section: SES) มีหน้าที่ในการจัดหาและบำรุงรักษาอุปกรณ์ยังชีพในอากาศยาน[22]
- กองบิน 6 มีชื่อเดิมว่า กองบินบริหาร[24] (Administration Wing) มีหน้าที่ในการดูแลสวัสดิการของบุคลากรตลอดจนข้อกังวลต่าง ๆ ในส่วนของการบริหาร และการบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับฐานทัพของกองทัพอากาศบรูไน[25]
- กองร้อยตำรวจ (Regimental Police Fleet: RP Flt) เป็นหน่วยที่ได้รับมอบหมายให้ป้องกันการเข้าถึงพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต[25]
- กองค่าจ้าง (Pay Fleet) ปกป้องผลประโยชน์ด้านสวัสดิการของบุคลากรในกองทัพอากาศบรูไนทุกคน ตามขั้นตอนการปฏิบัติที่เหมาะสมในการรับค่าจ้างและผลประโยชน์ส่วนบุคคลตามคู่มือและระเบียบทางการเงิน[25]
- หน่วยบำรุงรักษาฐาน (Base Maintenance: Base Maint) เป็นหน่วยที่คอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหน่วยปฏิบัติตามระเบียบที่ได้กำหนดไว้ตามขั้นตอนและข้อกำหนด[25]
- หน่วยบำรุงรักษาทรัพย์สิน (Estate Maintenance Service: EMS) เป็นหน่วยที่มีหน้าที่ในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในฐานทัพอากาศริมบา[25]
- หน่วยบริการตอบรับทางการแพทย์ (Medical Reception Service: MRS) เป็นหน่วยที่มีหน้าที่ในการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ให้กับบุคลากรของกองทัพอากาศบรูไน[25]
- หน่วยช่วยเหลือขนาดเบา (Light Aid Detachment: LAD) เป็นหน่วยที่ได้รับมอบหมายให้ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ยานยนต์ขนส่งของกองทัพอากาศให้มีสภาพพร้อมใช้งาน[25]
- กองทหารขนส่ง (Military Transport Fleet: Mt Flt) เป็นหน่วยที่ดูแลการขนส่งทางบกของกองทัพอากาศบรูไน[25]
- หน่วยทันตกรรม (Dental) ให้บริการด้านทันตกรรมให้กับสมาชิกของกองทัพอากาศบรูไน[25]
- กองบิน 7 มีชื่อเดิมว่า กองบินฝึก (Training Wing) มีหน้าที่ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการฝึก รวมถึงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมด้านอื่น ๆ เพื่อให้บุคลากรเป็นไปตามข้อกำหนดของกองทัพอากาศ[26]
- ฝูงบิน 73 หรือที่รู้จักกันในชื่อของ โรงเรียนฝึกการบิน (Flying Training School: FTS) และเป็นอดีตฝูงบิน 3 และ 63 มีหน้าที่ในการฝึกนักบินขั้นพื้นฐานทั้งอากาศยานปีกตรึงและอากาศยานปีกหมด (เฮลิคอปเตอร์) โดยนอกจากฝึกอบรมให้กับนักบินของกองทัพอากาศล้ว ยังฝึกอบรมให้กับลูกเรือการบินด้วย โดยเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักบินและลูกเรือในกองทัพอากาศบรูไน[26] มีเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 206 และอากาศยาน Pilatus PC-7 Mk.II ประจำการในฝูงบินนี้สำหรับการฝึกบิน[23]
- ฝูงบิน 75 หรือที่รู้จักกันในชื่อของ โรงเรียนฝึกเทนนิคทางอากาศ (Air Technical Training School: ATTS) ให้การฝึกอบรมด้านเทคนิคขั้นพื้นฐานและขั้นสูงให้กับช่างเทคนิคของกองทัพอากาศบรูไน เพื่อสร้างทักษะและตอบสนองต่อความต้องการในการปฏิบัติงาน[26]
- ฝูงบิน 77 ประจำการอยู่ที่ค่ายเบรากัส และสั่งการภายในกองทัพอากาศและกองบิน 2 ในการป้องกันภัยทางอากาศ[26]
- ให้การฝึกด้านกายภาพกับกองกำลังกองทัพอากาศบรูไน[26]
ผู้บัญชาการ
แก้ลำดับ | ภาพ | ชื่อ
(เกิด–เสียชีวิต) |
สมัยดำรงตำแแหน่ง | อ้างอิง | ||
---|---|---|---|---|---|---|
เข้ารับตำแหน่ง | ออกจากตำแหน่ง | ระยะเวลา | ||||
? | พลอากาศจัตวา Ibrahim Mohammed |
? | ? | [27] | ||
10 | พลอากาศจัตวา Mahmud Saidin |
? | 20 สิงหาคม 2552 | [28] | ||
11 | พลอากาศจัตวา Jofri Abdullah |
20 สิงหาคม 2552 | 7 ธันวาคม 2555 | 3 ปี 109 วัน | [29] | |
12 | พลอากาศจัตวา Wardi Abdul Latip |
7 ธันวาคม 2555 | 26 กันยายน 2558 | 2 ปี 293 วัน | [30] | |
13 | พลอากาศจัตวา Shahril Anwar |
26 กันยายน 2558 | 18 สิงหาคม 2561 | 2 ปี 326 วัน | [31] | |
14 | พลอากาศตรี Hamzah Sahat |
18 สิงหาคม 2561 | 28 สิงหาคม 2563 | 2 ปี 10 วัน | [32] | |
15 | พลอากาศจัตวา Sharif Ibrahim |
28 สิงหาคม 2563 | อยู่ในตำแหน่ง | 4 ปี 83 วัน | [33] |
โครงสร้างชั้นยศ
แก้นายทหารชั้นสัญญาบัตร
แก้เครื่องหมายยศนายทหารชั้นสัญญาบัตรของกองทัพอากาศบรูไน
กลุ่มชั้นยศ | นายพล / นายทหารชั้นนายพล | นายทหารสัญญาบัตรอาวุโส | นายทหารสัญญาบัตร | นักเรียนนายร้อย | ||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กองทัพอากาศบรูไน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Marsyal udara | Jeneral (udara) | Leftenan jeneral (udara) | Mejar jeneral (udara) | Brigedier jeneral (udara) | Kolonel (udara) | Leftenan kolonel (udara) | Mejar (udara) | Kapten (udara) | Leftenan (udara) | Leftenan muda (udara) | Pegawai kadet (udara) | |||||||||||||||||||||||||
จอมพลอากาศ | พลอากาศเอก | พลอากาศโท | พลอากาศตรี | นาวาอากาศเอกพิเศษ | นาวาอากาศเอก | นาวาอากาศโท | นาวาอากาศตรี | เรืออากาศเอก | เรืออากาศโท | เรืออากาศตรี | นักเรียนนายเรืออากาศ | |||||||||||||||||||||||||
Marshal of the Air Force | General | Lieutenant general | Major general | Brigadier general | Colonel | Lieutenant colonel | Major | Captain | Lieutenant | Junior lieutenant | Officer cadet |
นายทหารชั้นประทวน
แก้บรูไนต่างจากกองกำลังติดอาวุธอื่นในเครือจักรภพส่วนใหญ่ โดยยังคงตำแหน่งในยศนายดาบ 4 ตำแหน่งอยู่เหมือนเดิม ซึ่งใช้ร่วมกับมาตรฐานของทหารชั้นประทวนของเครือจักรภพ รวมไปถึงกำลังพลและชั้นยศ
กลุ่มชั้นยศ | นายทหารประทวนอาวุโส | นายทหารประทวน | พลสมัคร และพลทหาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กองทัพอากาศบรูไน |
|
ไม่มีเครื่องหมายยศ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
Sarjan mejar (Jawatan) |
Pegawai waran 1 (udara) | Pegawai waran 2 (udara) | Staf sarjan (udara) | Sarjan (udara) | Koperal (udara) | Lans koperal (udara) | Prebet/Soldadu (udara) | |||||||||||||||||||||||||||||
พันจ่าอากาศเอกพิเศษ | พันจ่าอากาศเอก | พันจ่าอากาศโท | พันจ่าอากาศตรี | จ่าอากาศเอก | จ่าอากาศโท | จ่าอากาศตรี | พลทหาร | |||||||||||||||||||||||||||||
Sergeant major | Warrant officer | Warrant officer | Staff sergeant | Sergeant | Corporal | Lance corporal | Private |
เหตุการณ์สำคัญ
แก้เครื่องบิน เบล 212 ของกองทัพอากาศบรูไนเกิดอุบัติเหตุตกในกัวลาเบอไลต์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 นายจากทั้งหมด 14 นาย[34] โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด[35] ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่เลวร้ายที่สุดของประวัติศาสตร์บรูไน
ยุทโธปกรณ์
แก้อาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับอากาศยานประกอบไปด้วย เอ็ม134 มินิกัน ขีปนาวุธ FZ และขีปนาวุธ SURA[36][13][37] มีแผนที่จะรักษาความพร้อมของเครื่องบินรบด้วยการจัดซื้ออากาศยาน บีเออี ฮ็อค อีกหลายลำ แต่แผนเกิดความล่าช้าหลายครั้ง[38] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ทำเนียบขาวได้ประกาศว่า ซิคอร์สกีได้ทำข้อตกลงในการขายยูเอช-60เอส จำนวน 12 ลำ ให้กับกองทัพอากาศบรูไน
กองทัพอากาศบรูไนได้รับมอบ อากาศยาน ซีเอ็น235-220 จำนวน 3 ลำในปี พ.ศ. 2561 สำหรับการปฏิบัติการทางทะเล[39] พร้อมกับ ซี-130เจ ซูเปอร์เฮอร์คิวลิส ที่จะส่งมอบในปีเดียวกัน โดยพลอากาศจัตว Wardi Abdul Latip ได้เปิดเผยว่ากองทัพอากาศบรูไนได้ทำข้อตกลงกับล็อกฮีด มาร์ตินในการจัดซื้อเครื่องบินขนส่งทางทหารเพื่อปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีโมโรในมาเลเซียและแทนที่ยุทโธปกรณ์เก่า ด้วยการโอนอากาศยานเอส-70เอ แบล็กฮอว์ก ให้กับกองทัพอากาศมาเลเซีย[40][41] และมีการปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 จำนวน 8 ลำอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2557[17][42]
ในระหว่างการฉลองครบรอบของกองทัพบรูไนในปี พ.ศ. 2564 สุลตานแห่งบรูไนได้เปิดตัวโครงการอากาศยานไร้คนขับ (UAS) และอากาศยานไร้คนขับรุ่นแบล็คแจ็ก อาร์คิว-21 จากการเปิดเผยของบริษัทอเมริกา โดยมีภารกิจตรวจการณ์และรักษาความมั่นคงทางทะเล[43] ซึ่งมีแผนจะติดตั้งปืนมินิกัน เอ็ม134ดี ซึ่งคาดว่าจะได้รับมอบในปี พ.ศ. 2565[44]
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "World Air Forces 2023". FlightGlobal.com. Flightglobal International. 2023. สืบค้นเมื่อ 6 February 2023.
- ↑ "Commander of the Royal Brunei Air Force". MinDef.gov.bn. Defence Information Technology Unit, Ministry of Defence, Brunei Darussalam. 2020. สืบค้นเมื่อ 28 October 2022.
- ↑ Fadley Faisal (25 June 2022). "Call to remain flexible, adaptable and professional". BorneoBulletin.com.bn. Borneo Bulletin Online. สืบค้นเมื่อ 30 October 2022.
- ↑ 4.0 4.1 Introduction Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 2 เมษายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ Roles Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 20 กุมภาพันธ์ 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ 6.0 6.1 6.2 History Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 20 กุมภาพันธ์ 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ "HISTORY". Ministry of Defence.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 "No. 3 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ "RBAF debuts new military uniforms". BorneoBulletin.com.bn. Borneo Bulletin Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 October 2022.
- ↑ "s10.png – Transfers of major weapons: deals with deliveries or orders made for 2021 to 2021". servimg.com. Servimg.com – Free image hosting service. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ 11.0 11.1 Dominguez, Gabriel; Giovanzanti, Alessandra (6 July 2021). "Royal Brunei Air Force acquires Insitu Integrator unmanned aerial system". Janes.com. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ "Black Hawk training in Brunei for Philippine Air Force launched". BruneiPE.dfa.gov.ph. Bandar Seri Begawan: Embassy of the Philippines. 3 December 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-23. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ 13.0 13.1 "Air Force retires Bolkow 105 helicopters". BorneoBulletin.com.bn. Borneo Bulletin Online. 5 February 2022. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ https://mindef.gov.bn/airforce/_layouts/15/start.aspx#/SitePages/About%20Us.aspx
- ↑ Organisation Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 20 กุมภาพันธ์ 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ "No. 1 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ 17.0 17.1 Lt (U) Mohd Hazwan (2020). Lt Col (U) Don Giovanni (บ.ก.). "The Bell 212: the era of the juggernauts" (PDF). Keris Terbang (Flying Dagger). No. 1. Royal Brunei Air Force, Defence Information Technology Unit, Ministry of Defence, Brunei Darussalam. pp. 20–21. สืบค้นเมื่อ 5 February 2023.
- ↑ 18.0 18.1 18.2 18.3 Operation Wing Squadrons เก็บถาวร 27 กันยายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ 19.0 19.1 19.2 19.3 "No. 2 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ 20.0 20.1 20.2 20.3 20.4 Air Regiment Squadrons เก็บถาวร 27 กันยายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ 21.0 21.1 21.2 21.3 21.4 "No. 4 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ 22.0 22.1 22.2 22.3 22.4 "No. 5 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ 23.0 23.1 Logistics and Training Wing Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 27 กันยายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 July 2007
- ↑ Administration Wing Royal Brunei Air Force เก็บถาวร 27 กันยายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 July 2007
- ↑ 25.0 25.1 25.2 25.3 25.4 25.5 25.6 25.7 25.8 "No. 6 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ 26.0 26.1 26.2 26.3 26.4 "No. 7 Wing". Royal Brunei Air Force.
- ↑ "THE COMMANDER OF THE ROYAL BRUNEI AIR FORCE, COLONEL (COL) …". www.nas.gov.sg. สืบค้นเมื่อ 2023-04-15.
- ↑ "Official Visit By Commander In-Chief, Royal Thai Air Force". Royal Brunei Air Force. 2007-02-02.
- ↑ "Jofri Abdullah TUDB - Google Search". www.google.com. สืบค้นเมื่อ 2023-04-15.
- ↑ "News_Test – Royal Brunei Air Force Gets New Commander..." www.mindef.gov.bn. สืบค้นเมื่อ 2022-12-17.
- ↑ "News Headlines - ROYAL BRUNEI AIR FORCE WELCOMES NEW COMMANDER..." mindef.gov.bn. สืบค้นเมื่อ 2022-10-23.
- ↑ "Commander RBAF - Major General (U) Dato Seri Pahlawan Haji Hamzah bin Haji Sahat, Royal Brunei Armed Forces Commander". MinDef12.rssing.com. www.rssing.com. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ "Upacara Serah Terima Tugas Pemerintah TUDB" [RBAirF government handover ceremony]. BruDirect.com (ภาษามาเลย์). Brunei's No. 1 News Website. 29 August 2020. สืบค้นเมื่อ 2 February 2023.
- ↑ AFP (21 July 2012). "Brunei helicopter crash kills 12: air force". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2012. สืบค้นเมื่อ 21 July 2012.
- ↑ CNN Wire Staff. "12 killed in Brunei helicopter crash". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 July 2012. สืบค้นเมื่อ 21 July 2012.
- ↑ "News Headline". mindef.gov.bn. สืบค้นเมื่อ 2022-09-10.
- ↑ Wilson, Gwen (2022-02-08). "Royal Brunei Air Force retires Bo105 fleet". HeliHub.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2022-09-10.
- ↑ British Aerospace Hawk Still Leads the Pack Flug Revue Online เก็บถาวร 23 เมษายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Retrieved 21 April 2007
- ↑ "Janes | Latest defence and security news". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 February 2014. สืบค้นเมื่อ 15 February 2014.
- ↑ Marcel Burger (23 January 2015). "Brunei gives four Black Hawks as present to Malaysia". AIRheads. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2015. สืบค้นเมื่อ 24 January 2015.
- ↑ "Brunei transfers S-70A Blackhawks to Malaysian Armed Forces". Borneo Bulletin. 29 January 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 March 2016. สืบค้นเมื่อ 19 April 2016.
- ↑ "Bell 212 choppers decommissioned". Brunei Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 July 2016. สืบค้นเมื่อ 2016-05-27.
- ↑ Shareen Han (31 May 2021). "RBAF to use drones for maritime security surveillance". The Scoop.
- ↑ "News Headline". MinDef.gov.bn. Defence Information Technology Unit, Ministry of Defence, Brunei Darussalam. สืบค้นเมื่อ 2022-10-23.