แร้งคอนดอร์แอนดีส
แร้งคอนดอร์แอนดีส ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 2.6–0Ma สมัยไพลโอซีนตอนปลาย–สมัยโฮโลซีน | |
---|---|
ตัวเมียในสวนสัตว์ดูเอ-ลา-ฟงแตน ประเทศฝรั่งเศส | |
ตัวผู้ที่สวนสัตว์ทารองกา ประเทศออสเตรเลีย | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Cathartiformes |
วงศ์: | Cathartidae |
สกุล: | Vultur Linnaeus, 1758 |
สปีชีส์: | V. gryphus |
ชื่อทวินาม | |
Vultur gryphus Linnaeus, 1758 | |
สีเหลือง - สถานที่แพร่กระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง | |
แร้งคอนดอร์แอนดีส (อังกฤษ: Andean condor, condor; ชื่อวิทยาศาสตร์: Vultur gryphus) นกล่าเหยื่อขนาดใหญ่จำพวกแร้ง จัดเป็นแร้งโลกใหม่ (Cathartidae) ชนิดหนึ่ง จัดเป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Vultur[2]
แร้งคอนดอร์แอนดีส จัดเป็นแร้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จึงจัดเป็นนกล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และนับเป็นหนึ่งในนกที่บินได้ที่มีช่วงปีกกว้างที่สุดในโลก รองมาจากนกอัลบาทรอส เพราะมีช่วงปีกกางได้กว้างถึง 3 เมตร ขณะที่มีลำตัวยาว 1.2 เมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 14 กิโลกรัม เมื่อโตเต็มที่ และถือเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในทวีปอเมริกาใต้ด้วย[3][4] [5]
แร้งคอนดอร์แอนดีส มีความแตกต่างระหว่างเพศที่เห็นได้ชัด คือ ตัวผู้จะมีหงอนสีแดงสดและเหนียงยานต่าง ๆ ที่บนหัวและใต้คางหรือหลังหัวที่โล้นเลี่ยนปราศจากขน ซึ่งเหนียงเหล่านี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์บอกถึงความสง่างามและแข็งแกร่งของนกตัวผู้ ขณะที่ตัวเมียจะไม่มีลักษณะดังกล่าว[3]
มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ในแถบเทือกเขาแอนดีสและที่ราบสูงปาตาโกเนีย ในทวีปอเมริกาใต้ โดยอาศัยและทำรังบนหน้าผาสูงในระดับนับร้อยหรือพันเมตรจากพื้นดิน มีระดับการบินที่สูงจากพื้นดิน ขณะที่สายตาก็สอดส่องมองหาอาหาร ซึ่งได้แก่ ซากสัตว์ต่าง ๆ ที่ตายบนพื้นดิน เมื่อพบเจอซากสัตว์ แร้งคอนดอร์แอนดีสมักจะได้สิทธิกินซากก่อนนกหรือแร้งโลกใหม่ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากเป็นนกที่มีขนาดใหญ่ ขณะที่แร้งคอนดอร์แอนดีสด้วยกันตัวอื่น ๆ แม้จะเจอซากสัตว์เหมือนกัน อาจมีการแย่งกินกันบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงเหมือนแร้งโลกเก่า (Aegypiinae) และนกตัวผู้จะได้รับสิทธิให้กินก่อน ต่อจากนั้นก็จะตามมาด้วยนกตัวเมีย และนกวัยรุ่นหรือนกวัยอ่อน ซึ่งในนกวัยรุ่นอาจมีการดึงแย่งเศษซากชิ้นส่วนกันด้วย[3]
แร้งคอนดอร์แอนดีสเป็นนกที่มีอายุยืน อาจมีอายุได้ถึง 50-60 ปี เป็นนกที่จับคู่แบบคู่เดียวตลอดทั้งชีวิต ทำรังบนหน้าผาสูง โดยวางไข่เพียงครั้งละ 1 ฟอง พ่อแม่นกจะช่วยกันเลี้ยงลูกนานถึง 2 ปี เมื่อลูกนกฝึกบินจะเป็นพ่อและแม่นกที่ช่วยสอนลูก[3]
แร้งคอนดอร์แอนดีส มีการอพยพย้ายถิ่นไปในสหรัฐอเมริกาและอเมริกากลางเช่นเดียวกับแร้งโลกใหม่ชนิดอื่น ๆ โดยจะบินอพยพไปพร้อม ๆ กันเป็นฝูงใหญ่ โดยมีการแวะพักในระหว่างทาง แร้งคอนดอร์แอนดีส เกือยจะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ. 1985 เมื่อนักสำรวจพบเจอนกเพียง 5 ตัวเท่านั้นในธรรมชาติ และได้ทำการเพาะขยายพันธุ์ เพื่ออนุรักษ์เผ่าพันธุ์เอาไว้ [4]
ปัญหาปัจจุบันของแร้งคอนดอร์แอนดีส รวมถึงแร้งชนิดอื่น ๆ คือ การกินซากสัตว์ที่ปนเปื้อนด้วยสารเคมีต่าง ๆ ที่ทำให้นกตายได้ในภายหลัง ทำให้ในบางพื้นที่ เช่น ชานกรุงซานเตียโก เมืองหลวงของประเทศชิลี ทางเทศบาลจะคัดแยกขยะที่สามารถเป็นอาหารของแร้งได้ แยกไว้ต่างหากในกองขยะที่รอการกำจัดทิ้ง เพื่อให้เป็นอาหารของแร้งคอนดอร์แอนดีส รวมถึงนกกินซากชนิดอื่น ๆ ด้วย เพื่อไม่ให้กินอาหารที่ปนเปื้อนด้วยสารเคมี[3]
อ้างอิง
แก้- ↑ BirdLife International (2012). "Vultur gryphus". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2012.1. สืบค้นเมื่อ 16 July 2012.
- ↑ จาก itis.gov
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 อเมริกาใต้, "มองโลกอัศจรรย์ผ่านนภากาศ". สารคดีของบีบีซีเวิลด์ ทางไทยพีบีเอส: พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556
- ↑ 4.0 4.1 นกแร้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ↑ e Ferguson-Lees, James; Christie, David A. (2001). Raptors of the World. Boston: Houghton Mifflin. ISBN 0-618-12762-3.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Vultur gryphus ที่วิกิสปีชีส์