บีพี
บีพี (BP) เป็นบริษัททางด้านพลังงานขนาดใหญ่ของโลก โดยเป็นบริษัทด้านพลังงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก เป็นบริษัทที่มีพนักงานมากที่สุดอันดับสี่ของโลก[3][4] และเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เวสต์มินสเตอร์ ลอนดอน สหราชอาณาจักร[5][6][7] ส่วนบีพีสาขาอเมริกามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฮิวสตันในรัฐเท็กซัส[8] ในปี พ.ศ. 2543 บีพีได้ซื้อกิจการของคาสตรอล ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์และรถจักรยานยนต์คาสตรอล ส่งผลให้คาสตรอลขึ้นกับบีพีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประเภท | มหาชน |
---|---|
การซื้อขาย | LSE: BP., NYSE: BP |
ISIN | GB0007980591 |
อุตสาหกรรม | ก๊าซธรรมชาติ, น้ำมันปิโตรเลียม |
ก่อตั้ง | 1909 (ภายใต้ชื่อ บริษัทน้ำมันแองโกล-เปอร์เซีย) 1954 (ภายใต้ชื่อบริติชปิโตรเลียม) 1998 (รวมเข้ากับบริษัทอาโมโค) |
สำนักงานใหญ่ | ลอนดอน, สหราชอาณาจักร |
พื้นที่ให้บริการ | ทั่วโลก |
บุคลากรหลัก | ธีรพงศ์ วันคำ (ประธาน) โททาล ธีรพงศ์ (ซีอีโอ) เท็ท ดีไซน์ (ซีเอฟโอ)[1] |
ผลิตภัณฑ์ | น้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ เชื้อเพลิงเครื่องยนต์ เชื้อเพลิงอากาศยาน |
บริการ | สถานีบริการ |
รายได้ | US$ 386.46 พันล้าน (2011)[2] |
รายได้จากการดำเนินงาน | US$ 39.81 พันล้าน (2011)[2] |
รายได้สุทธิ | US$ 25.70 พันล้าน (2011)[2] |
สินทรัพย์ | US$ 290.92 พันล้าน (2011)[2] |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | US$ 111.46 พันล้าน (2011)[2] |
พนักงาน | 79,700 (2011)[2] |
เว็บไซต์ | www |
บีพีได้เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อบริหารสถานีบริการน้ำมันบีพี และผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์บีพีเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในชื่อบริษัท บีพี ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540 ท่ามกลางวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 บีพีได้ขายกิจการด้านสถานีบริการน้ำมันบีพีในประเทศไทยให้กับเชฟรอน หรือบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด และขายลิขสิทธิ์ยี่ห้อน้ำมันเครื่องให้กับ พีทีและเจ็ท (ในขณะนั้น) โดยได้ขายสถานีบริการน้ำมันไป 48 แห่ง แต่ในด้านการจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น บีพียังคงดำเนินการต่อไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2552 ได้ควบรวมกิจการเข้ากับบริษัท แอสแพค ออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์และรถจักรยานยนต์คาสตรอล จัดตั้งบริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินกิจการการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์และจักรยานยนต์บีพีและคาสตรอล จนถึงปัจจุบัน โดยมีโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นบีพีและคาสตรอลอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร
อ้างอิง
แก้- ↑ "Executive Compensation at BP". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-14. สืบค้นเมื่อ 12 July 2010.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 "Annual Results 2011" (PDF). BP. 2 February 2010. สืบค้นเมื่อ 11 June 2010.
- ↑ "BP.com: History of BP - Post war". สืบค้นเมื่อ 3 July 2010.
In 1954, the board changed the company’s name to The British Petroleum Company
- ↑ "A Brief History of BP". TIME magazine. 2 June 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-10. สืบค้นเมื่อ 3 July 2010.
In 1954, in an attempt perhaps to move beyond its image as a quasi-colonial enterprise, the company rebranded itself the British Petroleum Company
- ↑ "BP Global head office". BP. 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-25. สืบค้นเมื่อ 11 June 2010.
- ↑ "Contact BP in the United Kingdom". BP. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-25. สืบค้นเมื่อ 11 June 2010.
- ↑ "Map of the City of Westminster". Westminster.gov.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-05. สืบค้นเมื่อ 11 June 2010.
- ↑ "Two Westlake Park, Houston, TX : Hines Interests". Hines Interests. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-24. สืบค้นเมื่อ 11 June 2010.