ไซยาโนแบคทีเรีย
ไซยาโนแบคทีเรีย หรือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue-green algae หรือ cyanobacteria) จัดอยู่ในไฟลัม Cyanophyta ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สังเคราะห์ด้วยแสงได้[4] สาหร่ายชนิดนี้มีโครงสร้างของนิวเคลียสคล้ายคลึงกับนิวเคลียสของแบคทีเรีย และบางชนิดยังมีคุณสมบัติตรึงไนโตรเจนในอากาศได้ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติทางชีวเคมีคล้ายแบคทีเรียด้วย แต่ต่างจากแบคทีเรีย เพราะสาหร่ายชนิดนี้มีคลอโรฟิลล์เอ และมีการปล่อยออกซิเจนออกสู่สิ่งแวดล้อมจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งไม่พบในแบคทีเรีย
ไซยาโนแบคทีเรีย ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 2100–0Ma (น่าจะมีบันทึกถึงมหายุคพาลีโออาร์เคียน) | |
---|---|
ภาพจุลทรรศน์ของ Cylindrospermum | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | แบคทีเรีย Bacteria |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Terrabacteria Terrabacteria |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Cyanobacteria-Melainabacteria group Cyanobacteria-Melainabacteria group |
ไฟลัม: | ไซยาโนแบคทีเรีย Cyanobacteria Stanier, 1973 |
ชั้น: | Cyanophyceae Cyanophyceae |
อันดับ[3] | |
ข้อมูลเมื่อ 2014[update] อนุกรมวิธานยังอยู่ระหว่างการปรับปรุง[1][2] | |
ชื่อพ้อง | |
รายชื่อ
|
ไซยาโนแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว รูปแบบโครงสร้างเซลล์มีสารพันธุกรรมทั้งตัวและไม่มีเยื่อหุ้มนิวนิวเคลียส (โพรแคริโอต) ทำให้สามารถเจริญแบบเพิ่มจำนวนได้โดยการแบ่งตัว เนื่องจากโลกยังร้อนจัด ไม่มีออกซิเจน มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ สารประกอบจำพวก ไนโตเจน มีเทน แอมโมเนีย ไซยาโนแบคทีเรีย สามารถปรับตัวได้สูงมากโดยการ สร้างเมือกห่อหุ้มเซลล์ และในเซลล์จะมีถุงลมเพื่อเพิ่มการพยุงตัว หากภาวะที่เหมาะสมในการสังเคราะห์แสง มีเม็ดสีช่วยในการต่อต้านแสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ และเริ่มสังเคราะห์ด้วยแสง เกาะอาศัยอยู่บนสโตรมาโตไลต์ ทั่วไปบริเวณชายฝั่งทะเลสมัยพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิต
ประเภท
แก้จากการวิวัฒนาการของ ไซยาโนแบคทีเรีย มีทั้งแบบ สายตรงและแบบผสมกับเซลล์อื่น เช่น รา (รวมยีสต์) และสาหร่ายชั้นสูง จากลักษณะทางสัณฐานวิทยา สามารถแบ่งไซยาโนแบคทีเรียได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
ลักษณะ
แก้- กลุ่มที่ไม่เป็นเส้นสาย (Non-filamentous form หรือ unicellular cyanobacteria) ส่วนใหญ่มีรูปร่างเป็นทรงกลม (coccoid form) พบทั้งที่เป็นเซลล์เดี่ยว และอยู่กันเป็นกลุ่มแบบ palmelloid colonies ที่มีเมือกหุ้มอยู่ (firm mucilaginous envelopes) มีการแบ่งตัวจาก 1 เป็น 2, จาก 2 เป็น 3,… (amitotic) เช่น Microcystis sp. เป็นต้น
- กลุ่มที่เป็นเส้นสาย (Filamentous form) กลุ่มนี้เซลล์จะเรียงต่อกันเป็นเส้นสาย เรียกว่า trichome พบได้หลายลักษณะ เช่น สกุล Oscillatoria จัดเป็นกลุ่มที่มีเส้นสายอย่างง่ายมีเซลล์ชนิดเดียวกัน (vegetative cell) มาเรียงต่อกัน เช่นเดียวกับ Lyngbya เรียกว่า homocystous forms ส่วนกลุ่มเส้นสายที่มีเซลล์มากกกว่า 1 ชนิด มาเรียงต่อกัน โดยนอกจากจะมี vegetative cell แล้วยังมี heterocyst cell ซึ่งมีหนังเซลล์หนา 2 ชั้น ชั้นนอกเป็น polysaccharide ส่วนชั้นในเป็น glycolipid เพื่อจำกัดการเข้าของออกซิเจน เรียงสลับหรืออยู่ปลายสุดของเส้นสาย trichome เรียกว่า heterocystous forms เช่น Nostoc sp. และ Anabaena sp. เป็นต้น บางชนิดมีลักษณะเป็น spirally coiled ได้แก่ Arthrospira sp. และ Spirulina sp. บางชนิดมีลักษณะเป็น tube-like ที่มีเมือกหุ้ม (mucilaginous sheath) ได้แก่ Lyngbya sp. และยิ่งไปกว่านั้นยังแบ่งเป็นลักษณะที่ไม่มีกิ่งก้าน (unbranched group) เช่น Oscillatoria sp. และ Lyngbya sp. และมีกิ่งก้าน (branched group) เช่น Scytonema sp. และ Tolypothrix sp.
การดำรงชีวิต
แก้- สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินพวกที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ : 1; Anabaena sp. (www.intranet.dalton.org/), 2; Nostoc sp. (www.recursos.cnice.mec.es/):พวกที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างอิสระ (Free-living cyanobacteria) กลุ่มนี้จะตรึงไนโตรเจนจากบรรยากาศมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแอมโมเนีย และมี enzyme ที่ช่วยในการเปลี่ยนแอมโมเนียไปเป็น glutamine คือ glutamate dehydrogenase (GDH) และ glutamine synthase (GS) - glutamate synthase (GOGAT) จากนั้นเปลี่ยนให้เป็น glutamine แล้วจึงส่งไปยังเซลล์ข้างเคียง (vegetative cell) เช่น Nostoc sp. และ Anabaena sp. เป็นต้น
- สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินพวกที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น : 1; Nostoc sp. กับ ปรง (www.botany.hawaii.edu), 2; lichen (www.adventurist.net):พวกที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น (Symbiotic cynobacteria) กลุ่มนี้จะสามารถอยู่ร่วมกันได้กับพืช, สัตว์ และเชื้อรา มีทั้งที่เป็น endophytic และ ectophytic cynobacteria เช่น Anabaena azollae กับ แหนแดง, Nostoc sp. กับ ปรง และ ไลเคนส์ เป็นต้น
อ้างอิง
แก้- ↑ Silva PC, Moe RL (Dec 2019). "Cyanophyceae". AccessScience. McGraw Hill Education. doi:10.1036/1097-8542.175300. สืบค้นเมื่อ 21 April 2011.
- ↑ Oren A (September 2004). "A proposal for further integration of the cyanobacteria under the Bacteriological Code". International Journal of Systematic and Evolutionary Microbiology. 54 (Pt 5): 1895–1902. doi:10.1099/ijs.0.03008-0. PMID 15388760.
- ↑ Komárek J, Kaštovský J, Mareš J, Johansen JR (2014). "Taxonomic classification of cyanoprokaryotes (cyanobacterial genera) 2014, using a polyphasic approach" (PDF). Preslia. 86: 295–335.
- ↑ "Life History and Ecology of Cyanobacteria". University of California Museum of Paleontology. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2012. สืบค้นเมื่อ 17 July 2012.
อ่านเพิ่ม
แก้- Gillian C (1997). Nature's Superfood: the Blue-Green Algae Revolution (first ed.). Newleaf. ISBN 978-0-7522-0569-4.
- Savage M (1994). The Millennial Project: Colonizing the Galaxy in Eight Easy Steps. Little Brown & Co. ISBN 978-0-316-77163-4.
- Fogg GE, Stewart WD, Fay P, Walsby AE (1973). The Blue-green Algae. London and New York: Academic Press. ISBN 978-0-12-261650-1.
- "Architects of the earth's atmosphere, Introduction to the Cyanobacteria". University of California, Berkeley. 3 February 2006.
- Whitton BA (2002). "Phylum Cyanophyta (Cyanobacteria)". The Freshwater Algal Flora of the British Isles. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-77051-4.
- Pentecost A, Franke U (2010). "Photosynthesis and calcification of the stromatolitic freshwater cyanobacterium Rivularia". European Journal of Phycology. 45 (4): 345–53. Bibcode:2010EJPhy..45..345P. doi:10.1080/09670262.2010.492914.
- Whitton BA, Potts M, บ.ก. (2000). The Ecology of Cyanobacteria: their Diversity in Time and Space. Springer. ISBN 978-0-7923-4735-4.
- "From Micro-Algae to Blue Oil". ParisTech Review. December 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 April 2016. สืบค้นเมื่อ 2 March 2012.