โคทม อารียา
รองศาสตราจารย์โคทม อารียา (เกิด 14 กันยายน พ.ศ. 2486) เป็นนักวิชาการชาวไทย
ตำแหน่ง
แก้รองประธานมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม [1]ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อพัฒนาเด็ก กรรมการมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง[2] (กกต. 2540-2544) ฝ่ายการมีส่วนร่วมของประชาชน และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2549 ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล จบการศึกษา DIPLÔME INGÉNIEUR ÉCOLE SUPÉRIEURE D’ÉLECTRICITÉ, FRANCE Dr.Ing. มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส [3] เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2521-2522
ในเหตุการณ์การประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงล่าสุด รองศาสตราจารย์ ดร.โคทม อารียา ผอ. ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เรียกร้องให้เขตวัดปทุมวนารามเป็นเขตอภัยทาน จนเป็นข่าวในแวดวงสังคมไทย [4]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2541 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[5]
- พ.ศ. 2540 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[6]
- พ.ศ. 2537 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[7]
อ้างอิง
แก้- ↑ "มอส.คือใคร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-06. สืบค้นเมื่อ 2019-05-21.
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้งราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนพิเศษ 113 ง วันที่ 3 ธันวาคม 2540 หน้า 3
- ↑ "หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2541)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-13. สืบค้นเมื่อ 2008-03-11.
- ↑ รู้จัก"วัดปทุมวนาราม " "เขตอภัยทาน"ชีวิตมนุษย์[ลิงก์เสีย] (ข่าวสด 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ฉบับที่ 7113)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๑, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๑๘, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๕ ข หน้า ๕๘๐, ๒๘ เมษายน ๒๕๓๘