เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ
เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ หรือ เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ หรือที่รู้จักกันในพระนาม เอ็ดเวิร์ดแห่งวูดสต็อค (อังกฤษ: Edward, the Black Prince หรือ Edward of Woodstock) (15 มิถุนายน ค.ศ. 1330 - 8 มิถุนายน ค.ศ. 1376) เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำเป็นพระราชวงศ์อังกฤษผู้มีบทบาทในการต่อสู้กับราชอาณาจักรฝรั่งเศสในสงครามร้อยปี[1]
เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ | |
---|---|
เจ้าชายแห่งเวลส์ | |
เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ | |
ประสูติ | 15 มิถุนายน ค.ศ. 1330 พระราชวังวูดสต็อก ออกซฟอร์ดเชอร์ |
สิ้นพระชนม์ | 8 มิถุนายน ค.ศ. 1376 พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ | (45 ปี)
คู่อภิเษก | โจนแห่งเค้นท์ |
พระบุตร | สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ |
พระบิดา | สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ |
พระมารดา | ฟิลลิปปาแห่งเอโนลต์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ |
เอ็ดเวิร์ดประสูติเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1330 เป็นพระราชโอรสองค์โตในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ และพระราชินีฟิลลิปปา และเป็นพระบิดาของสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ เอ็ดเวิร์ดทรงเป็นผู้นำทางการทหารผู้มีความสามารถและทรงเป็นผู้ที่เป็นที่นิยมขณะที่ยังทรงมีชีวิตอยู่ เอ็ดเวิร์ดสิ้นพระชนม์เพียงปีเดียวก่อนที่พระราชบิดาจะเสด็จสวรรคต ทรงเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์องค์แรกที่ไม่ได้ขึ้นครองราชสมบัติ ราชบัลลังก์จึงตกไปเป็นของริชาร์ด พระโอรสองค์โตของพระองค์เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เสด็จสวรรคต
เบื้องต้น
แก้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดประสูติเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1330 ที่วังวูดสต็อคในมณฑลออกซฟอร์ดเชอร์ ทรงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ ในปี ค.ศ. 1333, ดยุกแห่งคอร์นวอลล์ในปีค.ศ. 1337 (การสร้างตำแหน่งดยุกครั้งแรกในอังกฤษ) และในที่สุดเจ้าชายแห่งเวลส์ในปี ค.ศ. 1343 เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โดยพฤตินัยระหว่างปี ค.ศ. 1339, ปี ค.ศ. 1340 และปี ค.ศ. 1342 เมื่อพระราชบิดาเสด็จไปร่วมในการรณรงค์ ในปี ค.ศ. 1337 ทรงมีหน้าที่ที่จะเข้าร่วมประชุมสภาองคมนตรีทุกครั้งและมีหน้าที่เจรจาต่อรองกับสำนักพระสันตะปาปา
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทรงเติบโตขึ้นมากับ “โจน สาวงามแห่งเค้นท์” ผู้เป็นพระญาติห่างๆ[2] และทรงได้รับอนุญาตจากสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 6 ให้แต่งงานกันได้แม้ว่าจะเป็นพระญาติกัน เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดจึงทรงเสกสมรสกับโจนเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1361 ที่พระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งทำให้เป็นปัญหาเพราะประวัติการสมรสของแอนน์และการแต่งงานกับสตรีชาวอังกฤษก็เป็นการทำให้หมดโอกาสที่จะหาคู่ชาวต่างประเทศเพื่อการสมานฉันท์ทางสัมพันธ์ไมตรีกับราชอาณาจักรต่างประเทศ
เมื่ออยู่ในอังกฤษเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดมักจะประทับอยู่ที่ปราสาทวอลลิงฟอร์ดในมณฑลบาร์คเชอร์ (ปัจจุบันมณฑลออกซฟอร์ดเชอร์) เมื่อประทับอยู่ในฝรั่งเศสก็ทรงทำหน้าที่เป็นผู้แทนพระองค์ที่อากีแตน ที่พระองค์และโจนทรงมีราชสำนักที่ขึ้นชื่อในสมัยนั้น และเป็นที่ประทำของพระเจ้าแผ่นดินที่ลี้ภัยเช่นพระเจ้าเจมส์แห่งมายอร์คา (James of Mallorca) และ พระเจ้าปีเตอร์แห่งคาสตีล (Peter of Castile)
พระเจ้าเปโดรผู้ถูกขับจากบัลลังก์โดยพระเชษฐานอกสมรสพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งคาสตีล (Henry II of Castile) พระราชทานบรรดาศักดิ์ลอร์ดแห่งบิสเคย์ในปี ค.ศ. 1367 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกันความช่วยเหลือของพระองค์ในการชิงราชบัลลังก์คืนจากพระเชษฐา เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทรงได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในยุทธการนาเฮรา (Battle of Nájera) ในการต่อสู้กับกองทัพฝรั่งเศส–สเปนที่นำโดยเบอร์ทรันด์ ดู เกอสแคลง (Bertrand du Guesclin)
ในช่วงนี้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดก็มีพระโอรสสองพระองค์: เอ็ดเวิร์ด Edward (27 มกราคม ค.ศ. 1365 – ค.ศ. 1372) ผู้สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุได้ 6 พรรษา และริชาร์ดผู้ประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1367 ที่มักจะเรียกกันว่า “ริชาร์ดแห่งบอร์โดซ์” ตามเมืองที่ประสูติผู้ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดมีพระโอรสนอกกฎหมายอีกสองพระองค์ก่อนที่จะมาเสกสมรสกับโจน: เซอร์โรเจอร์ แคลเร็นดอน และเซอร์จอห์น ซาวนเดอร์[3]
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดเสด็จกลับอังกฤษในเดือนมกราคม ค.ศ. 1371 และสิ้นพระชนม์สองสามปีต่อมาจากการประชวรเรื้อรังที่สันนิษฐานกันว่าอาจจะเป็นมะเร็ง