เยอรมนีภายใต้การยึดครองของสัมพันธมิตร
เมื่อนาซีเยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะจึงได้แสดงสิทธิ์การปกครองเหนือดินแดนของรัฐเยอรมัน (เยอรมันไรช์) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแนวโอเดอร์-ไนเซอ (Oder–Neisse line) และล้มล้างรัฐบาลภายใต้การปกครองของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ลง (ดูที่ปฏิญญาเบอร์ลิน ค.ศ. 1945) จากนั้นมหาอำนาจทั้ง 4 ของฝ่ายสัมพันธมิตรจึงได้แบ่งแยกเยอรมนีออกเป็น เขตยึดครอง จำนวนสี่เขตเพื่อเป้าหมายด้านการปกครอง โดยให้ฝรั่งเศสปกครองดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ สหราชอาณาจักรปกครองดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือ สหรัฐปกครองดินแดนตอนใต้ และสหภาพโซเวียตปกครองภาคตะวันออก และบริเวณนี้เป็นที่รู้จักโดยรวมภายใต้ชื่อ เยอรมนีภายใต้การยึดครองของสัมพันธมิตร (เยอรมัน: Alliierten-besetztes Deutschland) การแบ่งแยกนี้เป็นที่ยอมรับและให้สัตยาบัน ณ การประชุมพ็อทซ์ดัม ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม ค.ศ. 1945[ต้องการอ้างอิง] โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ค.ศ. 1944 สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพโซเวียต ได้ตกลงการแบ่งเขตแดนของเยอรมนีไว้ในพิธีสารลอนดอน ซึ่งทั้งหมดได้เห็นชอบให้สละดินแดนทางฝั่งตะวันออกของแนวโอเดอร์-ไนเซอ ออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีเมื่อสิ้นสุดสงคราม และให้สนธิสัญญาสันติภาพเยอรมันฉบับสุดท้ายที่ผ่านการพิจารณาแล้ว เป็นตัวกำหนดแนวพรมแดนระหว่างโปแลนด์-เยอรมนีและสหภาพโซเวียต-โปแลนด์ (สำหรับบริเวณที่เป็นดินแดนของเยอรมนีในอดีตซึ่งถูกสละทิ้ง) เท่ากับว่าสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว "ผลักเส้นเขตแดนของโปแลนด์ไปทางทิศตะวันตก" ส่งผลให้อาณาเขตโดยประมาณกลับไปมีขนาดเท่าเดิมเมื่อปี ค.ศ. 1722
Deutsches Reich (ดอยท์เชสไรช์) | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1945–1949 | |||||||||||||||
แผนที่แสดงอาณาเขตของเยอรมนีหลังสงคราม (สีเขียวคือเขตสหราชอาณาจักร สีเหลืองเข้มคือเขตสหรัฐอเมริกา สีฟ้าคือเขตฝรั่งเศส สีแดงคือเขตสหภาพโซเวียต ส่วนสีเหลืองอ่อนคือดินแดนที่เสียไป) | |||||||||||||||
สถานะ | การยึดครองทางทหาร | ||||||||||||||
เมืองหลวง |
| ||||||||||||||
ผู้ว่าการ (ค.ศ. 1945) | |||||||||||||||
• เขตสหราชอาณาจักร | เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี | ||||||||||||||
• เขตฝรั่งเศส | ฌ็อง เดอ ลัทร์ เดอ ตาซีญี | ||||||||||||||
• เขตสหรัฐอเมริกา | ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ | ||||||||||||||
• เขตสหภาพโซเวียต | เกออร์กี จูคอฟ | ||||||||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สงครามเย็น | ||||||||||||||
8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 | |||||||||||||||
• คณะมนตรีปกครองของฝ่ายสัมพันธมิตร | 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 | ||||||||||||||
• รัฐใต้อารักขาแห่งซาร์ก | 15 ธันวาคม ค.ศ. 1947 | ||||||||||||||
23 พฤษภาคม ค.ศ. 1949 | |||||||||||||||
7 ตุลาคม ค.ศ. 1949 | |||||||||||||||
12 กันยายน ค.ศ. 1990 | |||||||||||||||
สกุลเงิน |
| ||||||||||||||
รหัส ISO 3166 | DE | ||||||||||||||
| |||||||||||||||
| |||||||||||||||
ในช่วงสัปดาห์ท้าย ๆ ของการสู้รบบนภาคพื้นทวีปยุโรป กองกำลังของสหรัฐอเมริกาได้ต่อสู้จนล่วงเลยเข้าไปในอาณาบริเวณซึ่งเกินกว่าแนวยึดครองในอนาคตที่ตกลงกันไว้ บางช่วงล่วงล้ำเข้าไปเป็นระยะทางกว่า 320 กิโลเมตร (200 ไมล์) ส่งผลให้แนวบรรจบ (line of contact) ในช่วงสิ้นสุดสงครามระหว่างกองกำลังของสหรัฐอเมริกาและกองกำลังของสหภาพโซเวียต กลายเป็นเส้นเขตแดนชั่วคราวของเยอรมนีฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเลยจากเส้นเขตแดนซึ่งตกลงกันไว้แต่เดิม สองเดือนต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ฝ่ายสหรัฐอเมริกาจึงได้ถอนกำลังออกจากอาณาบริเวณที่ตนยึดครองอยู่และคืนให้แก่สหภาพโซเวียตดังที่ได้แบ่งกันเอาไว้[1] เส้นเขตแดนชั่วคราวดังกล่าวจึงขยับเลื่อนกลับมาทางทิศตะวันตกและกลายเป็นเส้นเขตแดนที่แบ่งเยอรมนีออกเป็นสองประเทศนับแต่นั้นมาจนกระทั่งปี ค.ศ. 1990 นักวิชาการบางส่วนเชื่อว่าการถอนกำลังดังกล่าวเป็นท่าทีสำคัญที่ช่วยโน้มน้าวให้สหภาพโซเวียตยินยอมให้สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสได้ส่วนแบ่งเขตปกครองทางฝั่งตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน (แต่เดิมยกให้สหภาพโซเวียตปกครองกรุงเบอร์ลินทั้งหมด) ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันคือเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1945 แม้ว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือต้องการให้หน่วยราชการลับได้มีโอกาสรวมตัวกัน (ดูที่ปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษ)[2]
อ้างอิง
แก้- ↑ What Is to Be Done? เก็บถาวร 2013-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Time, July 9, 1945
- ↑ Knowles, Chris (29 January 2014). "Germany 1945-1949: a case study in post-conflict reconstruction". History & Policy. History & Policy. สืบค้นเมื่อ 19 July 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Post-World War II commanders/governors of Germany
- Civil Affairs In Germany (1945) มีให้โหลดฟรีที่ อินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์ [อื่นๆ]
- The Struggle for Germany and the Origins of the Cold War เก็บถาวร 2016-08-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Melvyn P. Leffler