เจฟฟรีย์ ฮินตัน

เจฟฟรีย์ เอเวอร์เรสต์ ฮินตัน (อังกฤษ: Geoffrey Everest Hinton, 6 ธันวาคม ค.ศ. 1947 –) เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักประสาทวิทยาการรับรู้ชาวอังกฤษ มีผลงานโดดเด่นด้านโครงข่ายประสาทเทียม ปัจจุบันทำงานให้กับกูเกิลและมหาวิทยาลัยโทรอนโต เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นอัลกอริทึมการแพร่กระจายย้อนกลับและการลู่ออกเชิงเปรียบเทียบซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่สำคัญของการเรียนรู้เชิงลึกในสาขาปัญญาประดิษฐ์[1]

เจฟฟรีย์ ฮินตัน
เจฟฟรีย์ ฮินตัน ในปี 2024
เกิด (1947-12-06) 6 ธันวาคม ค.ศ. 1947 (76 ปี)
วิมเบิลดัน ลอนดอน
มีชื่อเสียงจากการแพร่กระจายย้อนกลับ, เครื่องจักรโบลทซ์มันน์, การเรียนรู้เชิงลึก
รางวัล
อาชีพทางวิทยาศาสตร์
สาขาโครงข่ายประสาทเทียม, ปัญญาประดิษฐ์, การเรียนรู้ของเครื่อง
วิทยานิพนธ์Relaxation and its role in vision (1977)
เว็บไซต์www.cs.toronto.edu/~hinton/

ในปี 2024 ฮินตันได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับจอห์น ฮอปฟีลด์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน จากผลงานการค้นพบและการประดิษฐ์ ซึ่งช่วยให้เกิดการเรียนรู้ของเครื่องด้วยโครงข่ายประสาทเทียม[2]

ประวัติ

แก้

ฮินตันจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในปี ค.ศ. 1970 ทางด้านจิตวิทยาการทดลอง และจบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านปัญญาประดิษฐ์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในปี ค.ศ. 1978 ได้ทำงานให้กับมหาวิทยาลัยซัสเซกซ์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนดีเอโก มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน เป็นผู้ก่อตั้งหน่วยวิจัยประสาทวิทยาคำนวณแกตสบีที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนอีกด้วย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ที่ภาควิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยโทรอนโต นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับกูเกิลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 หลังจากที่กูเกิลเข้าซื้อกิจการบริษัท DNNresearch ที่ฮินตันได้ตั้งขึ้น ปัจจุบันได้แบ่งเวลาทำงานในมหาวิทยาลัยและทำงานให้กับกูเกิล[3]

งานวิจัย

แก้

ฮินตันเป็นผู้ศึกษาการใช้โครงข่ายประสาทเทียมในการเรียนรู้ ความจำ การรับรู้ และการประมวลผลสัญลักษณ์ มีผลงานการตีพิมพ์ในสาขามากกว่า 200 ฉบับ เป็นหนึ่งในผู้ที่เสนออัลกอริทึมการแพร่กระจายย้อนกลับและการสอนโครงข่ายประสาทเทียมแบบหลายชั้น ที่กลายมาเป็นอัลกอริทึมที่ถูกใช้งานมากในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นผู้คิดค้นเครื่องจักรโบลทซ์มันน์ร่วมกับเทอร์รี เซชนอฟสกี้ ปัจจุบันเน้นการทำวิจัยเกี่ยวกับการใช้โครงข่ายประสาทเทียมกับการเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอนเมื่อมีข้อมูลขาเข้าจำนวนมาก

อ้างอิง

แก้
  1. "How a Toronto professor’s research revolutionized artificial intelligence". Toronto Star, Kate Allen, Apr 17 2015
  2. "The Nobel Prize in Physics 2024". Nobelprize.org. สืบค้นเมื่อ October 8, 2024.
  3. "U of T neural networks start-up acquired by Google" (Press release). Toronto, ON. 12 March 2013. สืบค้นเมื่อ 13 March 2013.