เกาะลังกาวี
ลังกาวี (มลายู: Langkawi) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันใกล้ฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียตะวันตก มีฐานะเป็นอำเภอขึ้นกับรัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซีย มีสมญานามว่า "อัญมณีแห่งเกอดะฮ์" (มลายู: Permata Kedah; เปอร์มาตาเกอดะฮ์)
อำเภอลังกาวี Daerah Langkawi | |
---|---|
การถอดเสียงภาษาอื่น ๆ | |
• อักษรยาวี | لڠكاوي |
• จีน | 浮罗交怡县 |
• ทมิฬ | லங்காவி |
จัตุรัสอินทรีที่เมืองกูวะฮ์ ในอำเภอลังกาวี | |
สมญา: อัญมณีแห่งเกอดะฮ์ (มลายู: Permata Kedah; เปอร์มาตาเกอดะฮ์), นครแห่งการท่องเที่ยว (Bandaraya Pelancongan) | |
ที่ตั้งของ เกาะลังกาวี ในรัฐเกอดะฮ์ | |
ที่ตั้งของ เกาะลังกาวี ในประเทศมาเลเซีย | |
พิกัด: 6°21′N 99°48′E / 6.350°N 99.800°E | |
ประเทศ | มาเลเซีย |
รัฐ | รัฐเกอดะฮ์ |
เมืองศูนย์กลาง | กูวะฮ์ |
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | สภาเทศบาลนครท่องเที่ยวลังกาวี |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 478.48 ตร.กม. (184.74 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2010) | |
• ทั้งหมด | 85,588 คน |
• ความหนาแน่น | 180 คน/ตร.กม. (460 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+8 (MST) |
รหัสไปรษณีย์ | 07xxx |
รหัสโทรศัพท์ | +6-09 |
ป้ายทะเบียนยานพาหนะ | KV |
เว็บไซต์ | mplbp |
ลังกาวีตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูลของประเทศไทยเพียง 4 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเมืองกัวลาปะลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเกอดะฮ์ 51 กิโลเมตร ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเขตร้อนจำนวน 99 เกาะ และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและมาเลเซียจากตำนานของมะห์สุหรี สตรีผู้ถูกประหารด้วยความอยุติธรรม โดยนางได้สาปแช่งเกาะลังกาวีไว้ก่อนสิ้นใจ และการนำทายาทรุ่นที่ 7 ของเธอมาถอนคำสาป[2][3]
ที่มาของชื่อ
แก้ชื่อของเกาะลังกาวี โดย "ลัง" ย่อมาจากคำว่า "ฮลัง" (helang) ที่แปลว่า "นกอินทรีสีน้ำตาลแดง"[4] ส่วนนาม "ลังกาวี อัญมณีแห่งเกอดะฮ์" (Langkawi Permata Kedah) ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านอับดุล ฮาลิม อันเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกส่วนพระองค์ โดยตั้งนามเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวว่าลังกาวีเป็นส่วนหนึ่งของรัฐเกอดะฮ์[5]
ประวัติ
แก้มีตำนานมุขปาฐะว่าในอดีตเกาะลังกาวีเคยมีสุลต่านปกครอง ว่ามีสตรีนามมะห์สุหรีมาเป็นชายารองของสุลต่าน[6] (บ้างว่าของอนุชา)[7] และได้ให้กำเนิดโอรสนาม "วันฮาเกม" ด้วยเหตุนี้มะห์สุหรีจึงมีสิทธิเป็นประไหมสุหรีได้เพราะมีบุตรเป็นชาย เป็นที่ริษยาของประไหมสุหรีชายาหลวง ครั้นเมื่อมีการใส่ร้ายว่ามะห์สุหรีคบชู้ องค์สุลต่านสดับเช่นนั้นก็พิโรธ มีบัญชาให้ประหารมะห์สุหรีเสีย ด้วยเหตุนี้นางจึงอธิษฐานว่าหากนางไม่มีความผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาว และให้ลังกาวีไม่เจริญไปเจ็ดชั่วอายุคน ครั้นเมื่อเพชฌฆาตแทงกริช สายโลหิตของมะห์สุหรีก็พวยพุ่งเป็นสีขาวดังคำสัตย์และสิ้นใจ ญาติของมะห์สุหรีจึงนำวันฮาเกมไปตั้งรกรากยังภูเก็ต[6][7]
เมื่อครั้งที่ไทรบุรีเป็นส่วนหนึ่งราชอาณาจักรสยาม เกาะลังกาวีเป็นตำบลหนึ่งของมณฑลไทรบุรี ชื่อตำบลเกาะลังกอวี[8] ภายหลังลังกอวีได้พ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของสยามโดยได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมอังกฤษเช่นเดียวกับไทรบุรี (เกอดะฮ์) ครั้นเมื่อรับเอกราชแล้วลังกาวีก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของรัฐเกอดะฮ์อยู่
ในปี พ.ศ. 2529 มหาเธร์ โมฮัมหมัด ได้ริเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงเกาะลังกาวีที่เชื่อว่ามีคำสาปของมะห์สุหรี โดยพัฒนาให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและรีสอร์ต โดยเขาเองได้มีส่วนช่วยในการออกแบบและวางแผนอาคารบนเกาะ[9] และได้นำศิรินทรา ยายี สตรีชาวไทยที่สืบเชื้อสายทายาทรุ่นที่เจ็ดของมะห์สุหรีมาถอดคำสาป[7]
สถานที่ท่องเที่ยว
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ primuscoreadmin (13 November 2015). "Background". Langkawi Municipal Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-17. สืบค้นเมื่อ 2020-04-23.
- ↑ "Massa". Utusan Melayu. 1995. p. 7. OCLC 607267271.
- ↑ "Mahsuri tale brings thunder and rain". the New Straits Times. June 7, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-28. สืบค้นเมื่อ 2013-03-05.
- ↑ Holly Hughes; Sylvie Murphy; Alexis Lipsitz Flippin; Julie Duchaine (14 January 2010). Frommer's 500 Extraordinary Islands. John Wiley & Sons. p. 237. ISBN 978-0-470-59518-3. สืบค้นเมื่อ 9 February 2014.
- ↑ Majid, Embun (16 July 2008). "It's Langkawi Permata Kedah now". The Star Online. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-20. สืบค้นเมื่อ 2008-07-20.
- ↑ 6.0 6.1 "จากคลื่นยักษ์สู่คลื่นห่วงหาอาทรข้ามชาติ ผ่านทายาท "นางพญาเลือดขาว" แห่งอันดามัน". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 11 January 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-03-24. สืบค้นเมื่อ 21 July 2014.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 "แกะรอยมนต์ขลัง...เกาะลังกาวี". กระปุกดอตคอม. 19 February 2009. สืบค้นเมื่อ 21 July 2014.
- ↑ "ประกาศกระทรวงโยธาธิการ แพนกการไปรสนีย์ เรื่องเปิดออฟฟิศไปรสนีย์อีก 2 ตำบลที่เกาะลังกอวี 1 ที่เมืองกุลิม 1 มณฑลไทรบุรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๒๔ ตอนที่ ๓๗ หน้า ๙๕๕. 29 ธันวาคม พ.ศ. 2467.
- ↑ Anthony Spaeth (9 December 1996). "Bound for Glory". Time magazine. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-03-17. สืบค้นเมื่อ 13 September 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ลังกาวี