เกมล่าเกม
เกมล่าเกม (อังกฤษ: The Hunger Games) เป็นภาพยนตร์อเมริกัน ค.ศ. 2012 แนวแอ็คชั่นดราม่ารูปแบบนิยายวิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่องราวอันโหดร้าย กำกับโดย แกรี รอสส์ ซึ่งอิงจากนิยายเนื้อเรื่องเดียวกัน ที่เขียนขึ้นโดย ซูซาน คอลลินส์ นำแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, จอช ฮัทเชอร์สัน, เลียม เฮมส์เวิร์ท, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน และ เอลิซาเบธ แบงส์[4] ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการเปิดตัว ณ วันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2012 ในประเทศฝรั่งเศสรวมถึงประเทศอื่นๆ[5] และในระดับสากล ณ วันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2012 [6] โดยจัดฉายทั้งในโรงภาพยนตร์ทั่วไปรวมถึงโรงภาพยนตร์ดิจิทัลไอแมกซ์[7] ภาพยนตร์ชุดนี้ทำสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศอันดับสามในช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัวนับตั้งแต่ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เคยมีมา (155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในสหรัฐอเมริกาถัดจาก แบทแมน อัศวินรัตติกาล (158 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 (169 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[8] รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่มิใช่ภาคต่อที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ ซึ่งได้ยกย่องการแสดงของลอว์เรนซ์รวมถึงรูปแบบกับถ้อยคำที่ใช้
เกมล่าเกม | |
---|---|
โปสเตอร์ภาพยนตร์ | |
กำกับ | แกรี รอสส์ |
บทภาพยนตร์ |
|
สร้างจาก | เกมล่าชีวิต โดย ซูซาน คอลลินส์ |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | ทอม สเทิร์น |
ตัดต่อ | |
ดนตรีประกอบ | เจมส์ นิวตัน โฮเวิร์ด |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | ไลออนส์เกท |
วันฉาย | 21 มีนาคม ค.ศ. 2012 (เบลเยียม, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, ฟิลิปปินส์) 23 มีนาคม ค.ศ. 2012 (สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร) |
ความยาว | 142 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 364,933,000 ดอลลาร์สหรัฐ[3] |
เนื้อเรื่องย่อ
แก้เนื้อเรื่องของเกมล่าเกม เกิดขึ้นที่ พาเน็ม เดิมพาเน็มแบ่งออก 13 เขตปกครอง มีแคปปิตอลเป็นเมืองหลวง แคปปิตอลนั้นกดขี่ทั้ง 13 เขตมาโดยตลอด จนทำให้เขต 13 ก่อกบฏ แคปปิตอลไหวตัวได้ทันและทำลายเขต 13 ทิ้งจนไม่เหลือซาก และเพื่อเป็นตอกย้ำให้ประชากรอีก 12 เขตทราบถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากคิดก่อกบฏ แคปปิตอลจึงจัดการแข่งขัน "เกมล่าชีวิต" ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจประชาชนทุกคนว่าแคปปิตอลมีอำนาจแม้กระทั่งควบคุมชีวิตคนได้ กฎของเกมล่าชีวิตคือ ทั้ง 12 เขต ต้องจับสลากเลือกบรรณาการชายหญิงอายุ 12-18 ปี ในวันเก็บเกี่ยว อย่างละคน มาเพื่อลงแข่ง และทั้ง 24 คน จาก 12 เขต ต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
แคตนิส เอฟเวอร์ดีน เด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่ในเขต 12 ที่แร้นแค้น เธอเป็นเสาหลักให้ครอบครัวนับตั้งแต่พ่อตาย คอยหาอาหารประทังแม่กับน้องสาว ในวันเก็บเกี่ยว ก่อนเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 พริมโรส เอฟเวอร์ดีน น้องสาวของแคตนิสถูกจับชื่อเป็นบรรณาการหญิงของเขต 12 ซึ่งแคตนิสเองก็อาสาแทนพริมเนื่องจากไม่ต้องการให้เธอตายในสนามประลอง และบรรณาการชายของเขต 12 ก็ตกเป็นของ พีต้า เมลลาร์ก ลูกชายร้านขนมปังที่เคยช่วยชีวิตแคตนิสไว้ในตอนที่เธอเกือบจะอดตาย แคตนิสล่ำลาครอบครัวและออกเดินทางออกจากเขต 12 ตรงสู่แคปปิตอลเพื่อเข้าแข่งเกมล่าชีวิตทันที แคตนิสและพีต้าต้องเข้าพบกับพี่เลี้ยงเขต 12 ซึ่งก็คือ เฮย์มิช อาเบอร์นาธี ผู้ชนะเพียงคนเดียวของเขต 12 จากเกมล่าชีวิตครั้งที่ 50 ซึ่งแคตนิสก็ไม่ถูกชะตากับเฮย์มิชเท่าไรนัก เมื่อถึงแคปปิตอลทั้งสองเข้าพบกับทีมสไตล์ลิส ที่นำโดยซินน่า เพื่อแปลงโฉมให้ทั้งสองเป็นที่สนใจและดึงดูดแก่เหล่าสปอนเซอร์ที่จะส่งของมาช่วยเหลือในสนามประลองได้ และผลก็เป็นดังคาด เขต 12 ได้รับการจับตามองจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
ในการฝึกซ้อมแคตนิสและพีต้าสามารถทำผลงานได้ดี จนทำให้ทุกสายตาของแคปปิตอลจับจ้องไปยังพวกเขาทั้งคู่ และในวันสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันพีต้า ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรว่า เขามาแข่งครั้งนี้พร้อมกับคนที่เขาหลงรัก นั่นก็คือแคตนิส ทำให้ผู้ชมเริ่มเห็นใจและเทคะแนนให้เขต 12 มากขึ้น แต่แคตนิสกลับมองว่าพีต้าทำเพื่อตัวเองเสียมากกว่า ในวันแข่งขัน สนามประลองถูกออกแบบให้เป็นป่าขนาดใหญ่ มีทุ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับคอร์นูโคเปีย ที่รวบรวมอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ให้บรรณาการมาแย่งกัน บรรณาการทั้ง 24 คนถูกปล่อยตัว และการแข่งขันจึงเริ่มต้น เพียงแค่ในวันแรกบรรณาการเขตต่างๆถูกฆ่าตายไปกว่าครึ่งนึงที่คอร์นูโคเปีย ส่วนแคตนิสใช้วิธีหนีออกห่างบรรณาการคนอื่นๆให้ไกลที่สุด แต่เธอถูกไฟป่าที่แคปปิตอลสร้างขึ้นไล่ต้อนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส
แคตนิสได้รับความช่วยเหลือจากสปอนเซอร์ที่เฮย์มิสหามาให้ เธอได้รับเป็นยาทาแผล ทำให้สามารถรอดจากบาดแผลไฟไหม้ได้ แต่แล้วแคตนิสกลับต้องเข้าตาจนเมื่อต้องพบกับเหล่า"มืออาชีพ" ซึ่งก็คือกลุ่มบรรณาการที่แข็งแกร่งจับกลุ่มกันออกล่าบรรณาการคนอื่น ๆ ซึ่งในกลุ่มของมืออาชีพก็มีพีต้าอยู่ด้วย แคตนิสทิ้งรังแทร็กเกอร์ แจ็กเกอร์ ตัวต่อมรณะใส่พวกมืออาชีพ ทำให้กลุ่มมืออาชีพแตกกลุ่มกระเจิง แต่แคตนิสเองก็ถูกแทร็กเกอร์ แจ็กเกอร์ต่อยเช่นกัน พิษของมันทำให้แคตนิสประสาทหลอนและเกือบถูก คาโต้จากเขต 2 ฆ่าตายแต่พีต้าเข้ามาขวางไว้ ทำให้เธอรู้ทันทีว่าพีต้าร่วมกลุ่มกับพวกมืออาชีพเพื่อช่วยเธอ แคตนิสหนีไปได้แต่ก็สลบไปเพราะพิษของแทร็กเกอร์ แจ็กเกอร์ แคตนิสฟื้นขึ้นพบกับริว เด็กสาววัย 12 ปีจากเขต 11 ที่ช่วยเธอไว้ ทั้งสองช่วยกันหาอาหารทำให้แคตนิสเอ็นดูริว แต่แล้วริวกลับถูกฆ่าตายในขณะที่พลัดหลง ทำให้แคตนิสเริ่มเห็นถึงความอยุติธรรมที่แคปปิตอลมอบให้เด็กอายุ 12 คนนึง เธอจัดแต่งศพของริวให้สวยงาม พร้อมกับชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วแสดงถึงการบอกลาและขอบคุณ จากจุดนี้ทำให้ประชาชนเขตต่าง ๆ เริ่มรู้สึกฮึกเหิมที่จะไม่อยู่ใต้อำนาจของแคปปิตอลตลอดไป
แคตนิสหนีไปจนพบกับพีต้า แต่เธอพบว่าพีต้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากตอนสู้กับคาโต้ แคตนิสอาสาไปงานเลี้ยงเสบียงเพื่อนำยากลับมาช่วยพีต้า ทั้งสองแกล้งทำเป็นรักกันจนทำให้สปอนเซอร์ส่งของมาช่วยเหลือมากขึ้น ผู้คุมเกมประกาศให้มีผู้ชนะ 2 คนจากเขตเดียวกันได้ ทำให้ทั้งสองมีโอกาสมากขึ้น สุดท้ายบรรณาการเหลือเพียงแค่ คาโต้ แคตนิส และพีต้า ทั้งสามหนีการไล่ล่าของมัตต์ อสูรกลายพันธ์ของแคปปิตอล แคตนิสฆ่าคาโต้ตาย แต่แล้วเกมกลับยังไม่จบเนื่องจากผู้คุมเกมเปลี่ยนกฎให้มีผู้ชนะเพียงคนเดียว ซึ่งเท่ากับว่าแคตนิสและพีต้าต้องฆ่ากันเอง แคตนิสไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของแคปปิตอล เธอหยิบลูกเบอร์รีพิษขู่ผู้คุมเกมว่าจะกินลูกเบอร์รีพร้อมพีต้าและจะตายไปด้วยกัน ทำให้ผู้คุมเกมถูกปั่นหัวและเปลี่ยนให้มีผู้ชนะสองคนในตอนสุดท้าย
หลังเกมจบทั้งสองได้รับการรักษา และรับตำแหน่งผู้ชนะเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 ร่วมกัน แต่การที่แคตนิสให้ความสำคัญกับการตายของริว และใช้ลูกเบอร์รีข่มขู่แคปปิตอลนั้นเริ่มสร้างความกระด้างกระเดื่องเล็ก ๆ ในหมู่ประชาชนทั้ง 12 เขต เนื่องจากผู้คนเริ่มเห็นว่าตนไม่ได้ตกภายใต้อำนาจของแคปปิตอลอีกต่อไป แคตนิสและพีต้ากลับสู่เขต 12 เพื่อรับรางวัลเป็นความเป็นอยู่ที่ดีตลอดชีวิตที่แคปปิตอลจะมอบให้ พีต้าบอกกับแคตนิสว่าเขารักเธอจริง ๆ แต่แคตนิสไม่ได้คิดไปมากกว่านั้น สิ่งที่เธอคิดเพียงแค่ช่วยให้ครอบครัวของเธอรอดชีวิตเท่านั้น ทั้งสองถูกต้อนรับชัยชนะโดยประชาชนเขต 12 โดยไม่รู้เลยว่า พาเน็มกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
นักแสดงนำ
แก้- เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ รับบทเป็น แคตนิส เอฟเวอร์ดีน[9]
- จอช ฮัทเชอร์สัน รับบทเป็น พีต้า เมลลาร์ก[10]
- เลียม เฮมส์เวิร์ท รับบทเป็น เกล ฮอว์ธอร์น[10]
- วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน รับบทเป็น เฮย์มิช อาเบอร์นาธี
- เอลิซาเบธ แบงส์ รับบทเป็น เอฟฟี่ ทรินเกต
- เลนนี่ แครวิตซ์ รับบทเป็น ซินน่า
- สแตนลี่ ทุซซี่ รับบทเป็น ซีซาร์ ฟลิกเคอร์แมน
- โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ รับบทเป็น ประธานาธิบดีคอริโอลานุส สโนว์
- เวส เบนท์ลีย์ รับบทเป็น เซเนก้า เครน
- โทบี้ โจนส์ รับบทเป็น เคลาดิอุส เทมเปิลสมิธ
- อเล็กซานเดอร์ ลุดวิก รับบทเป็น คาโต้
- อแมนด์ล่า สเตนเบิร์ก รับบทเป็น รูว์
- อิซาเบล เฟอร์แมน รับบทเป็น โคลฟ
- แจ๊ค เควด รับบทเป็น มาร์เวล
- เรเว่น แรมบิน รับบทเป็น กลิมเมอร์
- ดาโย โอเคนนิยิ รับบทเป็น เทรช
- แจ็คเคอรีน อีเมอร์สัน รับบทเป็น หน้าจิ้งจอก
- พอลล่า มัลคอมสัน รับบทเป็น คุณนายเอฟเวอร์ดีน
- วิลโลว์ ชิลด์ รับบทเป็น พริมโรส เอฟเวอร์ดีน
การสร้าง
แก้การถ่ายทำภาพยนตร์
แก้แกรี รอสส์ กลายมาเป็นผู้กำกับในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 [11][12] บริษัทประกันภัยกองทุนไฟเยอร์แมนได้ประกันการผลิต แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงถึงอันตรายโดยละเอียดหลายประการ อาทิ จากลูกธนู, ไม้เลื้อยพิษ, หมี, ฝูงผึ้ง และการไล่ล่าข้ามห้วงน้ำอย่างรวดเร็ว[13]
ลอว์เรนซ์ได้ย้อมผมของเธอเป็นสีดำ[14] เธอยังเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้ได้รูปร่างที่เข้ากับบทบาท อาทิ การยิงธนู, การปีนก้อนหินและต้นไม้, การต่อสู้, การวิ่ง, ปาร์กัว และโยคะ[15] รวมทั้งได้เกิดอุบัติเหตุในวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่หกจากการฝึกหัดของเธอ ซึ่งเธอได้วิ่งชนกำแพงขณะที่เธอวิ่งอย่างรวดเร็วเต็มที่ แต่ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด นักแสดงคนอื่นที่ทำการย้อมผม ประกอบด้วย จอช ฮัทเชอร์สัน ในบทของ พีตา และ เลียม เฮมส์เวิร์ท ในบทของ เกล[2] ไลออนส์เกทยังได้ทำการจ้างนักยิงธนูเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกอย่าง คาทูนา ลอริก มาสอนถึงวิธีการยิงธนูให้แก่ลอว์เรนซ์ด้วยเช่นกัน[13]
การตอบรับ
แก้ปฏิกิริยาการตอบรับ
แก้เกมล่าเกม ได้รับการสรรเสริญจากนักวิจารณ์ในเวทีสากล โดยอิงจาก 226 ความคิดเห็นที่รวบรวมจากเว็บไซต์รอทเทนโตเมโต้ ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการจัดระดับที่ 85% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ "รับรองความสด" และได้ค่าเฉลี่ยที่ 7.3/10 คะแนน ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับคะแนนที่ค่า 80% จากนักวิจารณ์ชั้นนำ ฉันทามติของเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า "น่าตื่นเต้นและแสดงได้ดีเยี่ยม เกมล่าเกม สามารถเข้าถึงความรุนแรง, อารมณ์ดิบ รวมถึงขอบเขตการทะเยอทะยานที่มีอยู่ในนิยายต้นฉบับได้เป็นอย่างมาก"[16] เว็บไซต์เมต้าคริทิคส์ ให้คะแนนภาพยนตร์ดังกล่าวที่ 67 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 และมีการบอกถึงการตอบรับโดยทั่วไปในเกณฑ์ที่ดี โดยอิงจาก 44 ความคิดเห็นของนักวิจารณ์[17]
บ็อกซ์ออฟฟิศ
แก้ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 เกมล่าเกม ได้ทำลายสถิติยอดบัตรเข้าชมผ่านทางแฟนแดงโก ทำลายสถิติ แวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์ ที่ได้ทำไว้ในช่วงก่อนหน้าเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 โดยยอดจำหน่ายได้รับการรายงานว่าอยู่ที่ 83 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวมตลอดวัน[18]
โฮมมีเดีย
แก้ภาพยนตร์ได้รับการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือและเนเธอร์แลนด์ในรูปแบบดีวีดีและบลูเรย์ ณ วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2012 และในยุโรป ณ วันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2012 และแถมเบื้องหลัง 'ภาพยนตร์ที่คนทั้งโลกเฝ้ารอคอย: การสร้างเกมล่าเกม', ฟีเจอร์ที่หลากหลาย, วิดีโอประชาสัมพันธ์, การพูดคุยกับผู้กำกับ แกรี รอสส์ และ เอลวิส มิชเชล กับความสำเร็จในการทำการตลาด
ในสุดสัปดาห์แรกของการจัดจำหน่าย ไลออนส์เกตได้รายงานว่ามีการจำหน่ายดีวีดีและบลูเรย์ไปแล้ว 3.8 ล้านชุด โดยมากกว่าหนึ่งในสามอยู่ในรูปแบบของบลูเรย์[19] สามสัปดาห์ภายหลังจากการเปิดตัวภาพยนตร์ในรูปแบบโฮมมีเดียในสหรัฐฯ ได้มีการจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีไปแล้ว 5 ล้านชุด และในรูปแบบบลูเรย์อีก 3.7 ล้านชุด[20][21]
ภาคต่อ
แก้ในวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ในช่วงที่การถ่ายทำยังคงดำเนินอยู่ ทางไลออนส์เกทได้ประกาศว่า ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายภาคสองในไตรภาคของ เดอะฮังเกอร์เกมส์ ที่มีชื่อว่า ปีกแห่งไฟ มีกำหนดเปิดตัว ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 [22]
เดอะฮังเกอร์เกมส์แอดเวนเจอร์
แก้เกมโซเชียลเน็ตเวิร์คในชื่อชุด เดอะฮังเกอร์เกมส์แอดเวนเจอร์ ได้รับการเปิดตัวผ่านทางเฟซบุ๊กในช่วงเดียวกันกับการเปิดตัวภาพยนตร์ชุดนี้ ซึ่งเป็นวิดีโอเกมเล่นตามบทบาทที่พัฒนาขึ้นโดยไลออนส์เกท ที่ได้ร่วมมือกับฟังแทคติกซ์[23]
อ้างอิง
แก้- ↑ "The Hunger Games" (Press release). Lions Gate Entertainment. March 3, 2012. สืบค้นเมื่อ March 3, 2012.
- ↑ 2.0 2.1 "9 Untold Secrets of the High Stakes 'Hunger Games'". The Hollywood Reporter. February 1, 2012. สืบค้นเมื่อ February 7, 2012.
- ↑ "The Hunger Games (2012)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ April 1, 2012.
- ↑ Fleming, Mike (May 24, 2011). "Toby Jones In 'The Hunger Games'". Deadline.com. สืบค้นเมื่อ May 24, 2011.
- ↑ "Release dates for The Hunger Games". Internet Movie Database. สืบค้นเมื่อ March 14, 2012.
- ↑ Valby, Karen (January 25, 2011). "'The Hunger Games' gets a release date". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-17. สืบค้นเมื่อ April 6, 2011.
- ↑ Goldberg, Matt (February 2, 2012). "THE HUNGER GAMES Will Get a One-Week IMAX Run". Collider.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-06. สืบค้นเมื่อ March 8, 2012.
- ↑ Box Office Shocker: 'Hunger Games' Third-Best Opening Weekend of All Time, สืบค้นเมื่อ 2012-03-26
- ↑ Joshua L. Weinstein (March 16, 2011). "Jennifer Lawrence Gets Lead Role in 'The Hunger Games'". The Wrap. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-24. สืบค้นเมื่อ March 17, 2011.
- ↑ 10.0 10.1 Sperling, Nicole (April 4, 2011). "'The Hunger Games': Josh Hutcherson and Liam Hemsworth complete the love triangle". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ April 6, 2011.
- ↑ "The Changing Objective of the American Film Market". Baseline Intel. November 18, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-04. สืบค้นเมื่อ April 6, 2011.
- ↑ Valby, Karen (January 6, 2011). "'Hunger Games' exclusive: Why Gary Ross got the coveted job, and who suggested Megan Fox for the lead role". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-24. สืบค้นเมื่อ April 6, 2011.
- ↑ 13.0 13.1 Janet Morrissey (March 24, 2012). "Insuring Hollywood Against Falls (but Not Flops)". The New York Times. BU1.
- ↑ Ayres, Tom (May 23, 2011). "Jennifer Lawrence 'unaware of Hunger Games hate'". Digital Spy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-09. สืบค้นเมื่อ December 18, 2011.
- ↑ Still, Jennifer (May 26, 2011). "Jennifer Lawrence: 'Hunger Games training fun'". Digital Spy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ December 18, 2011.
- ↑ "The Hunger Games". Rotten Tomatoes. สืบค้นเมื่อ March 25, 2012.
- ↑ "The Hunger Games". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 17, 2012.
- ↑ Semigran, Aly (February 24, 2012). "'The Hunger Games' breaks a 'Twilight' ticket sales record; hundreds of showings already sold out". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-24. สืบค้นเมื่อ February 17, 2012.
- ↑ "3.8 million Hunger Games DVDs sold". Coming Attractions by Corona. สืบค้นเมื่อ August 21, 2012.
- ↑ "DVD Sales Chart - Week Ending Sep 9, 2012". The-numbers.com. สืบค้นเมื่อ September 20, 2012.
- ↑ "Domestic Weekly Blu-ray Sales Chart". The Numbers. สืบค้นเมื่อ September 20, 2012.
- ↑ Weinstein, Joshua L (August 8, 2011). "The Hunger Games Sequel Set for 2013 Release". The Wrap. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-07. สืบค้นเมื่อ August 15, 2011.
- ↑ "'The Hunger Games Adventures' New Facebook Game". WhatCulture!. March 28, 2012. สืบค้นเมื่อ 29 March 2012.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Hunger Games เกมล่าเกม ที่รอตเทนโทเมโทส์
- The Hunger Games ที่บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ
- The Hunger Games เก็บถาวร 2021-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at The Numbers
- The Hunger Games เก็บถาวร 2013-07-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at MThai Movie
- The Hunger Games ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- The Hunger Games ที่ออลมูวี
- เว็บไซต์ทางการ
- เกมล่าเกม ที่เมทาคริติก
- The Hunger Games ที่สยามโซน