แอเบอร์ดีน
แอเบอร์ดีน (อังกฤษ: Aberdeen, ออกเสียง: /ˌæb.əˈdiːn/; สกอต: Aiberdeen; แกลิกสกอต: Obar Dheathain) เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสามของสกอตแลนด์ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจักร
แอเบอร์ดีน
| |
|---|---|
 ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย: Marischal College, หอคอยตะวันตกของเดอะนิวทาวน์เฮาส์บนยูเนียนสตรีท, แม่น้ำดีมองทางป่าทอลโลฮิลล์ (Tollohill Woods), ถนนใหญ่เก่าของแอเบอร์ดีน, ชายหาดแอเบอร์ดีน | |
 ธง  ตราอาร์ม | |
| สมญา: "Granite City", "Grey City", "Silver City" และ "Silver City with the Golden Sands" | |
 ที่ตั้งในสกอตแลนด์ | |
| พิกัด: 57°09′N 2°07′W / 57.15°N 2.11°W | |
| รัฐเอกราช |  สหราชอาณาจักร |
| ประเทศ |  สกอตแลนด์ |
| เขตการปกครอง | เมืองแอเบอร์ดีน |
| Lieutenancy area | แอเบอร์ดีน |
| กฎบัตรฉบับแรก | 1179 |
| ได้สถานะเมือง | 1891 |
| การปกครอง | |
| • Governing body | Aberdeen City Council |
| • Lord Provost | Barney Crockett |
| • MSPs |
|
| • MPs |
|
| พื้นที่ | |
| • พื้นดิน | 56.1 ตร.กม. (21.7 ตร.ไมล์) |
| • เขตเมือง | 69.5 ตร.กม. (26.8 ตร.ไมล์) |
| • รวมปริมณฑล | 82.7 ตร.กม. (31.9 ตร.ไมล์) |
| ประชากร (กลางปี 2019) | 196,670[1] คน |
| • ความหนาแน่น | 3,505.7 คน/ตร.กม. (9,080 คน/ตร.ไมล์) |
| • เขตเมือง | 214,610[2] คน |
| • รวมปริมณฑล | 239,530[3] คน |
| • ภาษา | สกอต (โดริก), อังกฤษ |
| เดมะนิม | Aberdonians |
| เขตเวลา | UTC±0 (GMT) |
| • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+1 (BST) |
| Postcode areas | AB10-AB13 (part), AB15, AB16, AB21-AB25 |
| รหัสพื้นที่ | 01224 |
| ISO 3166-2 | GB-ABE |
| ONS code | S12000033 |
| OS grid reference | NJ925065 |
| NUTS 3 | UKM50 |
| สนามบินหลัก | ท่าอากาศยานแอเบอร์ดีน |
| เว็บไซต์ | aberdeencity |
เมืองแอเบอร์ดีนนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตซึ่งทำให้ตัวเมืองดูเป็นสีเทาเงินระยิบระยับเมื่อถูกแสงแดด โดยมีถนนที่มีชื่อเสียงคือ Aberdeen’s Granite Mile เป็นที่ต้งของร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์กว่าแปดร้อยร้าน บรรยากาศในเมืองแอเบอร์ดีนนั้นมักจะถูกกล่าวขานว่ามีสีเทาทะมึนของหินแกรนิต แต่ทว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าอยู่คือ สวนสาธารณะที่สวยงามมีสีสันตัดกับตึกรามบ้านช่องอย่างลงตัว โดยเมืองแอเบอร์ดีนได้ชนะเลิศการประกวดสวนดอกไม้หลายครั้งติดต่อกันมาโดยตลอดเป็นระยะเวลานานมากกว่าสิบปี ยกตัวอย่างเช่นรางวัล Best City ใน งาน Royal Horticultural Society’s Britain in Bloom ของสมาคมพืชสวนสหราชอาณาจักร รางวัลชนะเลิศในงาน Bloom Competition ของสกอตแลนด์ และงาน International City in Bloom
ทางด้านอุตสาหกรรม นับตั้งแต่ได้มีการขุดพบแหล่งน้ำมันในทะเลเหนือ ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมืองแอเบอร์ดีนได้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเลียมของยุโรป หรือที่เรียกกันว่า "เมืองหลวงน้ำมันแห่งยุโรป" ด้วยเหตุนี้ทำให้อุตสาหกรรมที่ทำรายได้หลัก ๆ ของเมืองในสามสิบปีมานี้ คือธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำมัน นอกจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันแล้ว ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้เช่น ศูนย์อากาศยานเฮลิคอปเตอร์ของเมืองแอเบอร์ดีนนั้น เป็นศูนย์ที่มีเฮลิคอปเตอร์ขึ้นลงมากที่สุดในโลก
เมืองแอเบอร์ดีนมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่สองแห่งคือ มหาวิทยาลัยแอเบอร์ดีนและมหาวิทยาลัยโรเบิร์ตกอร์ดอน ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านงานวิจัยการเกษตร ดิน และที่สำคัญที่สุดคือ อาหารและโภชนาการ โดยมีศูนย์วิจัยที่มีชื่อเสียงคือ สถาบันวิจัย Rowett Research Institute ซึ่งเป็นที่ที่ให้กำเนิดผลงานของนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลหลายคนด้วยกัน[4]
อ้างอิง
แก้- ↑ "Mid-2012 Population Estimates for Settlements and Localities in Scotland". Government of the United Kingdom. 2013-05-31. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 November 2015. สืบค้นเมื่อ 25 November 2015.
- ↑ "UNITED KINGDOM: Countries and Major Urban Areas". citypopulation.de. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 December 2018.
- ↑ "UNITED KINGDOM: Agglomerations". citypopulation.de. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 December 2018.
- ↑ "ข้อมูลเมืองแอเบอร์ดีน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-26. สืบค้นเมื่อ 2007-10-01.
 | บทความประเทศ ดินแดน หรือเขตการปกครองนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |