ฉบับร่าง:อรชร เชิญยิ้ม

สุพัฒน์ ศรีนวล
ชื่อเกิด	สุพัฒน์ ศรีนวล
เกิด	พ.ศ. 2516 (อายุ 51 ปี); จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
บุตร	1 คน
อาชีพ	นักแสดงตลก

สุพัฒน์ ศรีนวล เป็นที่รู้จักกันในชื่อ อรชร เชิญยิ้ม เกิดปี พ.ศ. 2516 เป็นคนจังหวัดพิจิตร เป็นนักแสดงตลกชายชื่อดัง มีเอกลักษณ์คือหัวโล้น (ภายหลังใส่วิก) ส่วนมากมักจะแสดงบทเป็นสาวประเภท 2 ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (สาวประเภท 2) แม้จะเปิดเผยว่าตัวเองมีลูกสาวแล้วก็ตาม

ประวัติ

สุพัฒน์ ศรีนวล เป็นคนจังหวัดพิจิตร มีชื่อเล่นชื่อ ทัต เป็นลูกคนที่สี่ของครอบครัวที่มีลูกห้าชายสามคนและหญิงสองคน(ปัจจุบันพี่ชายทั้งสองคนเสียชีวิตไปแล้ว) บิดามีอาชีพถีบสามล้อและแบกข้าวสารและมารดามีอาชีพขายของ เกิดในครอบครัวฐานะยากจน จบการศึกษาปีที่หก ทำงานแรกคือตีกลองแต่ ทัต ไม่ชอบเลยไปอยู่กับคณะลิเกด้วยความที่เป็นคนจำกลอนได้แม่นยำเลยได้เป็นพระเอกลิเก [1] ภายหลังเกิดเรื่องเมื่อน้องสาวของทัต เรียนไม่จบมัธยมศึกษาปีที่สองบวกกับปัญหาเรื่องหนี้สินจนเกือบไม่มีที่อยู่ จึงต้องบังคับน้องสาวให้ไปแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งโดยที่น้องสาวไม่เต็มใจ(ภายหลังมีปัญหากับสามีเลยเลิกกัน) เลยหนีออกจากบ้านไปเล่นลิเกกับเพื่อนในนามว่า วีรทัต [2] โดยพักอาศัยกับนางเอกลิเกที่ตัวเองแอบชอบแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จด้านความรักจนเคยคิดฆ่าตัวตายแต่ก็ทำไม่ได้ [3] ภายหลังได้ไปย้ายไปคณะลิเกของพระเอก โชเล่ย์ หรือ นงค์ เชิญยิ้ม และได้เปลี่ยนในคณะลิเกชื่อเป็น ทับทิมทอง และเริ่มเปลี่ยนบทจากพระเอกแสดงบทเป็นตัวโจ๊กที่แสดงบทแบบสาวประเภท 2 ทำให้ ทัต [4] มีชื่อเสียงจากจุดนั้นก่อนจะมาดังเป็นพลุแตกจากกับคณะ กล้วย เชิญยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น อรชร เชิญยิ้ม กระทั่งปัจจุบันสามารถขึ้นแท่นหัวหน้ามีคณะตลกเป็นของตัวเองแล้ว (แต่ยังคงอยู่ในสังกัดกับกล้วย เชิญยิ้ม)[5] จนมาเจอกับ หม่ำ จ๊กมก ที่รายการหม่ำโชว์ เลยได้มีโอกาสเล่นหนังเรื่อง วงศ์คำเหลา / เงา / สายลับเกมส์โปม่อน 008 / หลวงพี่แจ๊ส 5G / ขุนบันลือและแฮปปี้นิวยู แสบสนั่น ยันหว่าง [6]

ชีวิตส่วนตัว

พี่ชายคนโตของอรชรได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในแคมป์คนงาน ส่วนพี่ชายคนกลางของอรชรได้เสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด [7]

อรชรเปิดเผยว่าเคยแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ได้เปิดเผยว่าเป็นการแต่งงานแบบไม่เต็มใจเพราะอรชรต้องไปใช้หนี้ด้วยการแต่งงาน ภายหลังก็เลิกรากันไปโดยมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อน้องใบเตย [8]