สิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชน (อังกฤษ: human rights) เป็นหลักทางศีลธรรมหรือจารีต[1] ซึ่งอธิบายมาตรฐานตายตัวของพฤติกรรมมนุษย์ และได้รับการคุ้มครองสม่ำเสมอเป็นสิทธิทางกฎหมายในกฎหมายท้องถิ่นและกฎหมายระหว่างประเทศ[2] ปกติเข้าใจว่าเป็นสิทธิพื้นฐานที่ไม่โอนให้กันได้ "ซึ่งบุคคลมีสิทธิในตัวเพียงเพราะผู้นั้นเป็นมนุษย์"[3] และซึ่ง "มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน"[4] โดยไม่คำนึงถึงชาติ สถานที่ ภาษา ศาสนา ชาติพันธุ์กำเนิดหรือสถานภาพอื่นใด[5] สิทธิมนุษยชนใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาในแง่ที่เป็นสากล[1] และสมภาคในแง่ที่เหมือนกับสำหรับทุกคน[5] สิทธิดังกล่าวต้องการความร่วมรู้สึกและหลักนิติธรรม[6] และกำหนดพันธะต่อบุคคลให้เคารพสิทธิมนุษยชนของผู้อื่น[1][5] สิทธิดังกล่าวไม่ควรถูกพรากไปยกเว้นอันเป็นผลของกระบวนการทางกฎหมายที่ยึดพฤติการณ์แวดล้อมจำเพาะ[5] ตัวอย่างเช่น สิทธิมนุษยชนอาจรวมเสรีภาพจากการจำคุกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย การทรมานและการประหารชีวิต[7]
ลัทธิสิทธิมนุษยชนมีอิทธิพลสูงในกฎหมายระหว่างประเทศ สถาบันโลกและภูมิภาค[5] การกระทำของรัฐและองค์การนอกภาครัฐก่อพื้นฐานของนโยบายสาธารณะทั่วโลก แนวคิดสิทธิมนุษยชนเสนอว่า "หากวจนิพนธ์สาธารณะสังคมโลกยามสงบสามารถกล่าวเป็นภาษาศีลธรรมร่วมได้ สิ่งนั้นคือสิทธิมนุษยชน" การอ้างอย่างหนักแน่นโดยลัทธิสิทธิมนุษยชนยังกระตุ้นกังขาคติและการอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหา สภาพและการให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมายซึ่งสิทธิมนุษยชนตราบจนทุกวันนี้ ความหมายแน่ชัดของคำว่า "สิทธิ" นั้นมีการโต้เถียงและเป็นหัวข้อการอภิปรายทางปรัชญาต่อไป[8] ขณะที่มีการเห็นพ้องต้องกันว่าสิทธิมนุษยชนครอบคลุมสิทธิต่าง ๆ[4] เช่น สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม การคุ้มครองจากการเป็นทาส การห้ามพันธุฆาต เสรีภาพในการพูด[9]หรือเสรีภาพที่จะได้รับการศึกษา แต่ยังเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับว่าสิทธิใดบ้างต่อไปนี้ควรรวมอยู่ในกรอบทั่วไปของสิทธิมนุษยชน[1] นักคิดบางคนเสนอว่าสิทธิมนุษยชนควรเป็นข้อกำหนดพื้นฐานเพื่อเลี่ยงการละเมิดที่ร้ายแรงที่สุด ขณะที่บางคนมองว่าเป็นมาตรฐานขั้นสูง[1]
ความคิดพื้นฐานดังกล่าวจำนวนมากซึ่งขับเคลื่อนขบวนการสิทธิมนุษยชนพัฒนาขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองและความเหี้ยมโหดของฮอโลคอสต์[6] จนลงเอยด้วยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีมติเห็นชอบปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในกรุงปารีสในปี 2491 คนโบราณไม่มีแนวคิดสิทธิมนุษยชนสากลสมัยใหม่แบบเดียวกัน[10] การบุกเบิกวจนิพนธ์สิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงนั้นคือมโนทัศน์สิทธิธรรมชาติซึ่งปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีกฎหมายธรรมชาติยุคกลางซึ่งโดดเด่นขึ้นระหว่างยุคภูมิธรรมยุโรปโดยมีนักปรัชญาอย่างจอห์น ล็อก, ฟรานซิส ฮัตชิสัน (Francis Hutcheson) และฌ็อง-ฌัก บูร์ลามากี (Jean-Jacques Burlamaqui) และซึ่งมีการเสนออย่างโดดเด่นในวจนิพันธ์การเมืองของการปฏิวัติอเมริกาและการปฏิวัติฝรั่งเศส[6] จากรากฐานนี้ การให้เหตุผลสิทธิมนุษยชนสมัยใหม่กำเนิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20[11] อาจเป็นปฏิกิริยาต่อความเป็นทาส การทรมาน พันธุฆาตและอาชญากรรมสงคราม[6] โดยความตระหนักถึงความเปราะบางของมนุษย์ในตัวและเป็นเงื่อนไขก่อนความเป็นไปได้ของสังคมยุติธรรม[4]
ปรัชญา
แก้ปรัชญาตะวันตกเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เก่าแก่ที่สุดสำนักหนึ่งมีว่าสิทธิมนุษยชนเป็นผลลัพธ์ของกฎหมายธรรมชาติ ที่มาจากเหตุผลทางปรัชญาหรือศาสนาที่แตกต่างกัน ทฤษฎีอื่น ๆ มีว่าสิทธิมนุษยชนเป็นการประมวลพฤติกรรมที่มีศีลธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ทางสังคมของมนุษย์ที่พัฒนามาจากกระบวนการวิวัฒนาการทางชีววิทยาและสังคม
มโนทัศน์
แก้สากลนิยมกับสัมพัทธนิยมทางวัฒนธรรม
แก้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนระบุไว้ว่าสิทธิมนุษยชนใช้กับมนุษย์ทุกคนโดยเสมอกัน ไม่ว่าอยู่ที่ใด รัฐใด มีเชื้อชาติหรือวัฒนธรรมใดก็ตาม แต่ผู้สนับสนุนสัมพัทธนิยมเสนอว่าสิทธิมนุษยชนไม่ใช่สิ่งสากล และขัดแย้งกับบางวัฒนธรรมตลอดจนคุกคามการอยู่รอดของวัฒนธรรมเหล่านั้น บางคนอธิบายสากลนิยมว่าเป็นจักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจหรือการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมโนทัศน์สิทธิมนุษยชนมักอ้างว่ามีรากเหง้ามาจากทัศนะทางการเมืองแบบเสรีนิยม ซึ่งแม้ว่าโดยทั่วไปเป็นที่ยอมรับในทวีปยุโรป ญี่ปุ่นและอเมริกาเหนือ แต่มิได้เป็นมาตรฐานที่อื่น นอกจากนี้ยังมีการพาดพิงถึงนักคิดสิทธิมนุษยชนที่ทรงอิทธิพลบางคน เช่น จอห์น ล็อก และจอห์น สจวต มิล ว่าทุกคนเป็นชาวตะวันตกและบางคนยังพัวพันกับการบริหารจักรวรรดิเองเสียด้วย[12][13]
สิทธิที่นักสัมพัทธนิยมมักแย้งคือสิทธิสตรี ตัวอย่างเช่น การตัดอวัยวะเพศสตรีพบในหลายวัฒนธรรมในทวีปแอฟริกา เอเชียและอเมริกาใต้
ลี กวน ยิว อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อ้างในคริสต์ทศวรรษ 1990 ว่าค่านิยมแบบเอเชียแตกต่างจากค่านิยมตะวันตกมาก และมีสำนึกเรื่องความจงรักภักดีและการยอมสละเสรีภาพส่วนบุคคลเพื่อให้สังคมมีเสถียรภาพและมั่งคั่ง ฉะนั้นรัฐบาลอำนาจนิยมจึงเหมาะสมกับทวีปเอเชียมากกว่าประชาธิปไตย
อย่างไรก็ดี ผู้ให้เหตุผลสัมพัทธนิยมมักละเลยข้อเท็จจริงที่ว่าสิทธิมนุษยชนเป็นของใหม่สำหรับทุกวัฒนธรรม คือ มีประวัติย้อนไปไม่เกินปี 1948 ทั้งไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ร่างปฏิญญาฯ ประกอบด้วยคนหลายวัฒนธรรมและประเพณี เช่น คริสตังชาวอเมริกัน, นักปรัชญาศาสนาขงจื้อชาวจีน, นักลัทธิไซออนิสต์ชาวฝรั่งเศส และผู้แทนจากสันนิบาตอาหรับ และได้รับคำแนะนำจากนักคิดอย่างมหาตมา คานธี[14]
Michael Ignatieff แย้งว่าสัมพัทธนิยมทางวัฒนธรรมเป็นการให้เหตุผลที่เกือบทั้งหมดมาจากผู้ครอบอำนาจในวัฒนธรรมที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนล้วนเป็นผู้ไร้อำนาจทั้งสิ้น[15] สะท้อนว่าการตัดสินสากลนิยมกับสัมพันธนิยมอยู่ในมือของผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมนั้น ๆ
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 James Nickel, with assistance from Thomas Pogge, M.B.E. Smith, and Leif Wenar, December 13, 2013, Stanford Encyclopedia of Philosophy, Human Rights, Retrieved August 14, 2014
- ↑ Nickel 2010
- ↑ Sepúlveda et al. 2004, p. 3[1] เก็บถาวร 2012-03-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Burns H. Weston, March 20, 2014, Encyclopedia Britannica, human rights, Retrieved August 14, 2014
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 The United Nations, Office of the High Commissioner of Human Rights, What are human rights?, Retrieved August 14, 2014
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 Gary J. Bass (book reviewer), Samuel Moyn (author of book being reviewed), October 20, 2010, The New Republic, The Old New Thing, Retrieved August 14, 2014
- ↑ Merriam-Webster dictionary, [2], Retrieved August 14, 2014, "rights (as freedom from unlawful imprisonment, torture, and execution) regarded as belonging fundamentally to all persons"
- ↑ Shaw 2008, p. 265
- ↑ Macmillan Dictionary, human rights - definition, Retrieved August 14, 2014, "the rights that everyone should have in a society, including the right to express opinions about the government or to have protection from harm"
- ↑ Freeman 2002, pp. 15–17
- ↑ Moyn 2010, p. 8
- ↑ Tunick (2006)
- ↑ Beate (2005)
- ↑ Ball, Gready (2007) p.34
- ↑ Ignatief, M. (2001) p.68
บรรณานุกรม
แก้- Amnesty International (2004). Amnesty International Report. Amnesty International Publications. ISBN 0-86210-354-1 ISBN 1-887204-40-7
- Alexander, Fran (ed) (1998). Encyclopedia of World History. Oxford University Press. ISBN 0-19-860223-5
- Alston, Philip (2005). "Ships Passing in the Night: The Current State of the Human Rights and Development Debate seen through the Lens of the Millennium Development Goals". Human Rights Quarterly. Vol. 27 (No. 3) p. 807
- Arnhart, Larry (1998). Darwinian Natural Right: The Biological Ethics of Human Nature SUNY Press. ISBN 0-7914-3693-4
- Ball, Olivia; Gready, Paul (2007). The No-Nonsense Guide to Human Rights. New Internationalist. ISBN 1-904456-45-6
- Barzilai, Gad. (2003). Communities and Law: Politics and Cultures of Legal Identities. Ann Arbor: University of Michigan Press. ISBN 0-472-11315-1
- Chauhan, O.P. (2004). Human Rights: Promotion and Protection. Anmol Publications PVT. LTD. ISBN 81-261-2119-X.
- Cook, Rebecca J.; Fathalla, Mahmoud F. (September 1996). "Advancing Reproductive Rights Beyond Cairo and Beijing". International Family Planning Perspectives Vol.22 (No.3): p. 115–121 JSTOR 2950752
- Cope, K., Crabtree, C., & Fariss, C. (2020). Patterns of disagreement in indicators of state repression. Political Science Research and Methods, 8(1), 178–187.
- Davenport, Christian (2007a). State Repression and the Domestic Democratic Peace. New York: Cambridge University Press. ISBN 0-521-86490-9
- Davenport, Christian (2007b). State Repression and Political Order. Annual Review of Political Science.
- Donnelly, Jack. (2003). Universal Human Rights in Theory & Practice. 2nd ed. Ithaca & London: Cornell University Press. ISBN 0-8014-8776-5
- Ellerman, David (2005). Helping People Help Themselves: From the World Bank to an Alternative Philosophy of Development Assistance. Ann Arbor: University of Michigan Press. ISBN 0-472-03142-2
- Esposito, John L. (2004). The Oxford Dictionary of Islam. Oxford University Press. ISBN 0-19-512559-2
- Esposito, John L. (2005). Islam: The Staight Path. Oxford University Press. ISBN 0-19-518266-9
- Finnis, John (1980). Natural Law and Natural Rights Oxford: Clarendon Press. ISBN 0-19-876110-4
- Forsythe, David P. (2000). Human Rights in International Relations. Cambridge: Cambridge University Press. International Progress Organization. ISBN 3-900704-08-2
- Forsythe, David P. (2005). The Humanitarians: The International Committee of the Red Cross Cambridge University Press. ISBN 0-521-84828-8
- Freedman, Lynn P.; Isaacs, Stephen L. (Jan–Feb 1993). "Human Rights and Reproductive Choice". Studies in Family Planning Vol.24 (No.1): p. 18–30 JSTOR 2939211
- Ignatieff, Michael (2001). Human Rights as Politics and Idolatry. Princeton & Oxford: Princeton University Press. ISBN 0-691-08893-4
- Glendon, Mary Ann (2001). A World Made New: Eleanor Roosevelt and the Universal Declaration of Human Rights. Random House of Canada Ltd. ISBN 0-375-50692-6
- Haddad, Yvonne Yazbeck; Esposito, John L. (1998) Islam, Gender, and Social Change. Oxford University Press US. ISBN 0-19-511357-8
- Hitchens, Christopher (2002). The Trial of Henry Kissinger. Verso. ISBN 1-85984-398-0
- Houghton Miffin Company (2006). The American Heritage Dictionary of the English Language. Houghton Miffin. ISBN 0-618-70173-7
- Jaffa, Harry V. (1979). Thomism and Aristotelianism; A Study of the Commentary by Thomas Aquinas on the Nicomachean Ethics Greenwood Press. ISBN 0-313-21149-3 (reprint of 1952 edition published by University of Chicago Press)
- Jahn, Beate (2005). "Barbarian thoughts: imperialism in the philosophy of John Stuart Mill". Review of International Studies 13 June 2005 31: 599–618 Cambridge University Press
- Jones, Lindsay. Encyclopedia of religion, second edition. ISBN 0-02-865742-X
- Joseph, Suad; Najmabadi, Afsaneh (eds) (2007). Encyclopedia of Women & Islamic Cultures. Brill Publishing. ISBN 90-04-12818-2
- Kennedy, Duncan (1982). Legal Education and the Reproduction of Hierarchy เก็บถาวร 2020-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Journal of Legal Education Vol.32 (No. 591)
- Khadduri, Majid (1978). "Marriage in Islamic Law: The Modernist Viewpoints". American Journal of Comparative Law Vol. 26 (No. 2): pp. 213–218.
- Köchler, Hans (1981). The Principles of International Law and Human Rights. hanskoechler.com
- Köchler, Hans. (1990). "Democracy and Human Rights". Studies in International Relations, XV. Vienna: International Progress Organization.
- Kohen, Ari (2007). In Defense of Human Rights: A Non-Religious Grounding in a Pluralistic World. Routledge. ISBN 0-415-42015-6, ISBN 978-0-415-42015-0
- Landman, Todd (2006). Studying Human Rights. Oxford and London: Routledge ISBN 0-415-32605-2
- Lewis, Bernard (1992). Race and Slavery in the Middle East: An Historical Enquiry. Oxford University Press. ISBN 0-19-505326-5
- Lewis, Bernard (21 January 1998). "Islamic Revolution". The New York Review of Books Vol.34 (Nos. 21 & 22)
- Light, Donald W. (2002). "A Conservative Call For Universal Access To Health Care เก็บถาวร 2005-01-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน" Penn Bioethics Vol.9 (No.4) p. 4–6
- Littman, David (1999). "Universal Human Rights and 'Human Rights in Islam'". Midstream Magazine Vol. 2 (no.2) pp. 2–7
- Maan, Bashir; McIntosh, Alastair (1999). "Interview with William Montgomery Watt" The Coracle Vol. 3 (No. 51) pp. 8–11.
- Maret, Susan 2005. “‘Formats Are a Tool for the Quest for Truth’: HURIDOCS Human Rights Materials for Library and Human Rights Workers.” Progressive Librarian, no. 26 (Winter): 33–39.
- Mayer, Henry (2000). All on Fire: William Lloyd Garrison and the Abolition of Slavery. St Martin's Press. ISBN 0-312-25367-2
- McAuliffe, Jane Dammen (ed) (2005). Encyclopaedia of the Qur'an: vol 1–5 Brill Publishing. ISBN 90-04-14743-8. ISBN 978-90-04-14743-0
- McLagan, Meg (2003) "Principles, Publicity, and Politics: Notes on Human Rights Media". American Anthropologist. Vol. 105 (No. 3). pp. 605–612
- Hershock, Peter D; Ames, R.T.; Stepaniants, M. (eds). Technology and Cultural Values on the Edge of the Third Millennium. (Selected papers from the 8 th East-West Philosophers Conference). Honolulu: U of Hawai’i Press, 2003. 209–221.
- Möller, Hans-Georg (2003). How to Distinguish Friends from Enemies: Human Rights Rhetoric and Western Mass Media.
- Nathwani, Niraj (2003). Rethinking Refugee Law. Martinus Nijhoff Publishers. ISBN 90-411-2002-5
- Paul, Ellen Frankel; Miller, Fred Dycus; Paul, Jeffrey (eds) (2001). Natural Law and Modern Moral Philosophy Cambridge University Press. ISBN 0-521-79460-9
- Clayton, Philip; Schloss, Jeffrey (2004). Evolution and Ethics: Human Morality in Biological and Religious Perspective Wm. B. Eerdmans Publishing. ISBN 0-8028-2695-4
- Robertson, Arthur Henry; Merrills, John Graham (1996). Human Rights in the World: An Introduction to the Study of the International Protection of Human Rights. Manchester University Press. ISBN 0-7190-4923-7.
- Salevao, Lutisone (2005). Rule of Law, Legitimate Governance and Development in the Pacific. ANU E Press. ISBN 978-0731537211
- Scott, C. (1989). "The Interdependence and Permeability of Human Rights Norms: Towards a Partial Fusion of the International Covenants on Human Rights". Osgood Law Journal Vol. 27
- Sills, David L. (1968, 1972) International Encyclopedia of the Social Sciences. MacMillan.
- Shellens, Max Salomon. 1959. "Aristotle on Natural Law." Natural Law Forum 4, no. 1. Pp. 72–100.
- Schimmel, Annemarie (1992). Islam: An Introduction. SUNY Press. ISBN 0-7914-1327-6
- Sen, Amartya (1997). Human Rights and Asian Values. ISBN 0-87641-151-0.
- Shute, Stephen & Hurley, Susan (eds.). (1993). On Human Rights: The Oxford Amnesty Lectures. New York: BasicBooks. ISBN 0-465-05224-X
- Steiner, J. & Alston, Philip. (1996). International Human Rights in Context: Law, Politics, Morals. Oxford: Clarendon Press. ISBN 0-19-825427-X
- Sunga, Lyal S. (1992) Individual Responsibility in International Law for Serious Human Rights Violations, Martinus Nijhoff Publishers. ISBN 0-7923-1453-0
- Tierney, Brian (1997). The Idea of Natural Rights: Studies on Natural Rights, Natural Law, and Church Law. Wm. B. Eerdmans Publishing. ISBN 0-8028-4854-0
- Tunick, Mark (2006). "Tolerant Imperialism: John Stuart Mill's Defense of British Rule in India". The Review of Politics 27 October 2006 68: 586–611 Cambridge University Press
- Vaughn, Karen I. (1978) "John Locke and the Labor Theory of Value" Journal of Libertarian Studies. Vol. 2 (No. 4) pp. 311–326