สมอลล์วิลล์
สมอลวิลล์ ผจญภัยหนุ่มน้อยซูเปอร์แมน (อังกฤษ: Smallville) เป็นละครชุดทางโทรทัศน์ ผลิตโดย นักเขียนบทและผู้อำนวยการสร้าง แอลเฟร็ด กัฟและไมล์ส มิลล่าร์ โดยมีพื้นฐานจากการ์ตูนเรื่อง ซูเปอร์แมน ตัวละครจากสำนักพิมพ์ ดีซีคอมิกส์ ซึ่งสร้างโดย เจอร์รี ชีเกล และ โจ ชูสเตอร์
สมอลล์วิลล์ | |
---|---|
ประเภท | |
สร้างโดย |
|
พัฒนาโดย | |
แสดงนำ | ดูด้านล่าง |
ดนตรีแก่นเรื่องเปิด | "เซฟมี" โดย เรมี ซีโร |
ผู้ประพันธ์เพลง | มาร์ค สโนว์ ลูอิส เฟบรี |
ประเทศแหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
ภาษาต้นฉบับ | อังกฤษ |
จำนวนฤดูกาล | 10 |
จำนวนตอน | 218[3][4] (รายชื่อตอน) |
การผลิต | |
ผู้อำนวยการผลิต |
|
สถานที่ถ่ายทำ | บริติชโคลัมเบีย, แคนาดา |
ความยาวตอน | 42 นาที |
บริษัทผู้ผลิต | โทลลิน/รอบบินส์ โปรดักชันส์ วอร์เนอร์บราเธอร์ส เทเลวิชัน ดีซีคอมิกส์ มิลเลอร์ กัฟ อิงค์ |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | |
ออกอากาศ | 16 ตุลาคม 2001 – 13 พฤษภาคม 2011 |
การแสดงที่เกี่ยวข้อง | |
อควาแมน |
สมอลวิลล์ ออกอากาศครั้งแรกทางสถานีโทรทัศน์ The WB ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2544 โดยทำลายสถิติผู้ชมสูงสุดตลอดกาลของตอนแรกในละครของสถานี โดยมีผู้ชมกว่า 8.4 ล้านคนในตอนแรกทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งมากกว่าละครเรื่อง Charmed ที่ทำสถิติไว้ที่ 7.7 ล้านคน ซึ่งละครสมอลล์วิลล์ก็ยังรักษาสถิติละครอันดับ 1 ของช่อง The WB ไว้ตลอดจนกระทั่งสิ้นสถานี และได้ออกอากาศต่อที่ช่อง The CW โดยยังเป็นละครที่ได้รับความนิยมสูงเสมอมา ถึงแม้จะถูกย้ายเวลาไปอยู่คืนวันศุกร์ซึ่งถือเป็น "คืนมรณะ" สำหรับวงการโทรทัศน์อเมริกา แต่จำนวนคนดูก็ยังมากกว่าละครที่ฉายในวันปกติเสมอ
สมอลล์วิลล์ ออกอากาศตอนสุดท้ายในคืนวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2554 ด้วยตอนพิเศษ 2 ชั่วโมงทางสถานีโทรทัศน์ The CW หลังจากออกอากาศมา 10 ปีกับ 218 ตอนและ 2 สถานีโทรทัศน์ Smallville กลายเป็นละคร Sci-fi ที่ออกอากาศต่อเนื่องยาวนานที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ทำลายสถิติเดิมของ Stargate SG-1 ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้
ภาพรวมของละคร สมอลวิลล์
แก้ละคร สมอลวิลล์ เป็นละครที่กล่าวถึงชีวิตของคลาร์ก เค้นท์ โดยเริ่มจากชีวิตในช่วงมัธยมของตัวเขาและเพื่อน ๆ ของเขาซึ่งส่วนใหญ่เองตัวละครก็มีการอ้างชื่อมาจากการ์ตูน ซูเปอร์แมน ในของเดิมทั้งสิ้น รวมทั้งละครเรื่องนี้ยังแสดงถึงพัฒนาการของ Clark Kent ในมิติต่าง ๆ ก่อนที่จะก้าวสู่ความเป็นซูเปอร์แมน ทั้งชีวิตครอบครัว การงานอาชีพ ความรัก ความสามารถพิเศษ หรือชะตากรรมของตัวเขาเองที่เขาต้องเขียนขึ้น
ในละครจะกล่าวถึงชีวิตตอนเป็นวัยรุ่นของคลาร์ก เค้นท์กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่บุญธรรมของเขา โจนาธาน และ มาร์ธ่า เค้นท์ (Jonathan and Martha Kent) ชีวิตของเขากับเพื่อนสนิทเขาสี่คน คือ โคลอี้ ซัลลิแวน (Chloe Sullivan) , พีท รอสส์ (Pete Ross) , ลาน่า แลงก์ (Lana Lang) และเล็กซ์ ลูเธอร์ (Lex Luthor) ชีวิตรักสามเส้าของ คลาร์ก เค้นท์, โคลอี้ ซัลลิแวน, และ ลาน่า แลงก์ รวมทั้งมิตรภาพของศัตรูตลอดกาลของคลาร์ก เค้นท์อย่างมิตรภาพกับเล็กซ์ ลูเธอร์ รวมทั้งการเติบโตของเล็กซ์ ลูเธอร์โดยการปลูกปั้นของพ่อเขา ไลโอเนล ลูเธอร์ (Lionel Luthor) รวมทั้งพัฒนาการของตัวละครต่าง ๆ ที่จะพัฒนาร่วมกับคลาร์ก เค้นท์ เช่นจิมมี่ โอลเซ่น (Jimmy Olsen) ซึ่งจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคลาร์ก เค้นท์, โลอิส เลน (Lois Lane) ในฐานะนักข่าวผู้รู้ความลับ และเนื้อคู่ของคลาร์กในอนาคต และคาร่า ซอร์เอล (Kara Zor-El) ลูกพี่ลูกน้องผู้ลึกลับที่จะเติบโตเป็นซูเปอร์เกิร์ลในอนาคต
หลังจากภาคที่เจ็ด เล็กซ์ ลูเธอร์ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบททดสอบสู่การเป็นยอดฮีโร่ของคลาร์ก เค้นท์ จะสิ้นสุดลง เขายังต้องเจออุปสรรคมากมายทั้งหนุ่มลึกลับ เดวิส บลูม (Davis Bloome) ที่ได้รับชะตาลิขิตมาให้เป็นผู้ทำลายซูเปอร์แมนในนาม Doomsday หรือว่านายพลซ็อด (General Zod) ผู้ทำลายล้างดาวคริปตันที่สามารถแหกคุกอวกาศออกมาเพื่อมาตามล่าล้างคลาร์ก แต่คลาร์กก็มีผู้ที่ช่วยเขามากขึ้น ทั้ง โอลิเวอร์ ควีน (Oliver Queen) หรือ Green Arrow รวมถึงโคลอี้ที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตโอลิเวอร์ และโลอิสที่ได้เข้ามาร่วมทุกข์ร่วมสุขในชีวิตคลาร์กมากขึ้น การเผชิญอุปสรรครวมถึงการสนับสนุนเหล่านี้นี่เองจะกลายเป็นบททดสอบก่อนที่เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยมีมา นั่นคือ ซูเปอร์แมน (Superman) นั่นเอง
เนื้อเรื่องย่อของละคร สมอลวิลล์
แก้สมอลวิลล์ฉายจบแล้ว และมีจำนวนภาคทั้งหมด 10 ภาค รวมทั้งหมด 218 ตอน (ตอนที่ฉาย 2 ชั่วโมง ได้แก่ตอน Absolute Justice ในภาค 9 และตอน Finale ในภาค 10 นับเป็น 2 ตอน)
- ภาคที่ 1 (สหรัฐฯ: 2544-2545 - ไทย: 2546)
ตุลาคม 2532 อุกกาบาตห่าใหญ่ตกลงมายังสมอลล์วิลล์ เล็กซ์ ลูเธอร์ได้รับบาดเจ็บ ลาน่า แลงก์เสียพ่อและแม่ รวมทั้งผู้คนจำนวนมากต้องสูญเสียที่อยู่ ชีวิต และทรัพย์สินมากมาย โจนาธานและมาร์ธ่า เค้นท์เก็บทารกที่ออกมาจากยานอวกาศลึกลับที่ตกลงมาพร้อมหินอุกกาบาตเอามาเลี้ยง สิบสองปีต่อมา คลาร์ก เค้นท์ หนุ่มน้อยที่เติบใหญ่จากการเลี้ยงของโจนาธานและมาร์ธ่าได้เผชิญกับภัยมากมายที่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับเขาและหินอุกกาบาตที่ตกลงมาด้วยโดยตรง คลาร์กจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องพ่อแม่เขา เพื่อน ๆ ของเขาอย่างลาน่า แลงก์, โคลอี้ ซัลลิแวน, พีท รอสส์, เล็กซ์ ลูเธอร์ หรือแม้แต่ศัตรูหัวใจของเขาอย่างวิทนี่ย์ ฟอร์ดแมน รวมทั้งปกป้องความลับของตัวเขาเอง
- ภาคที่ 2 (สหรัฐฯ: 2545-2546 - ไทย: 2547)
หลังจากทอร์นาโดถล่มสมอลล์วิลล์ โรเจอร์ นิกสันถูกเล็กซ์สังหาร ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของโจนาธานและเล็กซ์ดีอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน วิทนี่ย์ ฟอร์ดแมน เพื่อนชายของลาน่าตายระหว่างสงครามที่เขาต้องไปเป็นนาวิกโยธินซึ่งทำให้ลาน่าเศร้าใจมาก คลาร์กค้นพบพรสวรรค์ใหม่กับสายตาหลอมละลาย พีท รอสส์รู้ความลับของคลาร์กที่ทำให้สองเกิดเข้าใจผิดกันชั่วคราว คลาร์กรู้เรื่องความลับในอดีตบางอย่างจากกุญแจยานและความช่วยเหลือจากดอกเตอร์ระดับโลกอย่างดอกเตอร์เวอร์จิ้ล สแวนน์ แน่นอนว่าในภาคนี้ความผิดปกติต่าง ๆ ก็ยังมีอยู่และส่งผลต่อตัวของคลาร์กเองมากด้วย จนบางครั้งเพื่อนหลายคนแทบจะแตกหักกันได้เลยทีเดียว
- ภาคที่ 3 (สหรัฐฯ: 2546-2547 - ไทย: 2548)
คลาร์กสวมแหวนที่มีคริปโตไนท์สีแดง ซึ่งทำให้เขาเสียสติ โจนาธานเข้าถ้ำพร้อมคุยกับจอร์เอลเพื่อหาทางนำตัวคลาร์กกลับมา สุดท้ายจอร์เอลได้มอบพลังทัดเทียมคลาร์กให้พร้อมกับข้อเสนอที่เขานึกไม่ถึงว่าเป็นข้อเสนอที่ทำให้เขาต้องพรากจากคลาร์กไป เล็กซ์หายสาบสูญระหว่างการฮันนีมูนซึ่งนั่นทำให้เมื่อเขากลับมาแล้วทำให้เขาพยายามหาผู้วางแผนจนกระทั่งฆ่าภรรยาตน รวมทั้งรู้ถึงความเลวของพ่อตน คลาร์กค้นพบพรสวรรค์ใหม่ในการได้ยินที่ได้ยินแม้เสียงกระซิบจากที่ไกล เซเกธ (ศัตรูของนาแมน ชายผู้ "ร่วงหล่นมาจากดาวแสนไกล" โปรดดู Episode 31 Skinwalkers) ที่แท้จริงจะเป็นใครระหว่างเล็กซ์หรือไลโอเนล พีทจำต้องย้ายตนไปอยู่ที่วิชิตาเพราะถูกเอฟบีไอไล่ล่าเพื่อเอาความจริงเกี่ยวกับคลาร์ก คลาร์กต้องเผชิญหน้ากับอดีตของพ่อที่แท้จริงของเขา อุปสรรคมากมาย ซึ่งเขาจะต้องเผชิญไปให้ได้
- ภาคที่ 4 (สหรัฐฯ: 2547-2548 - ไทย: 2549)
การเผยโฉมหน้าครั้งแรกของโลอิส เลนซึ่งมาในฐานะญาติของโคลอี้ ที่มายังสมอลล์วิลล์เพื่อสืบสวนการตายของโคลอี้ตามคำขอสุดท้ายของเธอ คลาร์กถูกส่งลงมาจากการถูกจอร์เอลพาตัวไป แต่คลาร์กกลับความจำเสื่อมเสียนี่ โชคช่วยที่โลอิสเจอคลาร์กก่อนที่จะถูกจับในข้อหาเปลือยกายในที่สาธารณะ โลอิสจะทำอย่างไรเมื่อคำสั่งเสียของโคลอี้บอกว่าให้ตามคลาร์กมาช่วย แต่คลาร์กกลับจำอะไรไม่ได้ แต่แน่นอน หลังคลาร์กได้ความจำคืนด้วยความช่วยเหลือของดอกเตอร์สแวนน์ คลาร์กก็ได้ค้นพบพลังใหม่ของตนที่ได้มาจากการถูกกักตัวจากจอร์เอล เล็กซ์อยู่ที่อียิปต์ พบรูปปั้นที่บรรจุหินคริปโตไนท์ไว้ แต่คลาร์กตอนความจำเสื่อมได้ไปชิงเอาหินมาได้ ซึ่งจอร์เอลได้มอบหมายภารกิจสำคัญแก่คลาร์กให้รวบรวมหินคริปโตไนท์สามก้อนเพื่อเปิดถ้ำให้ได้ ภารกิจของเขาจะลุล่วงหรือไม่อย่างไรและต้องเจออุปสรรคอย่างไร เช่นเดียวกัน ลาน่าไปเรียนต่อฝรั่งเศสด้วยทุนของเล็กซ์ ลูเธอร์ เธอพบรักใหม่ที่นั่นกับชายนามเจสัน ทีค ผู้ดูเหมือนจะเติบโตมากับสิ่งลึกลับที่เกี่ยวพันกับสัญลักษณ์ที่ติดอยู่กับบั้นท้ายเธอเมื่อเธออยู่ในโบสถ์ที่ฝรั่งเศสที่มีอาถรรพ์อยู่ เธอจะแก้ไขอย่างไร โคลอี้ตายจริงหรือไม่ และพวกเขาจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับห่าอุกกาบาตรอบสองในตอนท้ายเรื่อง
- ภาคที่ 5 (สหรัฐฯ: 2548-2549 ไทย: 2550)
จากเหตุการณ์ห่าอุกกาบาตท้ายภาคแล้ว คลาร์กรวบรวมหินเปิดถ้ำได้ครบสามก้อนพร้อมเปิดถ้ำไปยังป้อมสันโดษบนขั้วโลกเหนือ ลาน่าเจอยานอวกาศพร้อมมนุษย์ต่างดาวที่ถามหาคาลเอล เล็กซ์นอนอยู่ที่ถ้ำอยู่คนเดียวหลังตามหลังโคลอี้มา แต่โคลอี้ลับไม่อยู่ที่ถ้ำด้วย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธออยู่ที่ขั้วโลกแล้วเห็นการกระทำของคลาร์ก เล็กซ์ ลูเธอร์ดูเหมือนจะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลเค้นท์ในภาคนี้ โดยมีปมตั้งแต่การแอบถ่ายคลาร์กในขณะทำอิริยาบถต่าง ๆ จนกระทั่งปมใหญ่ที่สุดที่เล็กซ์ต้องแย่งตำแหน่งวุฒิสมาชิกแห่งรัฐคันซัสกับโจนาธาน เค้นท์ ความสัมพันธ์ระหว่างลาน่ากับคลาร์กดูเหมือนจะลึกซึ้งขึ้น แต่สุดท้ายเธอกลับไปคบกับเล็กซ์ มีมูลเหตุอะไร การปรากฏตัวครั้งแรกของเบรนเหนียกหรือศาสตราจารย์มิลตัน ไฟน์ผู้ที่ปองร้ายคลาร์กโดยร่วมมือกับเล็กซ์ แต่หลังเล็กซ์ร่วมมือกับเบรนเหนียก เบรนเหนียกกลับทำให้เล็กซ์มีพลังอำนาจชั่วร้าย จอร์เอลโกรธที่คลาร์กไม่ยอมฝึกฝนพลังบนป้อมสันโดษจึงลงโทษโดยการริบพลังเขา แต่เมื่อคลาร์กตายจอร์เอลก็มาในร่างไลโอเนล ฟื้นพลังพร้อมกับบอกคลาร์กว่าเขาต้องสูญเสียคนที่เขารักไป ใครคือผู้ที่จอร์เอลหมายปองชีวิตแลกกับคลาร์ก ไลโอเนลดูเหมือนจะรู้ตัวในที่สุดว่าตนไม่ได้มีบทบาทเพียงเป็นพ่อของเล็กซ์เท่านั้น แต่เขายังมีสติพอที่จะรู้ว่าจอร์เอลใช้ร่างเขาสื่อสารกับคลาร์กด้วย ทำให้เขาเริ่มร่วมมือกับคลาร์กและโคลอี้ในการคลายปริศนาต่าง ๆ ทิ้งบทบาทนักธุรกิจผู้ไม่เคยปรานีใครไปอย่างสิ้นเชิง คลาร์กจะจัดการกับเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวเขาเหล่านี้อย่างไร
- ภาคที่ 6 (สหรัฐฯ: 2549-2550 ไทย: 2551)
ความวุ่นวายจากการกระทำที่เบรนนิแอคได้ทิ้งไว้ก่อนที่เล็กซ์จะถูกสิงโดยปีศาจซ็อดได้ส่งผลทั่วโลก ระบบคอมพิวเตอร์ล่มสลาย ซ็อดวางแผนที่จะครองโลก มาร์ธ่าและโลอิสเครื่องบินตกที่ป้อมสันโดษซึ่งไลโอเนลได้บอกวิธีการฆ่าซ็อด ไลโอเนลและโคลอี้ปลอดภัยถูกกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเบรนนิแอคทำร้าย เธอได้พบกับเพื่อนรักเก่าของเธอ จิมมี่ โอลเซ่น ลาน่าเริ่มไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเล็กซ์ โลอิสเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคลาร์กและโอลิเวอร์ ควีน (กรีนแอร์โร่ว์) มาร์ธ่าต้องแบกรับภาระของโจนาธานทั้งหมดหลังเขาต้องตาย ทั้งตำแหน่งวุฒิสมาชิก ไร่เค้นท์ รวมทั้งการดูแลคลาร์ก เธอเริ่มมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไลโอเนล รวมทั้งคลาร์กจะทำอย่างไรหลังจากเขาออกมาจากประตูมิติของปีศาจซ็อดแล้วพบว่ามีปีศาจชั่วร้ายออกมาจากประตูมิติพร้อมกันกับเขา
- ภาคที่ 7 (สหรัฐฯ: 2550-2551 ไทย: 2552)
คลาร์กต้องเผชิญกับปีศาจบิซซาโร่ ปีศาจที่โคลนตัวเองออกมาเป็นคลาร์กและแข็งแกร่งมากเมื่ออยู่ใกล้คริปโตไนท์สีเขียว ลาน่ากลับมาหลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าลาน่าที่กลับมาเป็นตัวจริงหรือไม่ เล็กซ์ถูกเปิดโปงความชั่วร้ายในโครงการวิจัยมนุษย์ในภาค 6 ซึ่งหางเลขพลอยไปโดนครอบครัวโลอิส ซึ่งเธอสาบานว่าจะโค่นเล็กซ์ลงให้ได้ โคลอี้ถูกรัศมีโลอิสบดบังในอาชีพนักข่าวเมื่อโลอิสเจอบรรณาธิการเดลี่แพลเน็ตคนใหม่ที่หลงใหลในตัวเธอ อีกทั้งยังตั้งปกปิดพลังพิเศษของตัวเองที่จะกลายเป็นสาเหตุทำให้เสียจิมมี่ แฟนหนุ่มของตัวเองไป จิมมี่หันมาหลงใหลคาร่า ลูกพี่ลูกน้องคลาร์กจากดาวคริปตัน ที่อยู่เพื่อหายานของเธอ และจอร์เอลที่บอกว่าคาร่าเป็นอันตรายกับเขาเพราะพ่อคาร่าเป็นศัตรูกับจอร์เอล
- ภาคที่ 8 (สหรัฐฯ: 2551 - 2552)
หลังจากความวุ่นวายที่เบรนนิแอคก่อไว้ เล็กซ์หายตัวไปหลังรู้ความลับคลาร์ก แต่ก็ส่งตัวแทนของเขา เทสส์ มาดูแลงานแทน แต่เธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นศัตรูกับคลาร์กอย่างที่เล็กซ์เป็น ลาน่าจากคลาร์กไป โลอิสเริ่มสนิทกับคลาร์กมากขึ้น โคลอี้พบว่าชีวิตแต่งงานของเธอกับจิมมี่ไม่ได้ราบรื่น เมื่อเบรนนิแอคตามกลับมาจองเวรเธออีกครั้ง และเธอเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับหนุ่มลึกลับนามเดวิส ซึ่งที่จริงคือปีศาจดูมส์เดย์นั่นเอง นอกจากนี้แล้วได้เกิดฮีโร่ใหม่ขึ้นมาในเมืองที่ทุกคนต่างเรียกเขาว่า The Blur จากการถ่ายภาพมนุษย์ลึกลับที่คอยช่วยเหลือคนให้พ้นจากอันตรายเสมอของจิมมี่ ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและลึกซึ้งนี่จะนำมาสู่ความหายนะและอุปสรรคที่ใหญ่หลวงของคลาร์กที่เขาต้องเผชิญผ่านไปให้ได้
- ภาคที่ 9 (สหรัฐฯ: 2552 - 2553)
คลาร์กตระหนักว่าชะตาของเขาถูกลิขิตมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งนั่นกลายเป็นว่ายิ่งทำให้เขาคิดว่าเขาควรต้องตัดขาดความเป็นมนุษย์ของเขาออกโดยสิ้นเชิง โคลอี้ไม่เห็นด้วยกับทัศนคตินี้รวมถึงยกตัวอย่างความสัมพันธ์ของคลาร์กและโลอิสที่ใกล้ชิดขึ้นมาเป็นตัวอย่าง คลาร์กได้อุทิศตัวเพื่อการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างจริงจัง โลอิสได้เข้ามาทำงานในเดลี่แพลเน็ตและเริ่มมีชื่อเสียง ซึ่งนั่นได้เริ่มนำปัญหามาสู่เธอด้วย แต่คลาร์กในร่างวีรบุรุษผู้ลึกลับก็มักจะตามมาช่วยเธอไว้เสมอ ในขณะเดียวกัน นายพลซ็อดที่หนีออกมาจากคุกอวกาศได้ก็เริ่มสร้างกองทัพเพื่อยึดครองโลกให้เป็นที่แผ่อำนาจแห่งใหม่ของตัวเอง
- ภาคที่ 10 (สหรัฐฯ: 2553 - 2554)
บททดสอบสุดท้ายสำหรับซูเปอร์ฮีโร่มาถึงในที่สุด คลาร์กจำเป็นต้องเรียนรู้ตัวเองเพื่อก้าวสู่ชะตากรรมที่ยิ่งใหญ่ของตนเองในขณะที่โลอิสก็พร้อมเคียงข้างเขาเสมอ ในขณะที่ชีวิตของคลาร์กเองก็ยังคงมีความกลัวและความสงสัยในชะตากรรมที่เขาเป็น โคลอี้ก็หายตัวไปพร้อมกับบรรยากาศรอบกายเขาที่ผิดปกติ ซึ่งกลายเป็นว่าก็มีความพยายามจากดาร์คซิลด์ (Darkseid) ปีศาจร้ายที่หลุดจากการคุมขังในคุกอวกาศที่จะยึดครองโลกอีกครั้ง คลาร์กจึงต้องปกป้องโลกโดยมีชะตากรรมของคนทั้งโลกเป็นเดิมพัน
นักแสดง
แก้- Clark Kent แสดงโดย Tom Welling (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - 10)
- Chloe Sullivan แสดงโดย Allison Mack (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - 10)
- Lois Lane แสดงโดย Erica Durance (ดารารับเชิญพิเศษภาค 4, แสดงประจำตั้งแต่ภาค 5 - 10)
- Tess Mercer แสดงโดย Cassidy Freeman (แสดงประจำภาค 8 - 10)
- Oliver Queen แสดงโดย Justin Hartley (ดารารับเชิญภาค 6 - 7, แสดงประจำภาค 8 - 10)
- Martha Kent แสดงโดย Annette O'Toole (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - ภาค 6, ดารารับเชิญภาค 10)
- Lex Luthor แสดงโดย Michael Rosenbaum (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - 7, ดารารับเชิญภาค 10)
- Lana Lang แสดงโดย Kristin Kreuk (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - 7, ดารารับเชิญภาค 8)
- Lionel Luthor แสดงโดย John Glover (ดารารับเชิญพิเศษภาค 1, แสดงประจำตั้งแต่ภาค 2 - 7, ดารารับเชิญภาค 10)
- Jonathan Kent แสดงโดย John Schneider (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - ภาค 5, ดารารับเชิญภาค 10)
- Pete Ross แสดงโดย Sam Jones III (แสดงประจำตั้งแต่ภาค 1 - ภาค 3, ดารารับเชิญในภาค 7)
- Henry "Jimmy" Olsen แสดงโดย Aaron Ashmore (ดารารับเชิญพิเศษภาค 6, แสดงประจำตั้งแต่ภาค 7 - 8, ดารารับเชิญภาค 10)
- Whitney Fordman แสดงโดย Eric Johnson (แสดงประจำภาค 1, ดารารับเชิญในภาค 2 และ 4)
- Jason Teague แสดงโดย Jensen Ackles (แสดงประจำภาค 4)
- Kara Zor-El แสดงโดย Laura Vandervoort (แสดงประจำภาค 7, ดารารับเชิญภาค 8 และ 10)
- Davis Bloome แสดงโดย Sam Witwer (แสดงประจำภาค 8)
- General Zod แสดงโดย Callum Blue (แสดงประจำภาค 9, ดารารับเชิญภาค 10)
การเรียงลำดับละครในฉากเปิดสมอลวิลล์
แก้ภาคที่ 1-6 จะเรียงลำดับตัวละคร ตามลำดับดังนี้ นักแสดงนำ 3 คน (ทอม เวลลิ่ง, คริสติน ครุก และไมเคิล โรเซ่นบอม) ตามด้วยนักแสดงสมทบ เรียงตามลำดับตัวอักษรต้นของนามสกุล ที่ทำให้มีความสงสัยและขัดแย้งในคนที่ชอบดูสมอลวิลล์เองว่า อัลลิสัน แม็กควรจะขึ้นเป็นนักแสดงนำด้วยหรือไม่ เพราะว่าเธอจะถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 5 ในฉากเปิดละครเสมอและเธอแสดงประจำตั้งแต่ภาคแรก โดยลำดับที่ 4 จะเป็นของนักแสดงที่แสดงน้อยกว่าและตัวละครที่แสดงจะมีบทบาทน้อยกว่าตัวละครของเธอ (โคลอี้) ทั้งสิ้น ส่วนลำดับท้ายเป็นนักแสดงอาวุโส เรียงตามลำดับตัวอักษรต้นของนามสกุล
ภาคที่ 7 เปลี่ยนลำดับการเรียงใหม่ โดยเริ่มที่นักแสดงนำ 4 คน (ทอม เวลลิ่ง, ไมเคิล โรเซ่นบอม, คริสติน ครุก และอัลลิสัน แม็ก) ต่อด้วยนักแสดงสมทบเพียงคนเดียวคือเอริกา ดูแรนซ์ นักแสดงหน้าใหม่ 2 คนเรียงตามอักษรตัวแรกของนามสกุล และนักแสดงอาวุโสที่เหลืออยู่คนเดียว
ภาคที่ 8-9 การเรียงลำดับเรียงตามนักแสดงหลัก 3 คนคือ ทอม เวลลิ่ง, อัลลิสัน แม็ก และเอริกา ดูแรนซ์ จากนั้นก็เรียงตามลำดับอักษรต้นของสกุลภาษาอังกฤษและปิดท้ายด้วยดาราที่อายุมากที่สุดคือ Justin Hartley
ภาคที่ 10 เรียงลำดับนักแสดงนำ 2 คนคือทอม เวลลิ่งและเอริกา ดูแรนซ์ จากนั้นตามด้วยนักแสดงสมทบและปิดท้ายด้วยนักแสดงที่แสดงมาตลอด 9 ภาคคือ Allison Mack
ภาค 1 | ภาค 2 | ภาค 3 | ภาค 4 | ภาค 5 | ภาค 6 | ภาค 7 | ภาค 8 | ภาค 9 | ภาค 10 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แสดงนำ ทอม เวลลิ่ง | |||||||||
คริสติน ครุก | ไมเคิล โรเซ่นบอม | อัลลิสัน แม็ก | เอริกา ดูแรนซ์ | ||||||
ไมเคิล โรเซ่นบอม | คริสติน ครุก | เอริกา ดูแรนซ์ | แคสซิดี้ ฟรีแมน | ||||||
อีริก จอห์นสัน | แซม โจนส์ | เจนเซ่น แอคเคิลส์ | เอริกา ดูแรนซ์ | อัลลิสัน แม็ก | อาร์ร่อน อาชมอร์ | แคสซิดี้ ฟรีแมน | จัสติน ฮาร์ทลี่ย์ | ||
แซม โจนส์ที่สาม | อัลลิสัน แม็ก | เอริกา ดูแรนซ์ | แคสซิดี้ ฟรีแมน | คัลลัม บลู | อัลลิสัน แม็ก | ||||
อัลลิสัน แม็ก | จอห์น โกลเวอร์ | อาร์ร่อน อาชมอร์ | แซม วิทเวอร์ | จัสติน ฮาร์ทลี่ย์ | |||||
เอนเน็ต โอทูลล์ | ลอร่า วันเดอร์วอร์ด | จัสติน ฮาร์ทลี่ย์ | |||||||
จอห์น ชไนเดอร์ | จอห์น โกลเวอร์ |
จำนวนคนดูในสหรัฐอเมริกา
แก้ภาคที่ | ช่องที่ฉาย | เวลาฉาย | คนดู (ล้านคน) | อันดับที่/จำนวนรายการทั้งหมดใน USA ช่วงไพรม์ไทม์ของฟรีทีวี | อันดับที่/จำนวนรายการทั้งหมดในช่อง |
---|---|---|---|---|---|
1 | The WB | อังคาร 3 ทุ่ม | 5.9[5] | 115/158 | 2/26 |
2 | The WB | อังคาร 3 ทุ่ม | 6.3[6] | 113/156 | 2/21 |
3 | The WB | พุธ 2 ทุ่ม | 4.9[7] | 141/210 | 3/31 |
4 | The WB | พุธ 2 ทุ่ม | 4.4[8] | 115/156 | 3/19 |
5 | The WB | พฤหัสบดี 2 ทุ่ม | 4.7[9] | 115/156 | 2/17 |
6 | The CW | พฤหัสบดี 2 ทุ่ม | 4.1[10] | 125/142 | 4/17 |
7 | The CW | พฤหัสบดี 2 ทุ่ม | 3.7[11] | 178/225 | 4/39 |
8 | The CW | พฤหัสบดี 2 ทุ่ม | 3.7[12] | 152/190 | 1/25 |
9 | The CW | ศุกร์ 2 ทุ่ม | 2.4[13] | 129/140 | 6/13 |
10 | The CW | ศุกร์ 2 ทุ่ม | 2.7[14] | 131/141 | 3/12 |
เพลงประกอบละคร
แก้เพลงประกอบละครใน Smallville ปัจจุบันได้ออกวางจำหน่ายทั่วโลก 2 อัลบั้ม คือ The Talon Mix และ Metropolis Mix นอกจากนี้ยังมีอัลบั้ม Smallville: Scores from the Complete Series ซึ่งเป็นการรวมผลงานการประพันธ์เพลงของผู้ดูแลเพลงประกอบหลักของละครสองคน ได้แก่ Mark Snow และ Louis Febre อีกด้วย
The Talon Mix
แก้มีอยู่ทั้งหมด 12 เพลงคือ
- Save Me โดย Remy Zero
- Don't dream it's over โดย Sixpence none the richer
- Island in the sun โดย Weezer
- ซูเปอร์แมน โดย Five for fighting
- Inside Out โดย Vonray
- Everything โดย Lifehouse
- Lonely day โดย Phantom Planet
- Wave Goodbye โดย Steadman
- Fight test โดย Flaming Lips
- Time after time โดย Eva Cassidy
- Nuclear โดย Ryan Adams
- I just wanna be loved โดย AM Radio
Metropolis Mix
แก้มีอยู่ทั้งหมด 15 เพลง คือ
- Forget It โดย Breaking Benjamin
- Precious โดย Depeche Mode
- You and Me โดย Lifehouse
- ซูเปอร์แมน โดย Stereophonics
- Dirty Little Secret โดย All-American Rejects
- Almost Honest โดย Josh Kelley
- All the Money or the Simple Life Honey โดย The Dandy Warhols
- Cold Hands โดย Brendan Benson
- The Girl's Attractive โดย Diamond Nights
- I'm a Human โดย Flashlight Brown
- Wicked Game โดย HIM
- Other Side of the World โดย KT Tunstall
- Hungry Heart โดยMinnie Driver
- Feels Like Today โดย Rascal Flatts
- You Could Be Happy โดย Snow Patrol
หนังสือนิยาย แบบ Fan Fiction
แก้- เจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ผลิต และจัดจำหน่ายโดยบงกชบุ๊คส์
- มี 4 เล่มที่วางขายตามท้องตลาดปัจจุบัน
- Arrival (การจากมา)
- See no Evil (ปริศนาฆาตกรรมล่องหน)
- Speed (เร็วทะลุมิติ)
- Buried Secrets (ความลับในใจ)
การออกวางจำหน่ายแบบ VCD และ DVD
แก้- เจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ผลิต และจัดจำหน่ายโดยบริษัทแคททาลิสต์ อัลลายแอนซ์ จำกัด โดยภาค 3 ออกวางขายเดือนพฤษภาคม 2549 ปัจจุบันที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปมีภาค 7-9
อ้างอิง
แก้- ↑ Darren Sumner (May 10, 2011). "Smallville bows this week — with Stargate's world record". GateWorld. สืบค้นเมื่อ May 11, 2011.
- ↑ Erickson, Hal. "Smallville [TV Series]". Allmovie. Rovi Corporation. สืบค้นเมื่อ January 16, 2013.
- ↑ David Lambert (April 26, 2011). "The Complete Series on DVD: Timeframe, Packaging, New Extras and Answer to 'Why Not On Blu-ray?'". TVShowsOnDVD.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-29. สืบค้นเมื่อ April 26, 2011.
- ↑ David Lambert. "Finalized Date, Bonus Items, Packaging for the Complete Series and The 10th Season Sets". TVShowsOnDVD.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-04. สืบค้นเมื่อ July 26, 2011.
- ↑ "How did your favorite show rate? (2001-02)". USA Today. May 28, 2002.
- ↑ "2002-03 Ratings".
- ↑ "2003-04 Ratings". ABC Medianet. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-30. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08.
- ↑ "2004-05 Primetime Wrap". Hollywood Reporter. May 27, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-12-26. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08.
- ↑ "Series". The Hollywood Reporter. May 26, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-23. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08.
- ↑ "2006-07 primetime wrap". The Hollywood Reporter. May 25, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-29. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08.
- ↑ "Weekly Program Rankings". ABC Medianet. May 20, 2008.
- ↑ "Weekly Program Rankings". ABC Medianet. May 19, 2008.
- ↑ Paul Millar (May 16, 2010). "2.5m watch 'Smallville' season finale". Digital Spy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-25. สืบค้นเมื่อ May 16, 2010.
- ↑ Andreeva, Nellie (May 27, 2011). "Full 2010-2011 TV Season Series Rankings". Deadline. สืบค้นเมื่อ June 1, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- ทางการ
- เว็บไซต์ทางการ
- Official MySpace page
- Town of Smallville, Kansas เก็บถาวร 2005-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- อื่นๆ
- สมอลล์วิลล์ ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- –Smallville ที่ทีวีดอตคอม
- KryptonSite
- Smallville Wiki at Wikia.com – A Smallville wiki encyclopedia.