ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (อังกฤษ: Counter Terrorist Operations Center: CTOC คำย่อ ศตก.) เป็นส่วนปฏิบัติการ ขึ้นตรงต่อกองบัญชาการกองทัพไทย[2] มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นตรงการควบคุมด้านยุทธการ[3]
| ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล | |
|---|---|
 เครื่องหมายศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล | |
| ประจำการ | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 |
| ประเทศ |  ไทย |
| เหล่า | ผสมเหล่าทัพ |
| รูปแบบ | หน่วยรบพิเศษ กำลังยุทธการพิเศษ |
| บทบาท | หน่วยบัญชาการรบตามหน้าที่ การต่อต้านการก่อการร้าย |
| ขึ้นกับ |  กองบัญชาการกองทัพไทย |
| ที่ตั้งหน่วย | เลขที่ 106 ถนนนาวงประชาพัฒนา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210 |
| สมญา | ศตก. / CTOC |
| คำขวัญ | We are one we win |
| เว็บไซต์ | ctoc |
| ผู้บังคับบัญชา | |
| ผู้บัญชาการ | พลโท สุเมธ พรหมตรุษ[1] |
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีคำขวัญว่า We are one we win
ประวัติ
แก้,_CTOC_train_combined_arms_skills_Image_3_of_3.jpg)
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526[4] ตามมติคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นที่สภาความมั่นคงแห่งชาติได้เสนอไป ขณะนั้นใช้ชื่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการข่าวการต่อต้านการก่อการร้ายสากล อยู่ภายใต้สังกัดกองกำลังรักษาพระนคร มีภารกิจหลักในด้านข่าวกรองโดยการต่อต้านการก่อการร้ายสากลทั้งทางยุทธศาสตร์และทางยุทธวิธี โดยมีกองกำลังรักษาพระนครเป็นหน่วยประสานงานส่วนที่เกี่ยวข้อง[5]
_Balance_Torch_17-7_Image_4_of_6.jpg)
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2540 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้โอนศูนย์ปฏิบัติการข่าวการต่อต้านการก่อการร้ายสากลมาอยู่ในสังกัดของกองบัญชาการทหารสูงสุด (กองบัญชาการกองทัพไทยในปัจจุบัน) โดยจัดหน่วยรองรับชื่อว่า ศูนย์อำนวยการร่วม 106 (ศอร.106) ศูนย์อำนวยการร่วม กองบัญชาการกองทัพไทย[5] เพื่อให้เกิดเอกภาพในการทำงานของศูนย์[3][5] พร้อมกันกับศูนย์อำนวยการร่วม 107 (ศอร.107) ดูแลการดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวาเกี่ยวกับการห้ามใช้ทุ่นระเบิดบุคคล ปัจจุบันคือศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการร่วม 108 (ศอร.108) ดูแลด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด[6] และมีมติเห็นชอบอีกครั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2540 มอบหมายให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับงบประมาณประจำปีของศูนย์[3] ในปี พ.ศ. 2546 ศูนย์อำนวยการร่วม 106 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล[7]
จากนั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 หน่วยงานได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นจากศูนย์อำนวยการร่วมเป็นหน่วยปกติ ใช้ชื่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล มีบทบาทและภารกิจในการประสานงาน อำนวยการ วางแผน และดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันปราบปราบการก่อการร้าย และมีหน้าที่ควบคุมทางยุทธการต่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ ที่มีการมอบหมาย[5]
การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลมีการพัฒนามาจากระบบบัญชาการเหตการณ์ (Incident command system) สำหรับการควบคุม อำนวยการ และสั่งการบุคลากรและชุดปฏิบัติการที่มาจากต่างหน่วยงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ตามพื้นฐานจากการฝึกทีมเผชิญสถานการณ์วิกฤต (Crisis response team) ซึ่งมาจากโครงการความช่วยเหลือหน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ (Anti-Terrorism Assistance Program, Department of State) ในช่วงปี พ.ศ. 2540 จนประเทศไทยสามารถที่จะออกเอกสารชื่อว่า คู่มือการปฏิบัติการร่วมในการต่อต้านการก่อการร้าย พ.ศ. 2547 ขึ้นมาเพื่อเป็นแนวปฏิบัติภายในประเทศไทย และได้นำแนวคิดเกี่ยวกับระบบบัญชาการเหตุการณ์มาใส่ไว้ใน แผนแม่บทการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 รวมถึงยังมีการประมวลองค์ความรู้ต่าง ๆ ออกมาเป็น คู่มือระบบบัญชาการเหตุการณ์ กับการจัดการในสภาวะฉุกเฉินของประเทศไทย พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล[5]
นอกเหนือจากการควบคุมทางยุทธการต่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว บุคลากรของศูนย์เองยังได้รับการฝึกให้สังกัดในหน่วยย่อยของศูนย์ในการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย เช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษ, หน่วยปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด, หน่วยแพทย์ และหน่วยอื่น ๆ ที่สนับสนุนภารกิจ[5]
บทบาทหน้าที่
แก้_Balance_Torch_17-7_Image_2_of_6.jpg)
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล มีหน้าที่ในการควบคุมบังคับบัญชาและประสานการปฏิบัติกองกองทัพ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติการในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ โดยใช้ศูนย์เป็นกลไกในการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากการก่อการร้ายสากล ซึ่งมีคณะกรรมการในการรับผิดชอบ 2 ระดับ ได้แก่[7]
- คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล (นอก.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
- คณะอนุกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายสากล (อกรส.) มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน
ในระดับปฏิบัติการ มีศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.) รับหน้าที่ในการวางแผน อำนวยการ ประสานการปฏิบัติการและกำกับดูแลหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีความพร้อมสูง[8] รวมไปถึงส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุภารกิจคือการต่อต้านการก่อการร้ายสากลทุกรูปแบบ[7]
โครงสร้าง
แก้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ประกอบด้วยโครงสร้างหน่วยงาน[9] ดังนี้
- กองกลาง (กกล.)
- กองแผนและโครงการ (กผค.)
- กองข่าว (กขว.)
- กองการฝึก (กกฝ.)
- กองปฏิบัติการพิเศษ (กปษ.)
- แผนกปฏิบัติการพิเศษ
- แผนกสนับสนุนทางยุทธวิธี[10]
- ชุดปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
- ชุดเก็บกู้ และทำลายล้างวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง
- ชุดเครื่องมือพิเศษ และหาข่าวทางยุทธวิธี
- ชุดสื่อสารทางยุทธวิธี
ด้านยุทธการ
แก้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ขึ้นตรงในด้านยุทธการต่อศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล[11][a] มีดังนี้
กองทัพบก
แก้กองทัพเรือ
แก้กองทัพอากาศ
แก้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แก้- อรินทราช 26 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
- นเรศวร 261 กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (ตำรวจพลร่ม) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
การฝึก
แก้_Balance_Torch_17-7_Image_1_of_6.jpg)
การฝึกของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล เป็นการฝึกในรูปแบบของการฝึกร่วมผสมในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างหน่วยงานทั้งส่วนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเอง และการฝึกร่วมเผชิญเหตุกับหน่วยราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้จากภัยการก่อการร้ายสากล ในชื่อว่า การฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ (National Crisis Management Exercise: C-MEX) ซึ่งมีการจัดการฝึกเป็นประจำในทุก ๆ ปี[12] แต่ละปีจะมีโจทย์การฝึกจากรูปแบบภัยคุกคามที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์โลกในขณะนั้น[13]
นอกจากนี้ยังมีการฝึกร่วมผสมกับหน่วยรบพิเศษของชาติพันธมิตรทางการทหารกับประเทศไทย เช่น สหรัฐ มีการฝึกร่วมกันกับกองพันที่ 1 กองรบพิเศษที่ 1 สหรัฐ ในรหัสบาลานซ์ทัช (Balance Torch)[14] และหน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐ (กรีนเบอเรต์)[15] การฝึกร่วมกันกับชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[16] ในการการฝึกภาคสนามของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ณ ประเทศจีนโดยมีกำลังจาก 18 ประเทศในชาติอาเซียนและคู่เจรจารวมกว่า 855 นายเข้าร่วมการฝึก[17]
หมายเหตุ
แก้- ↑ มีการประดับเครื่องหมายหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลักของทั้ง 3 เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่บริเวณหน้าอาคารที่ทำการหลัก[4] และธงปักสัญลักษณ์ประจำหน่วยประดับอยู่ในห้องประชุม[8] มีการเผยแพร่ทางช่องทางต่าง ๆ ของศูนย์ฯ
อ้างอิง
แก้- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 141 ตอนพิเศษ 262 ง 21 กันยายน พ.ศ. 2567
- ↑ "RTARF: กองบัญชาการกองทัพไทย". www.rtarf.mi.th.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 มีนาคม 2540--. "การโอนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล". ryt9.com.
{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 4.0 4.1 dsi.go.th. "กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแสดงความยินดีศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ครบรอบปีที่ 39". dsi.go.th (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 RSUIR at Rangsit University: ความเครียดและแนวทางจัดการความเครียด : กรณีศึกษาศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย. มหาวิทยาลัยรังสิต.
- ↑ "การแปรสภาพเป็น ศอร.บก.ทหารสูงสุด". tncbcc.rtarf.mi.th. กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-09-28. สืบค้นเมื่อ 2023-12-21.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 รายงานสรุปสำหรับผู้บริหาร โครงการศึกษาจัดทำแผนหลักด้านความมั่นคงในภาคการขนส่ง ระยะที่ 1 (PDF). สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม. 2558.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 8.0 8.1 "6 ธันวาคม 2566 พลเอก โดมศักดิ์ คำใสแสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล - RTARF: กองบัญชาการกองทัพไทย". www.rtarf.mi.th.
{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "กรมกำลังพลทหาร - ระเบียบ / คำสั่ง - ระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยคำย่อ พ.ศ.๒๕๕๕". j1.rtarf.mi.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-15. สืบค้นเมื่อ 2023-12-21.
- ↑ "ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล - Knowledge Management". ctoc.rtarf.mi.th.
{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)[ลิงก์เสีย] - ↑ "รถหุ้มเกราะสัญชาติไทย ร่วมสาธิตต่อต้านก่อการร้าย". THE STANDARD. 2019-11-18.
- ↑ "สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จัดฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2566 ภายใต้รหัสการฝึก C – MEX 23". thainews.prd.go.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-12-21. สืบค้นเมื่อ 2023-12-21.
- ↑ "การฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๖ (C - MEX 23) ในประเด็นการฝึกการต่อต้านการก่อการร้าย ประจำปี ๒๕๖๖". สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ. 2023-08-23.
- ↑ "1st SFG (A) Balance Torch 17-7". DVIDS (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "1st SFG (A), CTOC train combined arms skills". DVIDS (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "ศตก.รับถกผู้เชี่ยวชาญต้านก่อการร้าย 18 ชาติคืบหน้า จับมือ 3 มหาอำนาจฝึกร่วมจีน". mgronline.com. 2019-04-26.
- ↑ "ฝึกต่อต้านก่อการร้ายไทย-จีน ครั้งประวัติศาสตร์". Thai PBS.