วิทยาลัยการปกครอง
วิทยาลัยการปกครอง (อังกฤษ: Institute of Administration Development) เป็นสถาบันการฝึกอบรมข้าราชการฝ่ายพลเรือน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2483 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี โดยใช้ชื่อว่า "โรงเรียนข้าราชการฝ่ายปกครอง"[1] รับนักศึกษาที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูร 2 ปี ในระยะแรกใช้พระตำหนักสุวัทนาเป็นหอนอน และพระที่นั่งนงคราญสโมสรเป็นสำนักงานของโรงเรียน จัดการศึกษาเกี่ยวกับวิชาว่าด้วยกฎหมายอาญา หลักการจับกุม สืบสวน สอบสวนคดีอาญา ประวัติศาสตร์ จรรยาของนักปกครอง ขับรถยนต์ ขี่ม้า และยิงปืน เป็นต้น
Institute of Administration Development | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 (84 ปี) |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัดหน่วยงาน | กรมการปกครอง |
เว็บไซต์ | http://www.iadopa.org/ |
ประวัติ
แก้วิทยาลัยการปกครอง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้นเรียกว่า "โรงเรียนข้าราชการฝ่ายปกครอง" รับนักศึกษาที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 ปี โดยใช้พระตำหนักสุวัทนาเป็นหอนอนของนักเรียน และพระที่นั่งนงคราญสโมสรเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ มีการศึกษาวิชาที่ว่าด้วยลักษณะกฎหมายอาญา หลักการจับกุม สืบสวน สอบสวนคดีอาญา ประวัติศาสตร์ จรรยาของนักปกครอง ขับรถยนต์ ขี่ม้า และยิงปืน เป็นต้น
ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนมารับผู้สำเร็จการศึกษาอนุปริญญา และปริญญาธรรมศาสตร์บัณฑิต เข้ามาเป็นปลัดอำเภอ โดยมีการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ดังนี้
- พ.ศ. 2485 ได้รับจัดตั้งเป็นแผนกโรงเรียน ในกรมการปกครอง
- 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 จัดตั้ง โรงเรียนนายอำเภอ
- พ.ศ. 2512 จัดตั้งสถาบันการศึกษา และฝึกอบรมพนักงานเทศบาล (เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนข้าราชการส่วนท้องถิ่น ในปี พ.ศ. 2515)
- 15 มิถุนายน พ.ศ. 2514 จัดตั้ง โรงเรียนปลัดอำเภอ
- 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 จัดตั้ง วิทยาลัยการปกครอง โดยรวมเอาหน่วยงานต่าง ๆ ข้างต้นเข้ามารวมไว้ด้วยกัน
วิทยาลัยการปกครอง เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกรมการปกครอง แต่มีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจาก สำนักและกองต่าง ฯ ตรงที่มีความเป็นสถาบันด้านการให้การศึกษาอบรมแก่บุคลากรของกรมการปกครอง ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ตลอดจนองค์กรประชาชนต่าง ฯ ดังนั้น คณะรัฐมนตรี จึงมีมติแต่งตั้ง คณะกรรมการวิทยาลัยการปกครองขึ้น เพื่อกำกับ ดูแล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารขึ้น เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของวิทยาลัยการปกครอง ดังนี้
- คณะกรรมการวิทยาลัยการปกครอง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ
- ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธานกรรมการ
- เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือผู้แทน กรรมการ
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือผู้แทน กรรมการ
- ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หรือผู้แทน กรรมการ
- รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (ฝ่ายปกครอง) กรรมการ
- อธิบดีกรมวิเทศสหการ หรือผู้แทน กรรมการ
- อธิบดีกรมการปกครอง กรรมการ
- ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนมหาดไทย กรรมการ
- ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กรรมการ
- นายกสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กรรมการ
- รองอธิบดีกรมการปกครอง (ฝ่ายราชการบริหารส่วนท้องถิ่น) กรรมการ
- อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือผู้แทน กรรมการ
- อธิการวิทยาลัยการปกครอง กรรมการและเลขานุการ
- รองอธิการวิทยาลัยการปกครอง (ฝ่ายวิชาการ)กรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ
- รองอธิการวิทยาลัยการปกครอง (ฝ่ายบริหารการฝึกอบรม) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 4 คน
วิทยาลัยการปกครอง มีอำนาจหน้าที่ ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2559 คือ ดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมและพัฒนาข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของกรม รวมทั้งพนักงานฝ่ายปกครอง และปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
วิทยาลัยการปกครอง มีสัญลักษณ์ของวิทยาลัย คือ เข็มวิทยฐานะรูปดอกจันทร์นูน 8 แฉก มีรูปสิงห์อยู่ตรงกลาง เปรียบได้กับ มรรค 8 อันเป็นหลักธรรมของนักปกครอง หมายถึง ความเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ ทำงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ เพียรชอบ ระลึกชอบ และตั้งใจชอบ และมีคำขวัญของวิทยาลัยการปกครอง คือ เรียบ ง่าย ประหยัด สามัคคี มีวินัย ช่วยตนเอง"'
สถานที่
แก้สถานที่ฝึกอบรมของวิทยาลัยการปกครอง ประกอบด้วย
- วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 129 หมู่ที่ 2 ถนนรังสิต–นครนายก (คลอง 6) ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีอาคารฝึกอบรม 4 อาคาร ๆ ได้แก่ โรงเรียนนายอำเภอ โรงเรียนข้าราชการฝ่ายปกครอง โรงเรียนสืบสวนสอบสวนพนักงานฝ่ายปกครอง และโรงเรียนปลัดอำเภอ โดยชั้นบนเป็นที่พัก ชั้นล่างเป็นสำนักงาน ห้องบรรยายและห้องกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนที่อาศัยพื้นที่อาคารภายในวิทยาลัยการปกครองอีก 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสถาบันพัฒนาวิชาชีพการทะเบียน สำหรับเป็นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และนอกจากอาคารฝึกอบรมแล้วยังมีอาคารอื่น ๆ ที่ช่วยสนับสนุนการฝึกอบรม เช่นอาคารสำนักอธิการ อาคารศูนย์เทคโนโลยีการฝึกอบรม หอพระพุทธสีหภูมิบาล อาคารโรงอาหาร อาคารสโมสรวิทยาลัยการปกครอง โรงยิมเนเซี่ยม และสนามกีฬาหลายชนิด สามารถรองรับผู้เข้าอบรม ข้าราชการ และประชาชนที่สนใจค้นคว้าหาความรู้ และการออกกำลังกาย
- ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมภาค ประกอบด้วย 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมภาคเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมภาคเหนือ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมภาคกลาง จังหวัดลพบุรี และศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมภาคใต้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี[2]