รัตนา จงสุทธานามณี
รัตนา จงสุทธานามณี (เกิด 30 มกราคม พ.ศ. 2507) อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (อุตตม สาวนายน) อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลชวน หลีกภัย[1] และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย
รัตนา จงสุทธานามณี | |
---|---|
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย | |
ดำรงตำแหน่ง 21 เมษายน พ.ศ. 2547 – 12 เมษายน พ.ศ. 2555 | |
ถัดไป | สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช |
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 – 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 30 มกราคม พ.ศ. 2507 อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย |
คู่สมรส | วันชัย จงสุทธานามณี |
ประวัติ
แก้รัตนา จงสุทธานามณี เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2507 ที่จังหวัดเชียงราย สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ระดับปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ (การเมืองการปกครอง) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2538[2]สมรสกับ นาย วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มีบุตรชื่อ ร้อยตำรวจเอก ดร. ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
การเมือง
แก้รัตนา จงสุทธนามณี เริ่มทำงานในตำแหน่งเทศมนตรีฝ่ายการศึกษา เทศบาลเมืองเชียงราย หลังจากนั้นจึงได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2538 ในสังกัดพรรคชาติพัฒนา เป็นสมัยแรก และได้รับเลือกตั้งอีกในสมัยต่อมา หลังจากนั้นได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่นในนามอิสระ[3] โดยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายสองสมัย ในปี พ.ศ. 2547 ชนะนางสลักจฤฎดิ์ (ชื่อเดิม สลักจิต) ติยะไพรัช ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช และได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในปี พ.ศ. 2551
ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายปี พ.ศ. 2555 รัตนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งโดยแข่งกับนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช [4] โดยนางสลักจฤฎดิ์ได้รับเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามนางสลักจฤฎดิ์ได้กระทำความผิดตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ศาลฎีกาจึงได้พิพากษาจำคุกและเพิกถอนสิทธิทางการเมือง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 ประมวลกฎหมายอาญา และกระทำการอันเป็นเท็จตาม พรบ.เลือกตั้งสภาท้องถิ่นหรือบริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ตามมาตรา 114[5]
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 รัตนา จงสุทธานามณี ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[6]
การทำงาน
แก้ในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย (สลากกินแบ่งรัฐบาล) และเมื่อดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้ง "โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย" เป็นโรงเรียนในสังกัดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยใช้โมเดลการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบหรือโรงเรียนแห่งการคิด(Thinking School) เปิดคู่กับหลักสูตรกีฬา[7] จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ อบจ.เชียงราย (Discovery Center) และศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์เมืองเชียงราย 750 ปี
นอกเหนือจากนั้นเป็นผู้ริเริ่มจัดงานเชียงรายดอกไม้งาม โดยนำดอกไม้จากเกษตรกรจังหวัดเพื่อส่งเสริมให้สามารถปลูกพืชและดอกไม้เมืองหนาวที่มีมูลค่าสูง[8] และได้จัดตั้งสวนไม่งามริมน้ำกก อันเป็นสถานที่จัดงานเรื่อยมา
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แก้- พ.ศ. 2550 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[9]
- พ.ศ. 2542 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๕/๒๕๔๒ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางรัตนา จงสุทธนามณี)
- ↑ "ประวัติผู้สมัคร ส.ส." คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-14. สืบค้นเมื่อ 2012-01-07.
- ↑ พลังประชาชน...ร่ายมนต์เมืองเหนือ! แต่ยังแพ้"จงสุทธนามณี"และเมืองชาละวัน [ลิงก์เสีย]
- ↑ ข่าวสด
- ↑ คุก5ปี ถอนสิทธิเลือกตั้ง10ปีเมียยงยุทธ ติยะไพรัช ไทยรัฐ
- ↑ สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 20 สิงหาคม 2562
- ↑ โรงเรียนอบจ.
- ↑ เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 9[ลิงก์เสีย]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-10-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๑๘ ข หน้า ๒๙, ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-10-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๕๘, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๒