ยูลีอาน นาเกิลส์มัน
ยูลีอาน นาเกิลส์มัน (เยอรมัน: Julian Nagelsmann; เกิด 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1987) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ฝึกสอนให้แก่หลายสโมสรในบุนเดิสลีกา ได้แก่ เทเอ็สเก 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์, แอร์เบ ไลพ์ซิช และไบเอิร์นมิวนิก นาเกิลส์มันเป็นผู้ฝึกสอนอายุน้อยที่ได้รับการจับตามองคนหนึ่งในปัจจุบัน เขาเป็นผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่พาทีมคว้าชัยชนะในรอบแบ่งกลุ่ม, ชนะในรอบแพ้คัดออก, พาทีมเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ รวมทั้งเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดที่คุมสโมสรครบ 100 นัดในบุนเดิสลีกา
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
วันเกิด | 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1987 | ||
สถานที่เกิด | ลันทซ์แบร์คอัมเล็ช เยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 1.89 m (6 ft 2 1⁄2 in)[1] | ||
ตำแหน่ง | เซ็นเตอร์แบ็ก | ||
สโมสรเยาวชน | |||
–2002 | เอ็ฟเซ เอาคส์บวร์ค | ||
2002–2006 | 1860 มึนเชิน | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2006–2007 | 1860 มึนเชิน 2 | 0 | (0) |
2007–2008 | เอ็ฟเซ เอาคส์บวร์ค 2 | 0 | (0) |
จัดการทีม | |||
2016–2019 | 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ | ||
2019–2021 | แอร์เบ ไลพ์ซิช | ||
2021–2023 | ไบเอิร์นมิวนิก | ||
2023– | เยอรมนี | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
เขาเกิดในรัฐไบเอิร์น (บาวาเรีย) และเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพแต่ยุติการเล่นตั้งแต่อายุเพียง 20 ปีจากปัญหาอาการบาดเจ็บ จากนั้นเขาผันตัวไปทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนให้แก่ทีมเยาวชนของฮ็อฟเฟินไฮม์ใน ค.ศ. 2010 และรับตำแหน่งคุมทีมชุดใหญ่ของสโมสรใน ค.ศ. 2015 โดยพาทีมจบอันดับสามในบุนเดิสลีกา และได้สิทธิ์แข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เขาอำลาสโมสรเพื่อไปคุมทีมไลพ์ซิชใน ค.ศ. 2019 และพาทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ค.ศ. 2020 และยังมีผลงานโดดเด่นด้วยการพาทีมคว้ารองแชมป์สองรายการในบุนเดิสลีกา และเดเอ็ฟเบ-โพคาล 2021 นาเกิลส์มันย้ายไปคุมทีมไบเอิร์นมิวนิกใน ค.ศ. 2021 ด้วยมูลค่าสัญญา 25 ล้านยูโร (21.7 ล้านปอนด์) ซึ่งเป็นสถิติโลกสำหรับตำแหน่งผู้จัดการทีม พาทีมชนะเลิศบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2021–22 และเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ 2021 และ 2022 ก่อนจะถูกยกเลิกสัญญาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2023 และรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติเยอรมนีในเดือนกันยายน
นาเกิลส์มันได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมนี ค.ศ. 2017, รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมโดยสหภาพนักฟุตบอลอาชีพเยอรมนี (VDV) ในปีเดียวกัน และคว้าอันดับสามในการประกาศรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมแห่งปีประจำฤดูกาล 2019–20 โดยสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป
การจัดการทีม
แก้ช่วงแรก
แก้นาเกิลส์มันร่วมงานกับสโมสรฮ็อฟเฟินไฮม์เป็นสโมสรแรก โดยมีบทบาทในการดูแลทีมเยาวชนต่อมาอีกหลายปี[2] และเคยเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2012–13 และได้รับบทบาทหลักในการดูแลทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีให้แก่สโมสรจนถึง ค.ศ. 2016[3] และพาทีมชนะเลิศฟุตบอลลีกรุ่นเยาวชนในฤดูกาล 2013–14 ในช่วงเวลาที่เขารับหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้ทีม เขาได้รับฉายาโดยทิม วีเซอ อดีตผู้รักษาประตูอาชีพว่า "Mini-Mourinho"[4]
เทเอ็สเก 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์
แก้นาเกิลส์มันได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ฝึกสอนทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2015 แต่มีกำหนดเริ่มงานในฤดูกาล 2016–17 ด้วยระยะเวลาการจ้างสามปี โดยเขามีอายุเพียง 28 ปีในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง ถือเป็นผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดิสลีกา[5] เขาเข้ารับตำแหน่งต่อจากฮืบ สเตเฟนส์ ซึ่งประกาศลาออกจากปัญหาสุขภาพ
ในวันที่นาเกิลส์มันรับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 นั้น สโมสรอยู่ในอันดับ 17 ของตารางและต้องหนีตกชั้น มีคะแนนห่างจากพื้นที่ปลอดภัยในอันดับ 15 ถึง 7 คะแนน[6] เขาพาทีมรอดพ้นการตกชั้นจากการชนะ 7 จาก 14 นัดสุดท้ายในลีก และมีคะแนนมากกว่าพื้นที่เพลย์ออฟเพื่อหนีตกชั้นเพียงคะแนนเดียว และพาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องด้วยการจบสูงถึงอันดับ 4 ในบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2016–17 ได้ลงแข่งขันรอบคัดเลือกรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร[7] ส่งผลให้เขาได้รับการขยายสัญญาไปจนสิ้นสุดฤดูกาล 2021 อย่างไรก็ตาม สโมสรแพ้ลิเวอร์พูลในรอบคัดเลือกดังกล่าวด้วยผลประตูรวมสองนัด 3–6 และจบอันดับสุดท้ายในยูโรปาลีกจากการชนะเพียงนัดเดียวต่อสโมสรอิสตันบูลบาชักเชฮีร์ แต่พวกเขายังคงทำผลงานในฟุตบอลลีกได้ยอดเยี่ยมโดยจบอันดับสาม ได้สิทธิแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกโดยอัตโนมัติ
ในฤดูกาลต่อมา นาเกิลส์มันกลายเป็นผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในวัย 31 ปี และ 58 วัน โดยทำสถิติดังกล่าวในการพาทีมลงสนามนัดแรกพบกับชัคตาร์ดอแนตสก์[8] แต่ทีมของเขาต้องตกรอบจากผลงานเสมอ 3 และแพ้ 3 นัด จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ต่อมาในวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2018 สโมสรประกาศว่านาเกิลส์มันจะอำลาทีมเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2018–19[9] เขาคุมสโมสรครบ 100 นัดในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 ในนัดที่แพ้ไบเอิร์นมิวนิก 1–3 และถือเป็นผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดของลีกสูงสุดฟุตบอลเยอรมนีที่คุมสโมสรครบ 100 นัดในลีก[10]
แอร์เบ ไลพ์ซิช
แก้นาเกิลส์มันเข้ารับตำแหน่งผู้ฝึกสอนให้สโมสรแอร์แบ ไลพ์ซิชในวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2018 มีกำหนดเริ่มงานในฤดูกาล 2019–20 ด้วยสัญญาสามปีจนถึงปี 2023[11] เขาคุมทีมนัดแรกด้วยการเอาชนะแอร์สเทอร์ เอ็ฟเซ อูนีโอนแบร์ลีน 4–0 และเสมอไบเอิร์นมิวนิก 1–1[12] และด้วยวัย 32 ปี และ 56 วัน เขากลายเป็นผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดที่พาทีมคว้าชัยชยะในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในวันที่ 17 กันยายน เมื่อไลพ์ซิชบุกไปชนะสปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา 2–1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ต่อมา ในการแข่งขันนัดที่ 10 ของบุนเดิสลีกา เขาพาทีมเอาชนะแอร์สเทอร์ เอ็ฟเอ็สเฟา ไมนทซ์ 05 ขาดลอย 8–0 รวมทั้งพาไลพ์ซิชเอาชนะสโมสรเก่าอย่างฮ็อฟเฟินไฮม์ 3–1 ในนัดที่ 14[13] ไลพ์ซิชยังผ่านเข้ารอบแพ้คัดออกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในฐานะแชมป์รอบแบ่งกลุ่ม และในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2020 หลังจากพาทีมเอาชนะทอตนัมฮอตสเปอร์ที่คุมทีมโดยโชเซ มูรีนโย 4–0 นาเกิลมันส์ทำสถิติเป็นผู้ฝึกสอนอายุน้อยที่สุดที่พาสโมสรชนะในรอบแพ้คัดออกในรายการนี้[14] ไลพ์ซิชยังเอาชนะอัตเลติโกเดมาดริดในรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้พาสโมสรเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ[15] แต่ทีมของเขาต้องยุติเส้นทางที่รอบดังกล่าวจากการแพ้ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 0–3[16] และสโมสรยังเข้ารอบแพ้คัดออกได้อีกครั้งในฤดูกาล 2020–21 แต่แพ้ลิเวอร์พูล และไลพ์ซิชจบอันดับสองในลีก รวมถึงแพ้โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในเดเอ็ฟเบ-โพคาล 2021 รอบชิงชนะเลิศ
ไบเอิร์นมิวนิก
แก้นาเกิลส์มันรับตำแหน่งผู้ฝึกสอนไบเอิร์นมิวนิกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2021 ด้วยระยะเวลาว่าจ้างห้าปี มีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคมปีเดียวกัน แทนที่ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค และด้วยมูลค่าสัญญากว่า 25 ล้านยูโร เขาจึงกลายเป็นผู้ฝึกสอนที่มีมูลค่าฉีกสัญญาสูงที่สุดในโลก[17]
การคุมทีมนัดแรกของนาเกิลส์มันคือการพาทีมเสมอโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค ด้วยผลประตู 1–1[18] ชัยชนะนัดแรกกับสโมสรใหม่ของเขาเกิดขึ้นในการชนะโบรุสซีอาดอร์ทมุนด์ ในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ 2021 ด้วยผลประตู 3–1 และยังเป็นการคว้าถ้วยรางวัลใบแรกกับสโมสร[19] ต่อมา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ไบเอิร์นมิวนิกเอาชนะเบรเมอร์ เอ็สเฟาในเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2021–22 ด้วยผลประตู 12–0 ซึ่งเป็นการชนะที่ขาดลอยที่สุดในรอบ 24 ปีของสโมสรนับตั้งแต่เอาชนะเดเจคา วาลด์เบิร์ก 16–1 ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1997[20] ไบเอิร์นมิวนิกตกรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 2022 จากการแพ้บิยาร์เรอัลด้วยผลประตูรวม 1–2[21] แต่สโมสรยังจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์บุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2021–22 โดยคว้าแชมป์ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีกสามนัด เขาชนะถ้วยรางวัลใบที่สามด้วยการเอาชนะทีมเก่าอย่างแอร์เบ ไลพ์ซิชในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ 2022 และยังพาทีมชนะทุกนัดในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน โดยอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมใหญ่อย่างอินเตอร์มิลาน และบาร์เซโลนา และเป็นการคุมทีมชนะในรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้ 14 นัดติดต่อกันนับรวมสมัยคุมไลพ์ซิชอีกสองนัด ทาบสถิติของลูวี ฟัน คาล แต่ก็ต้องยุติเส้นทางที่รอบต่อมาจากการแพ้ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ด้วยผลประตูรวมสองนัด 0–3
ต่อมาในวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2023 หลังจบการแข่งขันที่ไบเอิร์นมิวนิกแพ้ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน 1–2 นาเกิลส์มันได้รับแจ้งจากสโมสรว่าเขาถูกปลดจากตำแหน่ง ในขณะที่เขาพักผ่อนอยู่ที่ประเทศออสเตรีย ในขณะนั้นสโมสรมีคะแนนตามหลังดอร์ทมุนด์หนึ่งคะแนนในบุนเดิสลีกา เขาถูกแทนที่โดยโทมัส ทุคเคิล[22] การตัดสินใจดังกล่าวมาจากผู้บริหารอย่างอ็อลลีเวอร์ คาห์น และผู้อำนวยการกีฬาอย่างฮาซาน ซาลิฮามิดชิช และประธานกรรมการสโมสรอย่างเฮอร์เบิร์ต ไฮเนอร์ โดยผู้บริหารระบุว่าสาเหตุหลักมาจากผลงานของทีมที่ไม่แน่นอนหลังจบการแข่งขันฟุตบอลโลก และทีมต้องการยกระดับผลงานหลังจากนี้รวมถึงวางการวางแผนในฤดูกาลถัดไป การปลดนาเกิลส์มันมีขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้าการแข่งขันแดร์คลัสซิคเคอร์ และรอบก่อนรองชนะเลิศเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2022–23 ที่จะพบกับเอ็สเซ ไฟรบวร์ค รวมถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับแมนเชสเตอร์ซิตี[23]
นาเกิลส์มันอำลาทีมไปด้วยเปอร์เซนต์การคว้าชัยชนะสูงถึง 71.4 โดยมีเพียงแป็ป กวาร์ดิออลา, การ์โล อันเชลอตตี และฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค ที่พาทีมเก็บคะแนนโดยเฉลี่ยในลีกได้มากกว่าเขา
ทีมชาติเยอรมนี
แก้ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2023 นาเกิลส์มันรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติเยอรมนี เพื่อลงแข่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ซึ่งเยอรมนีเป็นเจ้าภาพโดยเป็นครั้งที่สองในอาชีพที่เขารับตำแหน่งแทนที่ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค และเซ็นสัญญาไปถึง 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 ด้วยวัย 36 ปี เขาถือเป็นผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุดเป็นลำดับสองของทีมชาติเยอรมนี ตามหลังอ็อทโต แนทซ์ (34 ปี ค.ศ. 1926)[24] ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 2024 เขาได้รับการขยายสัญญาไปจนจบฟุตบอลโลก 2026[25] ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เยอรมนีอยู่ร่วมกลุ่มกับสวิตเซอร์แลนด์, ฮังการี, สกอตแลนด์ มีผลงานชนะ 2 และแพ้ 1 นัด ตามด้วยการชนะเดนมาร์กในรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2–0 และยุติเส้นทางในรอบต่อมาด้วยการแพ้สเปนในช่วงต่อเวลา 1–2 โดยเยอรมนีเสียประตูในนาทีที่ 119 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2024 เขากลายเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติที่อายุน้อยที่สุดในรายการ ด้วยวัย 36 ปี และ 327 วัน[26]
สถิติการคุมทีม
แก้- ณ วันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2023
ทีม | ตั้งแต่ | ถึง | สถิติ | อ้างอิง | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เกม | ชนะ | เสมอ | แพ้ | % | ||||
1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ | 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016[27][28] | 30 มิถุนายน ค.ศ. 2019[29] | 136 | 55 | 43 | 38 | 40.4 | [30] |
แอร์เบ ไลพ์ซิช | 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 | 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021 | 95 | 54 | 22 | 19 | 56.8 | |
ไบเอิร์นมิวนิก | 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 | 23 มีนาคม ค.ศ. 2023 | 84 | 60 | 14 | 10 | 71.4 | |
รวมทั้งหมด | 315 | 169 | 79 | 67 | 53.7 | — |
ชีวิตส่วนตัว
แก้เมื่ออายุ 20 ปี นาเกิลส์มันส์สูญเสียบิดาจากการฆ่าตัวตาย นาเกิลส์มันเป็นมังสวิรัติ มีงานอดิเรกคือการปีนเขา, สกี, ฮอกกี้ และจักรยานเสือภูเขา[31] เขาสมรสกับอดีตภรรยา และมีบุตรสองคนในปี 2018 และแยกทางเมื่อปี 2023[32]
เกียรติประวัติ
แก้ผู้จัดการทีม
แก้ไบเอิร์นมิวนิก
แก้ส่วนบุคคล
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "1899: Julian macht Nägel mit Köpfen". Rhein-Neckar-Zeitung (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 18 October 2020.
- ↑ "Who is Nagelsmann? – DW – 10/27/2015". dw.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ sport, Guardian (2016-02-11). "Hoffenheim appoint 28-year-old Julian Nagelsmann as head coach". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ Krämer, Christian (2015-10-27). "TSG 1899 Hoffenheim: Wer ist dieser Julian Nagelsmann?". Der Spiegel (ภาษาเยอรมัน). ISSN 2195-1349. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Hoffenheim appoint 28-year-old manager Julian Nagelsmann". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2015-10-27. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Julian Nagelsmann: Hoffenheim boss taking Bundesliga by storm". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2016-11-14. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Bundesliga heute | Spielplan & Ergebnisse | 10. Spieltag | 2024/25". kicker (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ "Champions League Extra Time: Julian Nagelsmann becomes comp's youngest ever manager". Fox Sports (ภาษาอังกฤษ). 2018-09-20.
- ↑ "Julian Nagelsmann: Hoffenheim coach to join RB Leipzig after 2018-19 season". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2018-06-21. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Leon Goretzka double helps Bayern Munich down Hoffenheim". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Bestätigt: Nagelsmann ab 2019 Trainer bei RB Leipzig". kicker (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ "Bundesliga | Matchday 4 | Season 2019-2020". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Bundesliga | Matchday 10 | Season 2019-2020". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Nagelsmann praises RB Leipzig for sticking to style in Tottenham win | FOX Sports Asia". web.archive.org. 2020-03-11.
- ↑ "Julian Nagelsmann: 10 things on Germany's ex-Bayern Munich and RB Leipzig coach". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "RB Leipzig 0-3 Paris St-Germain: PSG reach first Champions League final". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2020-08-17. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Introducing Julian Nagelsmann: The most expensive coach in football history". MARCA (ภาษาอังกฤษ). 2021-04-27.
- ↑ "Bayern München Spielplan 2021/22 | Alle Wettbewerbe". kicker (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ "Robert Lewandowski double as Bayern Munich overcome Borussia Dortmund to win the Supercup". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Bremer SV 0-12 Bayern Munich: Eric Maxim Choupo-Moting scores four". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2021-08-25. สืบค้นเมื่อ 2024-11-17.
- ↑ "Villarreal Knock Bayern Munich Out To Set Up Meeting With Either Liverpool Or Benfica". SI (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2024-10-25.
- ↑ "FC Bayern feuert Julian Nagelsmann! Thomas Tuchel wird Bayern-Trainer!". bild.de (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ www.eurosport.de https://www.eurosport.de/geoblocking.shtml.
{{cite web}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ "Julian Nagelsmann ist neuer Fußball-Bundestrainer – DW – 22.09.2023". dw.com (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ "Bundestrainer Nagelsmann verlängert Vertrag bis zur WM 2026". www.dfb.de (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ UEFA.com. "The official website for European football". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Hoffenheim appoint 28-year-old Julian Nagelsmann as head coach". The Guardian. 11 February 2016. สืบค้นเมื่อ 11 February 2016.
- ↑ Dunbar, Ross (12 February 2016). "Hoffenheim unveil Julian Nagelsmann, youngest coach in Bundesliga history". Deutsche Welle. สืบค้นเมื่อ 12 February 2016.
- ↑ "Julian Nagelsmann: Hoffenheim coach to join RB Leipzig after 2018–19 season". BBC Sport. 21 June 2018. สืบค้นเมื่อ 9 July 2018.
- ↑ "TSG Hoffenheim". Kicker (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 21 September 2016.
- ↑ "FC Bayern: Ernährung - deshalb ist Julian Nagelsmann nun Vegetarier - WELT". DIE WELT (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ "Julian Nagelsmann Wife - Verena Nagelsmann". ohmyfootball.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Robert Lewandowski double as Bayern Munich overcome Borussia Dortmund to win the Supercup". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Sadio Mane debut goal helps Bayern Munich to Supercup win over RB Leipzig". www.bundesliga.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Philipp Lahm ist Fußballer des Jahres 2016/2017". kicker (ภาษาเยอรมัน).
- ↑ UEFA.com. "The official website for European football". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ).