ปลูตาร์โคส
ปลูตาร์โคส (กรีก: Πλούταρχος, [ˈplúːtarkʰos]; ราว ค.ศ. 46 – ราว ค.ศ. 120) หรือรู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า พลูทาร์ก (อังกฤษ: Plutarch) และในชื่อภาษาโรมันซึ่งเขาได้ใช้เมื่อกลายมาเป็นพลเมืองโรมันคือ ลูกิอุส เม็สตริอุส ปลูตาร์คุส (ละติน: Lvcivs Mestrivs Plvtarchvs;[1]) เป็นนักประวัติศาสตร์ นักเขียนชีวประวัติ นักเขียนบทความ และนักปรัชญาเพลโตชาวชาวโรมันเชื้อสายกรีกผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเขียนชีวประวัติและสาขาวิชาต่าง ๆ
ปลูตาร์โคส | |
---|---|
หน้าปกหนังสือของปลูตาร์โคส | |
เกิด | ราว ค.ศ. 46 ไครอเนอา, โบยอตีอา |
เสียชีวิต | ราว ค.ศ. 120 เดลฟี, พอกิส |
สัญชาติ | ชาวโรมันเชื้อสายกรีก |
ชื่ออื่น | ลูกิอุส แม็สตริอุส ปลูตาร์คุส |
อาชีพ | นักประวัติศาสตร์, นักเขียนชีวประวัติ, นักเขียนบทความ และนักปรัชญาเพลโต |
ยุคสมัย | คริสต์ศตวรรษที่ 1 และ 2 |
ผลงานเด่น | ชีวิตของชาวกรีกและโรมันชนชั้นขุนนาง และ โมราเลีย |
แบบแผนการกล่าวถึง | ชีวประวัติและอื่น ๆ |
ตำแหน่ง | นักประวัติศาสตร์ |
คู่สมรส | ตีมอกเซนา |
บิดามารดา |
|
นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน |
งานเขียนที่สำคัญของปลูตาร์โคสก็คือ ชีวิตของชาวกรีกและโรมันชนชั้นขุนนาง (Parallel Lives) และ โมราเลีย (Moralia)[2] ปลูตาร์โคสเกิดในครอบครัวจากตระกูลสูงในเคโรเนียที่อยู่ทางตะวันออกของเดลฟีราว 20 ไมล์
ชีวิตเบื้องต้น
แก้ปลูตาร์โคสเกิดราวปี ค.ศ. 46 ในเมืองเล็ก ๆ ชื่อไครอเนอา (Χαιρώνεια) ในบริเวณที่เรียกว่าโบยอตีอา (Βοιωτία) ในกรีซ ชื่อของพ่ออาจจะเป็นนีการ์คุสที่สันนิษฐานจากการตั้งชื่อตามธรรมเนียมกรีกที่ตั้งชื่อข้ามชั่วคน ครอบครัวมีฐานะดี ปู่ของปลูตาร์โคสชื่อลัมปรีอัสตามที่บันทึกใน โมราเลีย[3] ปลูตาร์โคสกล่าวถึงพี่น้องชายตีมอนและลัมปรีอัสหลายครั้งในบทความที่เขียน และเมื่อกล่าวถึงตีมอนก็เป็นกล่าวถึงด้วยความรัก ในปี ค.ศ. 1624 รุอาลดุส (Rualdus) กล่าวในงานเขียน ชีวิตของปลูตาร์โคส ว่ามีภรรยาชื่อตีมอกเซนาจากหลักฐานงานเขียนของปลูตาร์โคสเอง ที่เป็นจดหมายที่เขียนถึงภรรยาขอร้องไม่ให้เศร้าโศกจนเกินควรจากการสูญเสียลูกสาวคนโตสองคนที่คนหนึ่งชื่อตีมอกเซนาเช่นเดียวกับแม่ สิ่งที่น่าสนใจในจดหมายฉบับนี้คือนัยยะที่ปลูตาร์โคสกล่าวถึงความเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด (reincarnation)
จำนวนลูกชายของปลูตาร์โคสไม่เป็นที่ทราบ แต่ลูกชายสองคนในจำนวนนั้น คือ เอาโตบูลุสและปลูตาร์โคส (ชื่อเดียวกับพ่อ) ได้รับการกล่าวถึงบ่อยครั้ง ปลูตาร์โคสเขียนอุทิศให้ลูกสองคนนี้ในศาสตรนิพนธ์เกี่ยวกับบทสนทนาไทมีอัสของเพลโต เมื่อเอาโตบูลุสแต่งงาน ปลูตาร์โคสก็กล่าวถึงในบทเขียน เทเบิลทอล์ก อีกบุคคลหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงคือโซกลารุสซึ่งกล่าวถึงที่เป็นนัยยะว่าเป็นลูก แต่ก็ระบุเป็นที่แน่นอนไม่ได้ ศาสตรนิพนธ์ที่เกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับการแต่งงานซึ่งกล่าวถึงยูริดิซี (Eurydice) และป็อลลิอานุส (Pollianus) ก็ดูเหมือนจะพูดว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัว แต่ก็สรุปไม่ได้ว่าเป็นลูกสาวหรือไม่[4]
ปลูตาร์โคสศึกษาคณิตศาสตร์และปรัชญาที่สถาบันเพลโต (Platonic Academy) แห่งเอเธนส์ภายใต้การดูแลของแอมโมเนียสแห่งเอเธนส์ (Ammonius of Athens) ระหว่างปี ค.ศ. 66 ถึงปี ค.ศ. 67[5] เขามีเพื่อนผู้มีอิทธิพลหลายคนที่รวมทั้งกวินตุส ซอซิอุส แซแนกิโอ (Qvintvs Sosivs Senecio) และกาอิอุส มินิกิอุส ฟุนดานุส (Gaivs Minicivs Fvndanvs) ทั้งสองเป็นสมาชิกวุฒิสภาคนสำคัญที่ปลูตาร์โคสอุทิศงานบางชิ้นให้ต่อมา[ต้องการอ้างอิง] ปลูตาร์โคสเดินทางอย่างกว้างไกลในบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนที่รวมทั้งกรีซตอนกลาง, สปาร์ตา, คอรินท์, เปตรา, ซาร์ดีส, อเล็กซานเดรีย และไปยังโรมสองครั้ง
เมื่อได้เป็นพลเมืองโรมันปลูตาร์โคสก็เปลี่ยนชื่อเป็น "ลูกิอุส แม็สตริอุส ปลูตาร์คุส" โดยมีกงสุลลูกิอุส แม็สตริอุส โฟลรุส (Lvcivs Mestrivs Florvs) เป็นผู้รับรองที่ปลูตาร์โคสใช้เป็นแหล่งข้อมูลในหนังสือ ชีวิตของออโท[6]
อ้างอิง
แก้- ↑ The name Mestrius or Lucius Mestrius was taken by Plutarch, as was common Roman practice, from his patron for Roman citizenship in the empire; in this case Lucius Mestrius Florus, a Roman consul.
- ↑ "Plutarch". Oxford Dictionary of Philosophy.
- ↑ Symposiacs, Book IX, questions II & III
- ↑ Aubrey Stewart, George Long. "Life of Plutarch". Plutarch's Lives, Volume I (of 4). The Gutenberg Project. สืบค้นเมื่อ 2007-01-03.
- ↑ "Plutarch Bio (46c.-125)". The Online Library of Liberty. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-10. สืบค้นเมื่อ 2006-12-06.
{{cite web}}
: ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ Plutarch, Otho 14.1