พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส
พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส (อังกฤษ: Louis X of France,[1] Louis the Quarreller, Louis the Headstrong, Louis the Stubborn; ฝรั่งเศส: Louis X de France, Louis X le Hutin; ตุลาคม ค.ศ. 1289 - 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศสแห่งราชวงศ์กาเปเตียง ผู้ทรงครองราชบัลลังก์ฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1314 ต่อจากพระราชบิดา จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316
พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 | |
---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส | |
ครองราชย์ | 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1314 - 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316 |
ราชาภิเษก | 24 สิงหาคม ค.ศ. 1315 |
ก่อนหน้า | ฟีลิปที่ 4 |
ถัดไป | ฌ็องที่ 1 |
พระมหากษัตริย์แห่งนาวาร์ | |
ครองราชย์ | 4 เมษายน ค.ศ. 1305 – 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316 |
ราชาภิเษก | 1 ตุลาคม ค.ศ. 1307 |
ก่อนหน้า | ฌานที่ 1 และ ฟีลิปที่ 1 |
ถัดไป | ฌ็องที่ 1 |
พระราชสมภพ | ตุลาคม ค.ศ. 1289 ปารีส ในประเทศฝรั่งเศส |
สวรรคต | 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316 แวงแซนน์ ในประเทศฝรั่งเศส |
พระอัครมเหสี | มาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส เคลเม็นเชียแห่งฮังการี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส |
พระราชบุตร | ฌานที่ 2 แห่งนาวาร์ พระเจ้าจอห์นที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
ราชวงศ์ | กาเปเตียง |
พระราชบิดา | พระเจ้าฟีลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส |
พระราชมารดา | สมเด็จพระราชินีนาถโจนที่ 1 แห่งนาวาร์ |
พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 เสด็จพระราชสมภพเมื่อราวเดือนตุลาคม ค.ศ. 1289 ที่ปารีสในประเทศฝรั่งเศส พระองค์เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าฟีลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศสและ สมเด็จพระราชินีนาถโจนที่ 1 แห่งนาวาร์ ทรงได้รับตำแหน่งเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งนาวาร์” หลังจากที่พระมารดาสวรรคตเมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1305 รัชสมัยของพระองค์เป็นรัชสมัยที่สั้นและไม่มีเหตุการณ์สำคัญเท่าใดนักนอกไปจากความขัดแย้งระหว่างขุนนางฝ่ายต่าง ๆ ในราชอาณาจักร
กษัตริย์แห่งนาวาร์และการสมรสครั้งแรก
แก้พระเจ้าหลุยส์เสด็จพระราชสมภพในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1289 โดยทรงเป็นพระราชโอรสคนโตของพระเจ้าฟีลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศสกับสมเด็จพระราชินีนาถโจนที่ 1 แห่งนาวาร์ ทรงมีพี่น้องที่มีชีวิตจนถึงวัยผู้ใหญ่สามคน คือ ฟีลิป (ต่อมาคือพระเจ้าฟีลิปที่ 5 แห่งฝรั่งเศส), ชาร์ลส์ (ต่อมาคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แห่งฝรั่งเศส) และอีซาแบล (ต่อมาเป็นพระราชินีคู่สมรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ) ส่วนพี่น้องอีกสามคน คือ มาร์เกอรีต, บล็องช์ และรอแบร์ สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก
ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1305 ขณะมีพระชนมายุได้ 15 พรรษา พระราชินีนาถฌานที่ 1 นาวาร์ พระราชมารดาของหลุยส์เสด็จสวรรคต หลุยส์ในฐานะพระราชโอรสคนโตจึงได้สืบทอดตำแหน่งเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 1 แห่งนาวาร์และเคานต์แห่งช็องปาญ โดยทรงเข้ารับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งนาวาร์ที่ปัมโปลนา ในอาสนวิหารซันตามารีอาเอลเรอัล เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1307[2]
วันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1305 หลังมีพระชนมายุครบ 16 พรรษาได้ไม่นาน พระเจ้าหลุยส์แห่งนาวาร์ได้สมรสกับมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญ ธิดาของรอแบร์ที่ 2 ดยุคแห่งบูร์กอญกับแอนเญ็สแห่งฝรั่งเศส พระราชธิดาคนสุดท้ายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส จึงมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่หนึ่งซึ่งอยู่ห่างกันหนึ่งขั้นของพระเจ้าหลุยส์ (พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ตาของมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญเป็นพระปัยกาของพระเจ้าหลุยส์) มาร์เกอรีตน่าจะเกิดในปี ค.ศ. 1290 จึงน่าจะมีอายุไล่เลี่ยกับพระเจ้าหลุยส์ การสมรสครั้งนี้ให้กำเนิดพระราชธิดาเพียงคนเดียว คือ ฌาน ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1311 โดยก่อนการสมรส หลุยส์มีธิดานอกสมรสอยู่แล้วหนึ่งคนนามว่าอาเดอลีน ซึ่งต่อมาได้บวชเป็นชีและเป็นพระอธิการิณีของคอนแวนต์กอร์เดอลีเยร์ในปารีส[2]
เดือนมีนาคม/เมษายน ค.ศ. 1314 ระหว่างการเสด็จเยือนปารีส พระราชินีอีซาแบล พระขนิษฐาของพระเจ้าหลุยส์ได้ให้ข้อมูลที่ทำให้มาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญถูกจับกุมตัวเนื่องจากต้องสงสัยว่ามีส่วนพัวพันในเหตุสัมพันธ์ชู้สาวตูร์เดอแนลและถูกตัดสินให้มีความผิดฐานคบชู้กับอัศวินฟีลิป ดูเนย์ ฌานและบล็องช์แห่งบูร์กอญ สองพี่น้องซึ่งเป็นชายาของฟีลิปและชาร์ลส์ พระอนุชาทั้งสองของพระเจ้าหลุยส์ก็ถูกจับกุมตัวเช่นกัน[3] มาร์เกอรีตกับบล็องช์ถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกคุมขังในป้อมปราการของชาโตแกยาร์ ขณะที่ฌานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้
กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสและการสมรสครั้งที่สอง
แก้วันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1314 พระเจ้าฟีลิป เลอ เบลเสด็จสวรรคต พระเจ้าหลุยส์ที่ 1 แห่งนาวาร์ขึ้นสืบทอดบัลลังก์ฝรั่งเศสเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 เลอ อูแต็งแห่งฝรั่งเศส โดยปล่อยให้มาร์เกอรีตผู้เป็นชายาถูกคุมขังต่อไปจนเธอถึงแก่กรรมในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1315 ที่ชาโตกียาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับการดูแลอย่างแย่ในระหว่างถูกคุมขังจนเป็นไข้และหนาวตาย แม้จะมีตำนานเล่าว่าเธอถูกฆ่ารัดคอตามคำสั่งของพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 ที่ต้องการจะสมรสใหม่[4]
วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1315 พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 สมรสครั้งที่สองกับเคลเม็นเชียแห่งฮังการี ลูกพี่ลูกน้องชั้นที่สามผู้เป็นธิดาของชาร์ลส์แห่งอ็องฌูหรือชาร์ลส์ มาร์เตล กษัตริยแห่งฮังการีโดยในนาม ทั้งยังเป็นญาติกับชาร์ลส์แห่งวาลัว พระปิตุลาและที่ปรึกษาผู้ทรงอำนาจของพระเจ้าหลุยส์ ในวันที่ 24 สิงหาคม พระเจ้าหลุยส์ได้เข้ารับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสพร้อมกับพระมเหสีคนใหม่ที่แร็งส์
การสวรรคตและการสืบทอดบัลลังก์
แก้พระเจ้าหลุยส์ครองราชย์เป็นกษัตริย์ฝรั่งเศสได้เพียงสิบแปดเดือน คือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1314 ถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1316 ทรงเสด็จสวรรคตในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1316 ที่บัวเดอแว็งเซียนด้วยพระชนมายุเพียง 26 พรรษาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่สันนิษฐานกันว่าพระองค์น่าจะเป็นไข้หรือติดชื้ออย่างฉับพลัน หรืออาจร้อนจัดเกินไปขณะกำลังเล่นฌูเดอโปมหรือเทนนิสยุคแรก หรืออาจดื่มไวน์เย็นจัดหลังเล่นฌูเดอโปมทั้งร้อนจัด หรืออาจถูกวางยาพิษ ร่างของพระองค์ถูกฝังที่สุสานหลวงของกษัตริย์ฝรั่งเศสในแซ็งต์-เดอนี โดยขณะนั้นพระราชินีเคลเม็นเชียกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือน หากทารกในครรภ์เป็นเพศชายจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสทันทีที่คลอด หลังการสวรรคตไม่นาน ฟีลิป เคานต์แห่งปัวติเยร์ พระอนุชาของพระเจ้าหลุยส์เดินทางจากลียงกลับมาปารีส ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1316 พระราชินีเคลเม็นเชียได้ให้กำเนิดพระโอรส คือ พระเจ้าฌ็องที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ทว่ากษัตริย์วัยทารกมีพระชนมายุได้เพียง 5 วัน ส่งผลให้เกิดวิกฤตการสืบทอดบัลลังก์ เนื่องจากผู้สิทธิ์ในลำดับถัดไปคือฌานแห่งนาวาร์ พระเชษฐภคินีต่างมารดาวัย 5 พรรษาของพระเจ้าฌ็อง มีชาวฝรั่งเศสเพียงไม่กี่คนที่ให้การสนับสนุนฌานร่วมกับแอนเญ็ส ดัชเชสม่ายแห่งบูร์กอญ ยายของฌานและอูเดที่ 5 ดยุคแห่งบูร์กอญซึ่งเป็นลุงของฌาน แต่ด้วยมาร์เกอรีตถูกตัดสินว่าคบชู้ จึงเกิดข้อสงสัยว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของฌาน แม้พระเจ้าหลุยส์ที่ 10 จะยอมรับบนเตียงสวรรคตว่าเธอคือธิดาของพระองค์ก็ตาม สุดท้ายฌานถูกริดรอนสิทธิ์ในฝรั่งเศสและนาวาร์ ฟีลิปแห่งปัวติเยร์ อาของเธอขึ้นเป็นกษัตริย์ของทั้งสองประเทศ ส่วนอูเด ลุงของเธอได้สมรสกับฌานแห่งฝรั่งเศส พระราชธิดาคนโตของพระเจ้าฟีลิป ฌานแห่งนาวาร์นั้นต่อมาได้สมรสกับฟีลิปแห่งเอเวรอ บุตรชายของหลุยส์ เคานต์แห่งเอเวรอซึ่งเป็นพี่น้องต่างมารดาของพระเจ้าฟีลิปที่ 4 ทั้งคู่จึงมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
พระเจ้าฟีลิปที่ 5 เสด็จสวรรคตในช่วงต้นปี ค.ศ. 1322 ด้วยพระชนมพรรษา 30 พรรษา โดยมีพระอนุชาขึ้นสืบทอดบัลลังก์เป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จสวรรคตในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1328 ด้วยพระชนมพรรษา 35 พรรษา ฌานแห่งเอเวรอ พระราชินีม่าย (ซึ่งเป็นพี่น้องของฟีลิปแห่งเอเวรอ) กำลังตั้งครรภ์และอีกสองเดือนต่อมาได้ให้กำเนิดพระราชธิดานามว่าบล็องช์ ซึ่งต่อมาได้เป็นดัชเชสแห่งออร์ลีอ็อง สามพี่น้อง (คือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 10, พระเจ้าฟีลิปที่ 5 และพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4) ไม่มีใครมีพระราชโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่ บัลลังก์ฝรั่งเศสจึงตกเป็นของฟีลิปแห่งวาลัว ลูกพี่ลูกน้องชั้นที่หนึ่งซึ่งเป็นบุตรชายของชาร์ลส์แห่งวาลัว พระอนุชาของพระเจ้าฟีลิปที่ 4 พระองค์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์วาลัวของฝรั่งเศส ทั้งนี้ฟีลิปแห่งวาลัวไม่มีสิทธิ์ในราชอาณาจักรนาวาร์เนื่องจากพระองค์ไม่ใช่ลูกหลานของพระราชินีนาถฌานที่ 1 ฌานแห่งนาวาร์ ธิดาวัย 16 ปีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 10 กับมาร์เกอรีตแห่งบูร์กอญจึงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีฌานที่ 2 แห่งนาวาร์
อ้างอิง
แก้- ↑ Britania.com, Kings of France
- ↑ 2.0 2.1 Genealogy Louis X of France on Medieval Lands website
- ↑ Jim Bradbury, The Capetians: Kings of France 987-1328 , (Hambledon Continuum, 2007), 277.
- ↑ Maurice Druon , cursed Kings: historical novel , The paperback, 1970-1977