พระองค์เจ้าขุนเณร

พระโอรสบุญธรรมในกรมพระเทพสุดาวดี

พระองค์เจ้าขุนเณร เป็นพระโอรสบุญธรรมใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นเจ้านายในพระราชวงศ์จักรี

พระองค์เจ้าขุนเณร
ประติมากรรมพระรูปพระองค์เจ้าขุนเณร ที่หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 จังหวัดกาญจนบุรี
ประสูติไม่ปรากฏ
อาณาจักรอยุธยา
สิ้นพระชนม์ไม่ปรากฏ
อาณาจักรรัตนโกสินทร์
ราชวงศ์จักรี (สถาปนา)
พระบิดาพระอินทรรักษา
พระมารดาอนุภริยาของพระอินทรรักษา
ศาสนาเถรวาท
อาชีพทหาร
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ไทย อาณาจักรรัตนโกสินทร์
แผนก/สังกัดกองทัพหลวง
ชั้นยศนายทัพ
หน่วยกองโจร
การยุทธ์สงครามเก้าทัพ
กบฏเจ้าอนุวงศ์

พระประวัติ

แก้

พระองค์เจ้าขุนเณรเป็นบุตรของพระอินทรรักษา (เสม) พระภัสดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี พระเชษฐภคินีเธอในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์เจ้าขุนเณร ทรงเป็นเจ้านายนอกพระราชวงศ์จักรี เพราะพระชาติประสูติของพระองค์นั้นเกิดกับหญิงสามัญ ซึ่งเป็นอนุภริยาในพระอินทรรักษา สำหรับพระองค์เจ้าขุนเณร นับว่าเป็นเจ้านายที่พระปรีชาการศึกสงครามพระองค์หนึ่ง ทรงประทับที่วังบ้านปูน แต่พระชีวประวัติเท่าที่สืบค้นมีน้อยมาก สิ้นพระชนม์ในสมัยรัชกาลที่ 3[1]

พระกรณียกิจ

แก้

พระองค์เจ้าขุนเณรทรงนำทัพในการรบที่สำคัญ มีดังนี้

พระกรณียกิจที่ปรากฏชัดเจนและมีความสำคัญยิ่งขึ้น คือ เหตุการณ์ในการทำสงครามกับพม่า ที่เรียกว่าสงครามเก้าทัพ ณ เมืองกาญจนบุรี ในปี พ.ศ. 2328 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์เจ้าขุนเณรได้รับหน้าที่เฉพาะกิจโดย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้ากองโจร[2] คอยทำลายกองเสบียงที่มาจากเมืองเมาะตะมะ ทวาย และตะนาวศรี พระองค์เจ้าขุนเณรใช้กองกำลังที่พระองค์ทรงฝึกเองเพียง 1800 คนเท่านั้น ที่จะต้องยันกองทัพพม่า ที่ยกมาเป็นจำนวนนับแสน ซึ่งในการปฏิบัติงานสำคัญ เป็นภารกิจเสี่ยงต่อภัยอันตรายตลอดเวลา ยากที่กำลังพลปกติทั่วไปจะกระทำได้สำเร็จ[3]

พระกรณียกิจครั้งสุดท้ายของพระเจ้าขุนเณร ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงทำการรบกับกองทัพเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ในฐานะกองโจร ในปี พ.ศ. 2369 ขณะพระองค์เจ้าขุนเณรมีพระชนมายุกว่า 60 พรรษา ทรงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายทัพกองโจรคุมกำลังกองโจร ซึ่งเป็นคนพม่า คนทวาย และเป็นนักโทษมาแล้ว จำนวน 500 คน ภายหลังให้ทหารเมืองนครราชสีมามารวมด้วยอีก 500 คน โดยให้พระณรงค์สงครามเป็นหัวหน้า[4]

พระอนุสรณ์

แก้

พระเกียรติยศ

แก้
ธรรมเนียมพระยศของ
พระองค์เจ้าขุนเณร
การทูลฝ่าพระบาท
การแทนตนเกล้ากระหม่อม/เกล้ากระหม่อมฉัน
การขานรับเกล้ากระหม่อม/เพคะ

พระอิสริยยศ

แก้
  • ไม่ปรากฏ : ขุนเณร
  • สมัยรัชกาลที่ 1 : พระองค์เจ้าขุนเณร

ในวัฒนธรรมสมัยนิยม

แก้

มีนักแสดงผู้รับบท พระองค์เจ้าขุนเณร ได้แก่

อ้างอิง

แก้

พระองค์เจ้าขุนเณร ผู้บัญชาการกองทัพนินจาของไทย[ลิงก์เสีย]

  1. กรมศิลปากร, สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. ราชสกุลวงศ์ เก็บถาวร 2017-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. พิมพ์ครั้งที่ 14. กรุงเทพฯ:สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. 2554, หน้า 183
  2. "วีรบุรุษผู้ถูกลืม!! จากสามัญชน สู่ เจ้านายในพระราชวงศ์จักรี เปิดประวัติ "พระองค์เจ้าขุนเณร" ปรมาจารย์การรบกองโจรแห่งสงครามเก้าทัพ !!". tnews. 17 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 2 สิงหาคม 2021.
  3. โรม บุนนาค (20 พฤศจิกายน 2017). "พระองค์เจ้าขุนเณร "ยอดนายทัพกองโจร" สมัย ร.๑-ร.๓! สร้างวีรกรรมมหัศจรรย์อย่างคาดไม่ถึง!!". mgronline. สืบค้นเมื่อ 2 สิงหาคม 2021.
  4. Comic Creation. พระองค์เจ้าขุนเณร. กรุงเทพ : E.Q. Plus, พ.ศ. 2553. 136 หน้า. หน้า หน้าที่ 106. ISBN 9789747444025
  5. การจัดตั้งค่ายขุนเณร