บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย

บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย (เยอรมัน: Brandenburg-Preußen, อังกฤษ: Brandenburg-Prussia) เป็นรัฐร่วมประมุขที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างดัชชีปรัสเซียและรัฐมาร์เกรฟบรันเดินบวร์คในปี ค.ศ. 1618

บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย

Brandenburg-Preußen
ค.ศ. 1618ค.ศ. 1701
ตราอาร์มรัฐมาร์คกราฟบรันเดินบวร์ค
Coat of arms of Ducal Prussia
สถานะรัฐร่วมประมุข
เมืองหลวงเบอร์ลิน และ
เคอนิกสแบร์ก
การปกครองราชรัฐ
ผู้คัดเลือก-ดยุก 
• ค.ศ. 1618–
    1619
โยฮันน์ ซีกิสมุนด์
• ค.ศ. 1619–
    1640
เกออร์ก วิลเฮล์ม
• ค.ศ. 1640–
    1688
ฟรีดริช วิลเฮล์ม
• ค.ศ. 1688–
    1701
ฟรีดริชที่ 3 (ฟรีดริชที่ 1)
ยุคประวัติศาสตร์จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
27 สิงหาคม ค.ศ. 1618
19 กันยายน ค.ศ. 1657
18 มกราคม ค.ศ. 1701
ก่อนหน้า
ถัดไป
Coat of arms of Brandenburg รัฐมาร์เกรฟบรันเดินบวร์ค
Coat of arms of Prussia ดัชชีปรัสเซีย
ราชอาณาจักรปรัสเซีย

รัฐนี้ปกครองโดยสาขาของราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นที่ก่อนหน้านั้นปกครองบรันเดินบวร์ค คำว่า "บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย" เป็นคำที่ใช้เรียกรัฐร่วมประมุขนี้มาจนถึงปี ค.ศ. 1701 หลังจากนั้นก็เป็นที่รู้จักกันว่าราชอาณาจักรปรัสเซีย นอกจากนั้นก็ยังหมายถึงรัฐที่นำโดยบรันเดินบวร์คหลังจากปี ค.ศ. 1701 แต่หลังจากนั้นก็รู้จักกันเพียงสั้นๆ ว่า "ปรัสเซีย" หลังจากปี ค.ศ. 1806

ประวัติ

แก้

รัฐมาร์เกรฟบรันเดินบวร์คเป็นศูนย์กลางของสาขาหลักของ ราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1415 ประมุขของรัฐมีตำแหน่งอันมีเกียรติเป็นเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1356

ดัชชีปรัสเซียก่อตั้งขึ้นโดยการสลายตัวของคณะอัศวินทิวทอนิกเป็นรัฐที่ขึ้นต่อราชอาณาจักรโปแลนด์ ปกครองโดยอัลเบรชท์ ดยุกแห่งปรัสเซียผู้เป็นสมาชิกของสาขาของราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์น หลังจากอัลเบรชท์เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1568 ราชอาณาจักรก็ตกไปเป็นของอัลเบรชท์ ฟรีดริชผู้ไม่ทรงสามารถปกครองอาณาจักรได้ ปรัสเซียจึงต้องปกครองโดยผู้สำเร็จราชการเกออร์ก ฟรีดริช ( ค.ศ. 1577–1603) และโยอาคิม ฟรีดริช (ค.ศ. 1603–1618)

เมื่อธิดาของอัลเบรชท์ ฟรีดิชสมรสกับโยฮันน์ ซีกิสมุนด์ บุตรของโยอาคิม ฟรีดริช และสาขาหลักของราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นในเบอร์ลินได้รับสิทธิในการครองดัชชี ผู้คัดเลือกแห่งบรันเดินบวร์คจึงได้รับดัชชีปรัสเซียเมื่ออัลเบรชท์ ฟรีดริชเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1618 แต่ดัชชียังคงมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชของราชบัลลังก์โปแลนด์มาจนถึงปี ค.ศ. 1657

ระหว่างรัชสมัยอันขาดสมรรถภาพของเกออร์ก วิลเฮล์ม (ค.ศ. 1619–1640) ราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นก็ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักระหว่างสงครามสามสิบปี สวีเดนบังคับให้เกออร์ก วิลเฮล์มเป็นพันธมิตร จากนั้นสวีเดนก็ยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของบรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย ซึ่งเป็นผลทำให้กองทัพโรมันคาทอลิกเข้าทำลายบรันเดินบวร์คและดินแดนของโฮเอ็นโซลเลิร์นครั้งแล้วครั้งเล่า ฟรีดิช วิลเฮล์มผู้ครองรัฐต่อจากกออร์ก วิลเฮล์ม ทำสัญญาสงบศึกกับสวีเดน แม้ว่าสวีเดนจะยึดครองดัชชีพอเมอเรเนีย แต่บรันเดินบวร์คมีสิทธิในการสืบครองหลังจากการเสียชีวิตของดยุกผู้ไม่มีทายาทโบกิสลอว์ที่ 14 ในปี ค.ศ. 1637 ฟรีดิช วิลเฮล์มไปเป็นพันธมิตรกับสาธารณรัฐดัตช์ ในปี ค.ศ. 1648 สนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลียและการสนับสนุนของดัตช์ทำให้ฟรีดริช วิลเฮล์มได้รับฟาร์เทอร์พอเมอเรเนีย รัฐมุขนายกฮัลเบอร์ชตัดท์ และราชรัฐมุขนายกมินเดิน และสิทธิในการสืบครองราชรัฐอัครมุขนายกมัคเดอบวร์ค การตกลงเรื่องเขตแดนพอเมอเรเนียกับสวีเดนก็มาสำเร็จลงด้วยการลงนามในสนธิสัญญาสเทททิน (ค.ศ. 1653) เมื่อมาถึง ค.ศ. 1680 ดินแดนเหล่านี้และรัฐมุขนายกคัมมินก็ได้รับการรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย

ในช่วงที่โปแลนด์มีปัญหากับสวีเดนระหว่างสงครามเหนือ (Northern Wars) ฟรีดิช วิลเฮล์มฉวยโอกาสขออิสรภาพแก่ปรัสเซียแก่บรันเดินบวร์คจากพระเจ้า Władysław IV Vasa แห่งโปแลนด์สนธิสัญญาเวห์เลาในปี ค.ศ. 1657 สิทธิของราชบัลลังก์โปแลนด์หมายความว่าดัชชีจะกลับไปเป็นของโปแลนด์ถ้าราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นสิ้นสุดลง ข้อแม้นี้ได้รับการต่ออายุทุกครั้งที่แต่ละประเทศเปลี่ยนประมุขมาจนถึงปี ค.ศ. 1700.

ในปี ค.ศ. 1675 พระเจ้าจอห์นที่ 3 โซบิเอสกีแห่งโปแลนด์ทำสัญญาลับกับฝรั่งเศส โดยโปแลนด์จะโจมตีปรัสเซียขณะที่ฝรั่งเศสสร้างความกดดันต่อจักรวรรดิออตโตมันให้คืนดินแดนให้แก่เครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย เมื่อความขัดแย้งกับออตโตมันสิ้นสุดลง โปแลนด์ก็สามารถโจมตีบรันเดินบวร์ค หรือออสเตรียศตรูของฝรั่งเศสได้ แต่แผนการของโซบิเอสกีได้รับการคัดค้านจากพระสันตะปาปา และจากชนชั้นนำของโปแลนด์เองที่เห็นว่าออตโตมันเป็นภัยมากกว่า และจากขุนนางโปแลนด์ที่ได้รับการติดสินบนจากเบอร์ลินและเวียนนา ฉะนั้นแผนของโซบิเอสกีจึงประสบความล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้ลงมือ[1]

การที่ที่ตั้งของดัชชีปรัสเซียตั้งอยู่ภายนอกจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ — ที่อาณาจักรที่อยู่ภายในด้วยกันไม่มีรัฐใดที่สามารถเรียกตนเองว่าเป็นกษัตริย์ได้นอกไปจากประมุขของโบฮีเมีย — ทำให้ฟรีดริชที่ 3 แห่งบรันเดินบวร์คกลายเป็น "กษัตริย์ในปรัสเซีย"ในปี ค.ศ. 1701 เป็นการแลกเปลี่ยนกับการให้ความช่วยเหลือต่อจักรพรรดิเลโอโพลด์ที่ 1 ในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน ซึ่งเป็นตัดขาดจากโปแลนด์ และเป็นกษัตริย์ปรัสเซียองค์แรกที่เป็นประมุขคนสุดท้ายของบรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย ผู้ตรัสภาษาโปแลนด์ได้อย่างคล่องแคล่ว ในปี ค.ศ. 1773 อดีตดัชชีก็ได้รับการจัดให้เป็นมณฑลอีสต์ปรัสเซีย ขณะที่ส่วนใหญ่ของมณฑลรอยัลปรัสเซียกลายเป็นเวสต์ปรัสเซีย ในปี ค.ศ. 1815 บรันเดินบวร์คก็ได้รับการจัดใหม่ให้เป็นมณฑลบรันเดินบวร์คของปรัสเซีย

อ้างอิง

แก้
  1. Alexander Gieysztor, Stefan Kieniewicz, Emanuel Rostworowski, Janusz Tazbir, and Henryk Wereszycki. History of Poland. PWN. Warsaw, 1979. ISBN 83-01-00392-8

ดูเพิ่ม

แก้