ฌอแอล อ็องเดร ฌอบ มาติป (ฝรั่งเศส: Joël André Job Matip; เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1991) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวแคเมอรูน โดยเขาเล่นในตำแหน่งกองหลัง เขาเคยเล่นให้แก่ชัลเคอ 04 ในบุนเดสลีกา และลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก

ฌอแอล มาติป
มาติปขณะเล่นให้กับลิเวอร์พูลใน ค.ศ. 2022
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฌอแอล อ็องเดร ฌอบ มาติป[1]
วันเกิด (1991-08-08) 8 สิงหาคม ค.ศ. 1991 (33 ปี)[2]
สถานที่เกิด โบคุม ประเทศเยอรมนี
ส่วนสูง 1.95 m (6 ft 5 in)[3]
ตำแหน่ง กองหลังตัวกลาง
สโมสรเยาวชน
1995–1997 เอ็สเซ ไวท์มาร์ 45
1997–2000 เฟาเอ็ฟเอ็ล โบคุม
2000–2009 ชัลเคอ 04
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2009–2011 ชัลเคอ 04 ที่ 2 4 (1)
2009–2016 ชัลเคอ 04 194 (17)
2016–2024 ลิเวอร์พูล 150 (9)
ทีมชาติ
2010–2015 แคเมอรูน 27 (1)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15:44, 3 ธันวาคม ค.ศ. 2023 (UTC)

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ.2024 มาติป ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 33 ปี หลังจากที่หมดสัญญากับลิเวอร์พูล ต้นสังกัดเดิมของเขา[4]

สโมสรอาชีพ

แก้

ชัลเคอ 04

แก้

ลิเวอร์พูล

แก้

ฤดูกาล 2016-17

แก้

ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 มาติปย้ายจากชัลเคอ 04 มาร่วมทีมลิเวอร์พูล เซ็นสัญญา 4 ปี โดยเขาจะหมดสัญญากับชัลเคอ 04 หลังจบฤดูกาล 2015-16[5]

ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 มาติปย้ายเข้ามาอยู่กับลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการ โดยมาติปสวมเสื้อหมายเลข 32[6] [7]

ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 2 มาติปลงเล่นนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบอร์ตันอัลเบียน 5-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 3 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[8] ต่อมา ในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2016 มาติปทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 4-2[9] จบฤดูกาล มาติปยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 1 ประตูจาก 29 นัด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ

ฤดูกาล 2017-18

แก้

ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-1[10]

ฤดูกาล 2018-19

แก้

ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2018 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[11] ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[12]

ฤดูกาล 2019-20

แก้

ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาติปทำประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วง 90 นาที ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษ 4-5 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ อย่างน่าเสียดาย ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[13] ต่อมา ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[14] ต่อมา ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2019 มาติปตัดสินใจต่อสัญญากับสโมสรลิเวอร์พูล ไปจนถึงปี 2024 จบฤดูกาล มาติปช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[15]

ฤดูกาล 2020-21

แก้

ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2020 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 4-0[16] ต่อมา มาติปได้รับบาดเจ็บหนัก ส่งผลให้ มาติปต้องพักยาวตลอดทั้งฤดูกาลแล้ว

ฤดูกาล 2021-22

แก้

ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด 6-0[17]

ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ[18] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 มาติปทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[19] ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[20] ต่อมา ในวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 มาติปทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-1[21] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[22]

ฤดูกาล 2022-23

แก้

ในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ สมัยที่ 16 ได้สำเร็จ[23] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2023 มาติปทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 2-1[24]

ฤดูกาล 2023-24

แก้

ในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2023 มาติปได้รับบาดเจ็บหนักที่ ACL หรือเส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 4-3 ส่งผลให้ มาติป ต้องปิดเทอมพักยาวตลอดทั้งฤดูกาลแล้ว ต่อมา ในวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 มาติปตัดสินใจจะไม่ต่อสัญญาใหม่ โดยจะย้ายออกจากลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาล 2023–24

สถิติอาชีพ

แก้

สโมสร

แก้
ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2023[25]
สโมสร ฤดูกาล ลีก เนชันนอลคัพ[a] ลีกคัพ[b] ยุโรป อื่น ๆ รวม
ดิวิชัน ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ชัลเคอ 04 ที่ 2 2009–10 Regionalliga West 3 1 3 1
2010–11 Regionalliga West 1 0 1 0
รวม 4 1 4 1
ชัลเคอ 04 2009–10 บุนเดิสลีกา 20 3 2 0 22 3
2010–11 บุนเดิสลีกา 26 0 4 0 11[c] 1 1[d] 0 42 1
2011–12 บุนเดิสลีกา 30 3 3 1 13[e] 1 1[d] 0 47 5
2012–13 บุนเดิสลีกา 32 3 1 0 6[c] 0 39 3
2013–14 บุนเดิสลีกา 31 3 3 0 8[c] 1 42 4
2014–15 บุนเดิสลีกา 21 2 1 1 3[c] 0 25 3
2015–16 บุนเดิสลีกา 34 3 2 0 5[e] 1 41 4
รวม 194 17 16 2 46 4 2 0 258 23
ลิเวอร์พูล 2016–17 พรีเมียร์ลีก 29 1 0 0 3 0 32 1
2017–18 พรีเมียร์ลีก 25 1 2 0 0 0 8[c] 0 35 1
2018–19 พรีเมียร์ลีก 22 1 0 0 1 0 8[c] 0 31 1
2019–20 พรีเมียร์ลีก 9 1 1 0 0 0 1[c] 0 2[f] 1 13 2
2020–21 พรีเมียร์ลีก 10 1 0 0 0 0 2[c] 0 0 0 12 1
2021–22 พรีเมียร์ลีก 31 3 1 0 4 0 7[c] 0 43 3
2022–23 พรีเมียร์ลีก 14 1 1 0 1 0 4[c] 1 1[g] 0 21 2
2023–24 พรีเมียร์ลีก 10 0 0 0 1 0 3[e] 0 14 0
รวม 150 9 5 0 10 0 33 1 3 1 201 11
รวมทั้งหมด 348 27 21 2 10 0 79 5 5 1 463 35
  1. รวมเดเอ็ฟเบ-โพคาล, เอฟเอคัพ
  2. รวมอีเอฟแอลคัพ
  3. 3.00 3.01 3.02 3.03 3.04 3.05 3.06 3.07 3.08 3.09 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  4. 4.0 4.1 ลงแข่งในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ
  5. 5.0 5.1 5.2 ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
  6. ลงเล่นและได้ประตูครั้งเดียวในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ ลงเล่นครั้งเดียวในยูฟ่าซูเปอร์คัพ
  7. ลงเล่นในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์

นานาชาติ

แก้
ข้อมูล:[26]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
แคเมอรูน 2010 6 0
2011 3 0
2012 4 0
2013 6 0
2014 7 1
2015 1 0
รวม 27 1
ประตูนานาชาติที่ฌอแอล มาติปทำได้
ลำดับ วันที่ สนาม Cap คู่แข่ง คะแนน ผล การแข่งขัน อ้างอิง
1 23 มิถุนายน ค.ศ. 2014 สนามกีฬาแห่งชาติมาแน การิงชา บราซิเลีย ประเทศบราซิล 26   บราซิล 1–1 1–4 ฟุตบอลโลก 2014 [27]

เกียรติประวัติ

แก้

สโมสร

แก้

ชัลเคอ 04

ลิเวอร์พูล

รางวัลส่วนตัว

  • PFA Player of the Month: กันยายน 2019[36]
  • Premier League Player of the Month: กุมภาพันธ์ 2022[37]
  • CAF Team of the Year: 2019[38]

อ้างอิง

แก้
  1. "Updated squad lists for 2022/23 Premier League". Premier League. 4 February 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2023. สืบค้นเมื่อ 11 February 2023.
  2. "Joël Matip: Overview". ESPN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 June 2021. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  3. "Joël Matip: Overview". Premier League. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 June 2021. สืบค้นเมื่อ 9 August 2022.
  4. ""มาติป" ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ในวัย 33 ปี". pptvhd36.com. 12 ตุลาคม 2024.
  5. สโมสรลิเวอร์พูลยืนยันการบรรลุข้อตกลงกับโจเอล มาติป[ลิงก์เสีย]
  6. โจเอล มาติป ย้ายร่วมทีมลิเวอร์พูลอย่างสมบูรณ์[ลิงก์เสีย]
  7. ยืนยันหมายเลขเสื้อของโจเอล มาติป[ลิงก์เสีย]
  8. "ลิเวอร์พูลยิง 5 ประตู พร้อมผ่านเข้ารอบต่อไปในถ้วยลีกคัพ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-28. สืบค้นเมื่อ 2016-11-02.
  9. "ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มในเกมสุดมันที่เซลเฮิร์ส พาร์ก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-02. สืบค้นเมื่อ 2016-10-31.
  10. ซาลาห์เหมาสองประตูในเกมลิเวอร์พูลถล่มเวสต์แฮม[ลิงก์เสีย]
  11. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะ 6 นัดรวดในพรีเมียร์ลีก หลังถล่มเซาท์แฮมป์ตันที่แอนฟิลด์
  12. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
  13. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี
  14. Match Report: ซาลาห์กดสองประตูให้ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซนอล 3-1
  15. อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  16. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มวูล์ฟส์ 4-0 ฉลองการกลับมาของแฟนบอลที่แอนฟิลด์
  17. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มลีดส์ขาดลอย 6-0 พร้อมจี้จ่าฝูง 3 แต้ม
  18. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์คาราบาว คัพ
  19. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกเฉือนแอสตัน วิลลา 2-1
  20. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
  21. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกคว้าชัยที่เซาท์แฮมป์ตัน
  22. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์
  23. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์
  24. Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1
  25. "J. Matip". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 4 August 2019.
  26. "Matip, Joël". National Football Teams. Benjamin Strack-Zimmermann. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  27. "Cameroon vs. Brazil 1–4: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  28. "DFB-Pokal 2010/11, Finale in Berlin: MSV Duisburg 0:5 FC Schalke 04: Takt. aufstellung" [DFB-Pokal 2010/11, Final in Berlin: MSV Duisburg 0:5 FC Schalke 04: Tactical lineup]. kicker (ภาษาเยอรมัน). Olympia-Verlag. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  29. "Supercup 2011, Finale: Borussia Dortmund 3:4 FC Schalke 04: Takt. aufstellung" [Supercup 2011, Final: Borussia Dortmund 3:4 FC Schalke 04: Tactical lineup]. kicker (ภาษาเยอรมัน). Olympia-Verlag. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  30. "Joel Matip: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 6 September 2020.
  31. McNulty, Phil (14 May 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 May 2022.
  32. McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
  33. McNulty, Phil (1 June 2019). "Tottenham Hotspur 0–2 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 June 2019.
  34. McNulty, Phil (28 May 2022). "Liverpool 0–1 Real Madrid: Reds beaten in Paris as Vinicius Jr hits winner". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 28 May 2022.
  35. Rose, Gary (14 August 2019). "Liverpool 2–2 Chelsea". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 15 August 2019.
  36. Carroll, James (7 October 2019). "Joel Matip named PFA Player of the Month for September". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 7 October 2019.
  37. "Matip wins EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 11 March 2022. สืบค้นเมื่อ 11 March 2022.
  38. "Mane, Oshoala named African Footballers of 2019 at CAF Awards". Confederation of African Football. 7 January 2020. สืบค้นเมื่อ 7 January 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้