จอร์จ เวอาห์
จอร์จ ทาวลอน มันเนห์ ออปปง อุสมาน เวอาห์ (อังกฤษ: George Tawlon Manneh Oppong Ousman Weah; เกิดวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1966) เป็นนักการเมืองและอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวไลบีเรีย เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไลบีเรียคนที่ 25 ตั้งแต่ ค.ศ. 2018 ถึง ค.ศ. 2024 ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เขาเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจากเทศมณฑลมอนต์เซอร์ราโด สำหรับอาชีพฟุตบอล เขาเคยเล่นในตำแหน่งกองหน้า โดยเริ่มเล่นในระดับอาชีพตั้งแต่อายุ 18 ปี จนกระทั่งเลิกเล่นใน ค.ศ. 2003[3] เขาเป็นนักฟุตบอลชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประมุขของรัฐ[4]
จอร์จ เวอาห์ | |
---|---|
ประธานาธิบดีไลบีเรีย คนที่ 25 | |
ดำรงตำแหน่ง 16 มกราคม ค.ศ. 2018 – 22 มกราคม ค.ศ. 2024 | |
รองประธานาธิบดี | จีเวล ฮาวเวิร์ด เทย์เลอร์ |
ก่อนหน้า | เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ |
ถัดไป | Joseph Boakai |
สมาชิกวุฒิสภา จากเทศมณฑลมอนต์เซอร์ราโด | |
ดำรงตำแหน่ง 14 มกราคม ค.ศ. 2015 – 16 มกราคม ค.ศ.2018 | |
ก่อนหน้า | จอยซ์ มูซู ฟรีแมน-ซูโม |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | จอร์จ ทาวลอน มันเนห์ ออปปง อุสมาน เวอาห์ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1966[1] มอนโรเวีย, ประเทศไลบีเรีย |
สัญชาติ | ไลบีเรีย ฝรั่งเศส |
พรรคการเมือง | Congress for Democratic Change |
คู่สมรส | Clar Weah (ชาวจาไมกา)[2] |
บุตร | 3, รวม จอร์จ |
ความสัมพันธ์ | Christopher Wreh (Cousin) |
ศิษย์เก่า | Parkwood University DeVry University |
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ตำแหน่ง | กองหน้าตัวเป้า | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1981–1984 | Young Survivors Claratown | ||
1984–1985 | Bongrange Company | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1985–1986 | Mighty Barrolle | 10 | (7) |
1986–1987 | Invincible Eleven | 23 | (24) |
1987 | Africa Sports | 2 | (1) |
1987–1988 | Tonnerre Yaoundé | 18 | (14) |
1988–1992 | มอนาโก | 103 | (47) |
1992–1995 | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งn | 96 | (32) |
1995–2000 | มิลาน | 114 | (46) |
2000 | → เชลซี (ยืมตัว) | 11 | (3) |
2000 | แมนเชสเตอร์ซิตี | 7 | (1) |
2000–2001 | มาร์แซย์ | 19 | (5) |
2001–2003 | Al Jazira | 8 | (13) |
รวม | 411 | (193) | |
ทีมชาติ | |||
1987–2003 | ไลบีเรีย | 60 | (22) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
หลังจากที่เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศบ้านเกิดอย่างไลบีเรีย เวอาห์ได้เล่นให้กับหลายสโมสรในฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษเป็นระยะเวลาถึง 14 ปี อาร์แซน แวงแกร์เป็นผู้ที่นำพาเขาไปเล่นฟุตบอลในยุโรป โดยเขาได้เซ็นสัญญากับมอนาโกของแวงแกร์ใน ค.ศ. 1988 เวอาห์ย้ายไปปารีแซ็ง-แฌร์แม็งใน ค.ศ. 1992 นอกจากเขาจะพาทีมชนะเลิศลีกเอิงใน ค.ศ. 1994 แล้ว เขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 1994–95 อีกด้วย ต่อมาเขาเซ็นสัญญากับเอซี มิลานใน ค.ศ. 1995 เขามีช่วงเวลาที่ดีกับสโมสรถึงสี่ฤดูกาล โดยเขาพามิลานชนะเลิศเซเรียอาได้ถึงสองสมัย[5] ต่อมาเขาได้ย้ายไปพรีเมียร์ลีก โดยได้เล่นให้กับเชลซี ซึ่งพาทีมชนะเลิศเอฟเอคัพ และยังได้เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี เขากลับเป็นฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อเล่นให้กับมาร์แซย์ใน ค.ศ. 2001 เขายุติอาชีพนักฟุตบอลกับอัลญะซีเราะฮ์ใน ค.ศ. 2003 โฟร์โฟร์ทู จัดอันดับให้เวอาห์เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่ไม่เคยชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก[6]
ในระดับทีมชาติ เวอาห์ได้เล่นให้กับไลบีเรียในแอฟริกาคัพออฟเนชันส์สองครั้ง เขาลงเล่นให้กับทีมชาติ 75 นัดและยิงได้ 18 ประตู เขากลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกครั้งในนัดกระชับมิตรเมื่อ ค.ศ. 2018 ซึ่งนั่นทำให้เสื้อหมายเลข 14 ถูกยกเลิก เขาได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดที่ไม่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลก[7][8]
เวอาห์ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นชาวแอฟริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยใน ค.ศ. 1995 เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าและยังได้รับรางวัลบาลงดอร์ ทำให้เขาเป็นผู้เล่นชาวแอฟริกันคนแรกและคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของแอฟริกาในปี 1989, 1994 และ 1995 และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของแอฟริกาแห่งศตวรรษในปี 1996 เขามีความโดดเด่นในด้านความเร่ง ความเร็ว และการเลี้ยงลูกบอล เช่นเดียวกันกับการยิงประตูและการจบสกอร์ ฟีฟ่าบรรยายถึงเวอาห์ว่าเป็น "ต้นแบบของกองหน้าสารพัดประโยชน์ในปัจจุบัน"[9] และใน ค.ศ. 2004 เปเล่ใส่ชื่อเวอาห์ในฟีฟ่า 100 ซึ่งเป็นรายชื่อของนักฟุตบอลที่ยังมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก[10]
เวอาห์เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองหลังจากที่เขาประกาศเลิกเล่น เขาก่อตั้งสภาเพื่อการเปลี่ยนแปลงอันเป็นประชาธิปไตย แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ต่อเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟในการเลือกตั้งปี 2005 ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2011 เขาล้มเหลวอีกครั้งในการรับเลือกเป็นรองประธานาธิบดีร่วมกับวินสตัน ทับแมน ต่อมาเวอาห์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาจากเทศมณฑลมอนต์เซอร์ราโดในการเลือกตั้งปี 2014 สุดท้ายแล้ว เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีไลบีเรียในการเลือกตั้งปี 2017 ด้วยเอาชนะรองประธานาธิบดีในตอนนั้นอย่างโจเซฟ โบไค[11][12] และเข้ารับพิธีปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2018[13]
กำเนิดและเริ่มต้นอาชีพการค้าแข้ง
แก้เวอาห์เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1966 ที่เมืองมอนโรเวีย ประเทศไลบีเรีย เขาเกิดมาในย่านสลัมของเมืองหลวงของประเทศกาฬทวีปแห่งนี้ ทำให้มีความยากจนข้นแค้นอย่างมาก แต่เขาเล่นฟุตบอลจนเตะตาสโมสรในไลบีเรียได้นำตัวเขามาร่วมทีมไมจ์ตี บาร์โรลล์ โดยกดไป 7 ประตูจาก 10 นัด จนได้เข้ามาร่วมทีมอินวินซิเบิล อิเลฟเว่น โดยกดไป 24 จากการลงเล่น 23 นัด จนได้เข้าร่วมทีมแอฟริกา สปอตส์ ถึงแม้จะลงเล่นแค่ 2 นัด แต่ก็ยิงได้ 1 ประตู ซึ่งถือว่าไม่น่าเกลียดนัก จึงได้เข้ามาร่วมทีมทอนเนอร์เร่ ยาอูนเดโดยยิงไป 14 ประตูจาก 18 นัดจนไปเตะตาอาร์แซน แวงแกร์ จนได้เข้าร่วมทีม โมนาโก และโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างมาก ทำให้เขาได้มาเล่นที่ปารีส แซ็ง-แชร์แม็ง และก็รักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ จนได้ย้ายไปสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน และนั่นทำให้เขาโชว์ฟอร์มที่เรียกได้ว่าสุดยอดมากขึ้นมา จนได้บัลลงดอร์เลยทีเดียว ก่อนบั้นปลายชีวิตจะย้ายไปร่วมทีมสโมสรฟุตบอลเชลซี,สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี,โอลิมปิกมาร์กเซย และ สโมสรฟุตบอลอัลจาซีรา ตามลำดับจนกระทั่งเลิกเล่นในปี 2003 หลังจากนั้นเขาก็เล่นการเมืองและลงเลือกตั้งในปี 2005 แต่แพ้ จนกระทั่ง 2017 เขาชนะการเลือกตั้งจนได้เป็นประธานาธิบดีของไลบีเรียได้สำเร็จ
เกียรติประวัติ
แก้สโมสร
แก้Mighty Barrolle
- ไลบีเรียนพรีเมียร์ลีก: 1985–86
- ไลบีเรียนคัพ: 1985–86
Invincible Eleven
- ไลบีเรียนพรีเมียร์ลีก: 1986–87
มอนาโก
- กุปเดอฟร็องส์: 1990–91
ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
- ลีกเอิง: 1993–94
- กุปเดอฟร็องส์: 1992–93, 1994–95
- กุบเดอลาลีก: 1994–95
เอซี มิลาน
เชลซี
- เอฟเอคัพ: 1999–2000
ทีมชาติ
แก้ไลบีเรีย
- CSSA Nations Cup รองชนะเลิศ: 1987[15]
รางวัลส่วนตัว
แก้- นักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปี: 1989, 1994, 1995[16]
- ฟีฟ่า XI: 1991, 1996 (ทีมสำรอง), 1997, 1998[17]
- ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมแห่งปีของเฟรนช์ดิวิชัน 1: 1990–91[18]
- ผู้ทำประตูสูงสุดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 1994–95[19]
- นักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปีโดยบีบีซี: 1995[20]
- Onze d'Or: 1995[21]
- บาลงดอร์: 1995[22]
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีโดยฟีฟ่า: 1995[23]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีโดยยูโรเปียนสปอตส์มีเดีย: 1995–96[24]
- Onze d'Argent: 1996[21]
- รางวัลแฟร์เพลย์โดยฟีฟ่า: 1996[25]
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีโดยฟีฟ่า – รองชนะเลิศ: 1996[23]
- IFFHS African Player of the Century: 1996[26]
- 100 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมตลอดกาลโดยเวิลด์ซอกเกอส์: 1999[27]
- ฟีฟ่า 100: 2004[28]
- Arthur Ashe Courage Award 2004[29]
- รางวัลตำนานรองเท้าทองคำ: 2005[30]
- หอเกียรติยศของเอซี มิลาน[14]
- ตำนานโดยสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ[31]
- จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยคุตติงตันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2018[32]
อ้างอิง
แก้- ↑ "FIFA Magazine – An idol for African footballers". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 July 2006. สืบค้นเมื่อ 6 December 2006.
- ↑ Mabande, Ben (4 October 2017). "Jamaican "First Lady" for Liberia Excites Jamaicans worldwide". Globe Afrique. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 29 December 2017./
- ↑ "George Weah: Ex-AC Milan, Chelsea & Man City striker elected Liberia president". BBC. 22 June 2018.
- ↑ "George Weah elected Liberian president". BBC News (29 December 2017). “Africa has now produced its first ex-footballer head of state”. Retrieved 13 November 2020
- ↑ "AC Milan Hall of Fame: George Weah". AC Milan. สืบค้นเมื่อ 9 December 2014.
- ↑ "The 25 best players never to win the Champions League. #19 Weah". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ 28 August 2018.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLA Times
- ↑ "Weah: Ballon d'Or put me and Liberia on the map". FIFA.com. 22 June 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-23. สืบค้นเมื่อ 2021-04-28.
Whenever football fans name the best players never to have played at the World Cup finals, Weah is one of the first to be mentioned.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อIconic Weah a true great
- ↑ "Pele's list of the greatest". BBC News. 4 March 2004. สืบค้นเมื่อ 15 June 2013.
- ↑ Liberia’s election threatens its fragile stability Financial Times, 8 April 2016
- ↑ "Weah maintains lead in Liberia election's early results". News24. Naspers. The Associated Press. 14 October 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-13. สืบค้นเมื่อ 13 September 2018.
- ↑ "Liberia: George Weah sworn in as president". Al Jazeera. Retrieved 22 March 2018
- ↑ 14.0 14.1 "A.C. Milan Hall of Fame: George Weah". acmilan.com. สืบค้นเมื่อ 1 April 2015.
- ↑ https://www.11v11.com/players/george-weah-106/
- ↑ "African Player of the Year". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. 5 January 2001. สืบค้นเมื่อ 9 January 2014.
- ↑ "Matches of FIFA XI". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 November 2015. สืบค้นเมื่อ 16 June 2016.
- ↑ "France – Footballer of the Year". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 September 2015. สืบค้นเมื่อ 16 June 2016.
- ↑ Roberto Di Maggio; Roberto Mamrud; Jarek Owsianski; Davide Rota (11 June 2015). "Champions Cup/Champions League Topscorers". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 22 December 2015.
- ↑ Piers Edwards (13 October 2015). "History of the BBC African Footballer of the Year award". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 9 March 2016.
- ↑ 21.0 21.1 José Luis Pierrend (6 March 2012). ""Onze Mondial" Awards: Onze de Onze 1976–2011". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 14 September 2015.
- ↑ Rob Moore; Karel Stokkermans (21 มกราคม 2011). "European Footballer of the Year ("Ballon d'Or")". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2009. สืบค้นเมื่อ 22 December 2015.
- ↑ 23.0 23.1 José Luis Pierrend (12 กุมภาพันธ์ 2015). "FIFA Awards". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2016. สืบค้นเมื่อ 5 January 2016.
- ↑ "ESM XI". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 February 2016. สืบค้นเมื่อ 13 April 2015.
- ↑ "FACTSheet FIFA awards" (PDF). FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 22 มกราคม 2016. สืบค้นเมื่อ 19 มกราคม 2016.
- ↑ "Africa – Player of the Century". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 9 March 2016.
- ↑ "World Soccer Players of the Century". World Soccer. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
- ↑ Christopher Davies (5 March 2004). "Pele open to ridicule over top hundred". The Telegraph. สืบค้นเมื่อ 13 April 2015.
- ↑ "The 2004 ESPY Awards – Weah selected for Arthur Ashe Courage Award". ESPN. สืบค้นเมื่อ 9 March 2016.
- ↑ "Legends". Golden Foot. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2015. สืบค้นเมื่อ 23 September 2015.
- ↑ "IFFHS announce the 48 football legend players". IFFHS. 25 January 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-16. สืบค้นเมื่อ 14 September 2016.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-07. สืบค้นเมื่อ 2021-04-29.