ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์
ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (เยอรมัน: Konzentrationslager Auschwitz) หรือ ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์-เบียร์เคอเนา (เยอรมัน: Konzentrationslager Auschwitz-Birkenau) เป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซีเยอรมนีที่ใช้การระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
เอาช์วิทซ์ | |
---|---|
ค่ายกักกันและค่ายมรณะของนาซี | |
บน: ประตูเข้าค่ายเอาช์วิทซ์ 1 มีป้าย "การทำงานนำมาซึ่งอิสรภาพ" (Arbeit macht frei)ล่าง: ซุ้มประตูเอาช์วิทซ์ 2-เบียร์เคอเนา, รางรถไฟ ซึ่งใช้การระหว่างเดือนพฤษภาคม–ตุลาคม 1944 ตรงเข้าห้องรมแก๊ส[1] | |
วิดีทัศน์ | Drone footage, 2015 |
ภาพ | Google Earth |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 50°02′09″N 19°10′42″E / 50.03583°N 19.17833°E |
ชื่อเยอรมัน | Konzentrationslager Auschwitz (ออกเสียง: [kɔntsɛntʁaˈtsi̯oːnsˌlaːɡɐ ˈʔaʊʃvɪts] ( ฟังเสียง)); also KL Auschwitz or KZ Auschwitz |
ชื่อโปแลนด์ | Obóz koncentracyjny Auschwitz |
เป็นที่รู้จักจาก | ฮอโลคอสต์ |
ที่ตั้ง | ประเทศโปแลนด์ที่ถูกเยอรมนียึดครอง |
ดำเนินการโดย | นาซีเยอรมนีและเอ็สเอ็ส |
ผบ. ประเดิม | รูด็อล์ฟ เฮิส |
การใช้งานสถานที่ก่อนหน้า | ค่ายทหาร |
เปิดใช้งาน | พฤษภาคม 1940 – มกราคม 1945 |
ผู้ถูกกักกัน | ส่วนใหญ่เป็นยิว โปแลนด์ โรมานี และเชลยศึกโซเวียต |
จำนวนผู้ถูกกักกัน | อย่างน้อย 1.3 ล้าน[2] |
เสียชีวิต | อย่างน้อย 1.1 ล้าน[2] |
ปลดปล่อยโดย | สหภาพโซเวียต, 27 มกราคม 1945 |
ผู้ถูกกักกันที่มีชื่อเสียง | อันเนอ ฟรังค์, อิมแร แกร์เตส, แมกซิมิเลียน คอลบี, เอดิท ชไตน์ ฯลฯ |
เว็บ | auschwitz |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | Auschwitz Birkenau, German Nazi Concentration and Extermination Camp (1940–1945) |
ประเภท | วัฒนธรรม |
เกณฑ์ | vi |
ขึ้นเมื่อ | 1979 (สมัยประชุมที่ 3) |
เลขอ้างอิง | 31 |
ภูมิภาค | ยุโรปและอเมริกาเหนือ |
ชื่อค่ายมาจากเมือง "ออชฟีแยญชิม" (Oświęcim) โดยหลังจากการบุกครองโปแลนด์ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 ออชฟีแยญชิมของโปแลนด์ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมนีและเปลี่ยนชื่อเป็นเอาช์วิทซ์ (Auschwitz) ซึ่งเป็นชื่อในภาษาเยอรมัน[3] ส่วนเบียร์เคอเนา (Birkenau) เป็นชื่อในภาษาเยอรมันที่แผลงมาจาก "บแชชิงกา" (Brzezinka, ต้นเบิร์ช) ซึ่งเป็นชื่อหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนักที่ต่อมาถูกเยอรมนีทำลายเกือบทั้งหมด
รูด็อล์ฟ เฮิส ผู้บัญชาการของค่าย ให้การในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์คว่าประชากรถึงราว 3 ล้านคนเสียชีวิตที่ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ แต่พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐเอาช์วิทซ์-เบียร์เคอเนาปรับตัวเลขเป็น 1.1 ล้านคน[4][5] ประมาณร้อยละ 90 ของผู้ถูกสังหารเป็นชาวยิวจากเกือบทุกประเทศในยุโรป[6] ผู้ประสบชะตากรรมเกือบทั้งหมดถูกสังหารในห้องรมแก๊สโดยใช้แก๊สซือโคลน เบ การเสียชีวิตอื่นมาจากความอดอยาก การบังคับใช้แรงงาน การขาดการดูแลทางสุขภาพ การถูกประหารชีวิตรายคน และ "การทดลองทางแพทย์"ตลอดระยะเวลามีการฆ่าทดลองชาวยิวเป็นจำนวนมาก
ในปี ค.ศ. 1947 เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิต โปแลนด์ก็ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ ณ ที่ตั้งของค่ายกักกันของสองค่าย วันปลดปล่อยค่ายกักกันเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1945 โดยกองทัพโซเวียต เป็นวันที่ระลึกของวันรำลึกฮอโลคอสต์ระหว่างประเทศ (International Holocaust Remembrance Day) ใน ค.ศ. 1979 ยูเนสโกยกให้เป็นแหล่งมรดกโลก
อ้างอิง
แก้- ↑ "The unloading ramps and selections". Auschwitz-Birkenau State. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2019.
- ↑ 2.0 2.1 Piper 2000b, p. 230.
- ↑ Up to then, there had been no special significance attached to the name; for example, "Duke of Auschwitz" was for centuries one of the minor titles held by the Habsburg Emperors, which at the time was completly innocuous and unimportant.
- ↑ Brian Harmon, John Drobnicki, Historical sources and the Auschwitz death toll estimates เก็บถาวร 2009-01-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Nizkor Project
- ↑ Piper, Franciszek & Meyer, Fritjof. "Die Zahl der Opfer von Auschwitz. Neue Erkentnisse durch neue Archivfunde" เก็บถาวร 2011-05-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Osteuropa, 52, Jg., 5/2002, pp. 631-641, (review article).
- ↑ Piper, Franciszek Piper. "The Number of Victims" in Gutman, Yisrael & Berenbaum, Michael. Anatomy of the Auschwitz Death Camp, Indiana University Press, 1994; this edition 1998, p. 62.