คริสโตเฟอร์ โรบิลลาร์ด มอร์เดตซกี (Christopher Robillard Mordetzky; เกิด 8 มกราคม ค.ศ. 1983)[7] นักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันที่รู้จักในนาม คริส มาสเตอส์ (Chris Masters) เจ้าของท่าไม้ตาย Masters Lock[1]

Chris Masters
ชื่อเกิดChristopher Todd Mordetzky
เกิด (1983-01-08) 8 มกราคม ค.ศ. 1983 (41 ปี)
Santa Monica, California, United States[1][2]
ที่พักCosta Mesa, California, United States
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนAmerican Adonis[3]
Chris Adonis[4]
Chris Masters[1]
Chris Mordetzky
Concrete[5]
ส่วนสูง6 ft 4 in (1.93 m)[6]
น้ำหนัก265 lb (120 kg)[6]
มาจากLos Angeles, California[1][2]
ฝึกหัดโดยRick Bassman
Ohio Valley Wrestling
Ultimate Pro Wrestling[2]
เปิดตัวAugust 15, 2002[1][2]

ประวัติ

แก้

Chris Masters เปิดตัวใน WWE ครั้งแรกใน RAW โดยแมตช์แรกของเขาเอาชนะ Stevie Richards ไปได้ด้วยท่า Master Lock อีกทั้งระหว่างแมตช์ Masters ยังทำให้ Richards จมูกแตก ด้วยท่า Polish Hammer หรือ ประสานมือทุบนั่นเอง จากนั้น Masters ก็ยังคงฟอร์มร้อนแรง เขาจัด Master Lock Challenge ขึ้น เป็นรายการที่ให้คนมาแก้ท่า Master Lock โดยผู้ที่แก้ท่าได้ เขาจะให้รางวัลเป็นเงินจำนวน $1000 ต่อมาในศึก Backlash 2005 Masters เอาชนะ Master Lock Challenge กับ Melissa Coates หลังจากนั้นทั้ง Val Venis, Sgt. Slaughter ก็ยังไม่สามารถแก้ท่าล็อกนี้ได้ และต่อมา Masters ก็มั่นใจสุดๆ หลังจากที่เขาเอาชนะ Rosey ได้ใน Raw วันที่ 18 กรกฎาคม 2005 เขาจึงเพิ่มเงินสำหรับผู้ชนะได้เป็น $20,000 ไปเลย เขายังได้ประกาศต่อไปอีก “ใหญ่กว่านี้ก็ไม่กลัวนะเว้ย” ทว่าผู้ที่ออกมากลับกลายเป็น Big Show ที่ออกมารับคำท้า Master Lock Challenge แต่ Masters กลับปฏิเสธคำท้าของ Show ใน RAW ระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม 2005 เขาเริ่มมาเปิดศึกกับทาง Shawn Michaels โดยมีแมชต์ Tag Team ระหว่าง Masters & Carlito เจอกับ Shawn & Ric Flair และเป็นฝั่งของ Masters ที่สามารถเอาชนะด้วยการทำ Flair Submission ได้ ทางด้าน Masters กับ Carlito จึงเริ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนเดียวกันขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาใน RAW วันที่ 5 กันยายน 2005 Shawn Michaels ได้ท้า Master Lock Challenge ซึ่ง Masters ล็อก แต่พอ Shawn จะแก้ล็อกได้ ก็เกิดหมั่นไส้ Shawn ขึ้นมา เพราะมันทนจริงๆ เลยผลัก Shawn ทิ้งไป และจัดการเอาเก้าอี้ตีเข้าให้ แล้ว Lock ใหม่จนชนะ ทั้งคู่จึงไปสะสางกันในศึก Unforgiven 2005 แต่ก็เป็น Shawn ที่เอาชนะไปได้ ต่อมาเริ่มเกิดเรื่องราวการปะทะระหว่างค่าย Smackdown และ RAW Masters เองก็เป็น 1 ใน 5 ของทีม RAW ในศึก Survivor Series 2005 ซึ่งในระหว่างแมชต์การปล้ำ 5 ต่อ 5 ตามประเพณีของ Survivor Series Bobby Lashly จากฝั่ง Smackdown สามารถแก้ท่า Master Lock ออกได้เป็นคนแรก และสุดท้ายก็เป็นทีม Smackdown ชนะไปได้ที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ต่อมา Masters ก็ได้ถูกผลักดันอย่างรุนแรง เขาได้ขึ้นชิงแชมป์ WWE ครั้งแรกใน RAW วันที่ 28 พฤศจิกายน 2005 ในแมชต์สามเส้าระหว่าง Masters, John Cena, Kurt Angle โดยในตอนนั้นทั้ง Masters กับ Angle ต่างก็มีท่า Submission ในขณะที่ตอนนั้น Cena ยังไม่มี และเป็น Masters ที่เกือบจะเอาชนะ Cena ได้ เพราะเขาสามารถใช้ท่า Master Lock จนกระทั่ง Cena หลับได้ ก่อนที่สุดท้าย Cena จะเปิดตัวท่าไม้ตาย Submission ใหม่อย่าง STF ใส่ Masters และยอมแพ้ไปในที่สุด

ในปี 2006 ก่อนที่จะถึงศึกใหญ่ประจำเดือนมกราคม ต้อนรับปีใหม่อย่าง New Year’s Revolution 2006 ได้ประกาศไว้ว่า Cena จะต้องป้องกันแชมป์ WWE กับชายอีก 5 คน ภายใต้กรงโหดอย่าง Elimination Chamber ทางด้าน Masters เองก็ได้เข้าร่วมด้วยการเอาชนะรอบคัดเลือกกับ Viscera ใน RAW วันที่ 12 ธันวาคม 2005 ผู้เข้าร่วมแมชต์ทั้งหมดได้แก่ World Tag Team Champion Kane, Carlito, Chris Masters, WWE Champion John Cena, Kurt Angle, Shawn Michaels โดย 3 สุดท้ายที่เหลือรอดคือ Cena, Masters, Carlito แต่น่าเสียดายเพราะทั้งๆที่ Masters กับ Carlito นั้นได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดในการที่จะกำจัด Cena ออกไปก่อน แล้วค่อยมาเล่นต่อทีหลัง ทว่าเป็น Carlito ที่หักหลัง Masters ในขณะที่ใช้ Master Lock ใส่ Cena ด้วยการล้วงที่จุดอ่อนของ Masters เลยแพ้ Cena ชวดแชมป์ไปทั้งคู่ถัดมาใน RAW วันที่ 9 มกราคม หลัง New Year’s Revolution 2006 Masters ไปโวยวายใส่ Carlito ฐานที่หักหลังตัวเขาในคืนที่ผ่านมา แต่ทั้งคู่กลับถูกสั่งให้ปล้ำ Tag Team เจอกับ Kurt Angle กับ Shawn Michaels แต่ในแมชต์ด้วยความที่ Shawn กับ Kurt ไม่ถูกกันเท่าไรในตอนนั้น Shawn เลยเดินกลับไปดื้อๆ ซะยังนั้น ทำให้ Masters ฉวยโอกาส Master Lock ใส่ Kurt จนได้รับชัยชนะ ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกันต่อไปได้ ในศึก Royal Rumble 2006 Carlito และ Masters ก็ได้เข้าร่วม และตกลงที่จะร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ในวันนั้นจริงหลังจากที่ทั้งคู่จัดการ Viscera ไปได้ Masters ทะลึ่งเบ่งกล้ามโชว์ Carlito เลยหักหลัง Masters ด้วยการเหวี่ยงจากข้างหลัง ทำให้ Masters ฝันสลายอดไปเป็นคู่เอก WrestleMania Masters จึงได้จับคู่กับ Carlito อีกครั้งชิงแชมป์ World Tag Team กับ Big Show & Kane ใน WrestleMania 22 เท่านั้น และก็ยังคงเป็น Big Show & Kane ที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้ ท้ายสุดทั้ง Carlito กับ Masters ก็แตกกันในที่สุด แต่กลับเป็นฝ่าย Carlito ที่ Turn Face ในเมื่อมีเรื่องกันก็ต้องรีบขาย ทั้งคู่มีแมชต์ต้องเจอกันใน Backlash 2006 เดือนถัดมา ทว่าเป็น Carlito ที่ชนะ Masters ซะยังงั้น หลังจากนั้นไม่นาน Masters ก็ถูกแบนเนื่องจากถูกตรวจพบว่าใช้สารสเตอร์รอยด์ หรือยาโดฟกล้าม หลังจากที่ Masters กลับมาก็ถูกกดบทบาทในทันที เขาปล้ำโดยเปิดศึกกับ Super Crazy อยู่ช่วงสั้นๆ ช่วงนึง และเป็น Masters ที่แพ้อีกด้วยส่งผลให้เขาคงวนเวียนอยู่ในลีกแชมป์ Intercontinental เท่านั้น เขาได้เข้าร่วมแมชต์ชิงแชมป์ใน Six-Pack Challenge แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ และชัยชนะแรกหลังจากที่เขากลับมาก็มาซักทีเมื่อเขาเอาชนะ Jerry Lawler ได้ใน RAW วันที่ 6 พฤศจิกายน 2006 โดยสัปดาห์ต่อๆ มา Jerry ก็แพ้ Master Lock Challenge แต่ท้ายที่สุด Jerry ก็เอาชนะ Masters ได้ ถัดมาใน RAW วันที่ 4 ธันวาคม 2006 Masters ได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์ WWE อีกครั้งกับ Cena แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ การแข่งครั้งนี้เดิมพันเข็มขัดด้วยการประลอง Master Lock Challenge แต่กลับกลายเป็น Masters ที่โดน Cena ใส่ Master Lock ซะเอง และยอมแพ้ไปในที่สุด จากนั้นบทบาทก็ไม่มีอะไรเลย

ในปี 2007 Masters ไปมีเรื่องกับคู่อริเก่าอย่าง Carlito อีกครั้ง ทั้งคู่มีแมตช์เจอกันใน New Year’s Revolution 2007 และ Masters ก็เอาชนะ Carlito ได้สำเร็จ และ Rematch ใน RAW คืนต่อมา Carlito ก็ชนะ Masters เป็นอันจบเรื่องจบราวสั้นๆ ใน RAW วันที่ 19 มีนาคม 2007 แชมป์ ECW Bobby Lashly ในตอนนั้นสามารถแก้ท่า Master Lock อีกครั้ง และชนะ Master Lock Challenge ไปจนได้ ต่อมาช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2007 แชมป์ Intercontinental ในตอนนั้นคือ Santino Marella Masters เองก็ขอท้าชิงแชมป์ Intercontinental แต่ตัวเขากลับแพ้ไป 4 แมชต์รวด โดยเขาเอาชนะ Santino ได้แค่ Master Lock Challenge เท่านั้น ต่อมา Masters ถูกดราฟท์ตัวมาอยู่ Smackdown พอเขามาถึงก็มีเรื่องกับ Chuck Palumbo ทันทีทันใด ทั้งคู่มีแมชต์เจอกันหลายครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะ ทว่าต่อมาไม่นาน Masters ก็โดนแบนรอบสอง เพราะไม่ผ่านการตรวจยาของ WWE กระทั่งพ้นโทษแบน และกลับมาใน Smackdown วันที่ 5 ตุลาคม 2007 ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2007 Masters ถูกตรวจพบว่าใช้สารสเตอร์รอยด์อีกแล้ว 6 วันต่อมา Masters จึงถูกไล่ออกจาก WWE

ในปี 2009 Masters กลับมา WWE อีกครั้งภายใต้แบรนด์ RAW ขึ้นปล้ำแมตช์แรกใน RAW วันที่ 27 กรกฎาคม 2009 โดยเจอกับ MVP ผลปรากฏว่าเป็น Double Count Out หลังแมชต์จัดการ Master Lock ใส่ MVP จนหลับ แต่อย่างไรก็ตามสัปดาห์ต่อมา MVP ก็เอาชนะคืนไปได้ กระทั่งช่วงเดือนพฤศจิกายน 2009 Masters ก็กลายมาเป็นฝ่ายธรรมะ โดยใน RAW วันที่ 2 พฤศจิกายน 2009 ในคอนเซปต์ “RAW’s Got Talent” Masters มาโชว์ความสามารถในการเด้งนมประกอบกับจังหวะเพลง ถัดมาใน RAW วันที่ 7 ธันวาคม 2009 Masters ได้เล่นบทพระเอกครั้งแรก โดยขึ้นมาช่วยเหลือ Hornswoggle ให้รอดพ้นจากน้ำมือของ Chavo Guerrero ใน RAW วันที่ 27 ธันวาคม 2007 Masters มีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์ US กับ The Miz และ MVP ใน Triple Threat Match แต่ก็ยังคงไปไม่ถึงฝันอยู่ดี ต่อมา Masters ก็ไม่มีบทอะไรเท่าไรในช่วงต้นปี 2010 เขาเพียงปล้ำแมตช์ธรรมดาๆเรื่อยๆ และก็หายไป

ในปี 2010 Masters กลับมาอีกครั้งในการดราฟท์รอบสองประจำปี 2010 Masters ถูกย้ายไป Smackdown อีกครั้ง โดยขึ้นปล้ำแมชต์แรกชนะ Chavo Guerrero และชนะ Caylen Croft ใน Master Lock Challenge ได้ หลังจากนั้น Trent Baretta ก็ขึ้นมาช่วยกันรุมเล่นงาน Masters เป็นอันเปิดศึกเล็กๆ สัปดาห์ต่อมาใน Smackdown ได้ร่วมแท็กทีมกับ MVP ชนะ The Dudebusters (Caylen Croft & Trent Baretta) ต่อมา Masters ลงไปเป็นขาประจำแห่งศึก WWE Superstars แต่ทว่าเขากับต้องมาเป็น Jobber ให้นักมวยปล้ำกระทืบเล่น เขาได้รับสถิติแพ้รวดติดต่อกัน เขามาปล้ำ Smackdown อีกครั้งวันที่ 9 กันยายน 2010 โดยจับคู่กับ Kofi Kingston แชมป์ Intercontinental ในตอนนั้นเอาชนะ Chavo และ Ziggler ไปได้ อีกทั้งยังเอาชนะ Vance Archer ใน Superstars อีกด้วย Masters ก็เริ่มกลับมามีบทดี โดยเขาได้เข้าร่วม Traditional Survivor Series Elimination Tag Team Match ใน Survivor Series 2010 Master ได้เข้าร่วมทีมของ Rey Mysterio ชนะทีมของ Alberto Del Rio ไปได้ ในปีต่อมา 2011 Masters ได้กลายเป็นเทพประจำศึก Superstars แต่ก็ยังคงเป็น Jobber ใน Smackdown เสมอๆ จนได้ย้ายไปอยู่ Raw แต่ก็ไม่ได้มีบทให้ขึ้นปล้ำเลยสักแมตช์เดียว ก่อนจะถูกไล่ออกจาก WWE อีกครั้ง และไปปล้ำตามสมาคมอิสระ[8]

แชมป์และรางวัล

แก้

ผลงานอื่นๆ

แก้
Title Role
Big Time Rush Himself

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "Chris Masters' Profile". Online World of Wrestling. สืบค้นเมื่อ 2007-10-09.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 "Chris Masters' Bio". Accelerator's Wrestling Rollercoaster. สืบค้นเมื่อ 2008-04-05.
  3. Kapur, Bob (2012-01-29). "A first, positive look at Ring ka King". Slam! Sports. Canadian Online Explorer. สืบค้นเมื่อ 2012-01-31.[ลิงก์เสีย]
  4. Henderson, Sam (2013-04-14). "Show results - 4/13 TCW in Ft. Smith, Ark.: Hoyt vs. Masters main event, "Cowboy" Bob Orton wrestles, more". Pro Wrestling Torch. สืบค้นเมื่อ 2013-04-14.
  5. Meltzer, Dave (October 24, 2011). "October 24 Wrestling Observer Newsletter: 2011 Hall of Fame issue, GSP down, Bound for Glory and Bobby Roode, Hogan vs. Sting, giant issue". Wrestling Observer Newsletter. Campbell, CA: 37. ISSN 1083-9593. Jeff Katz’s Wrestling Revolution Project taped its first season in Los Angeles this past week. [...] Kenny Omega, known as Scott Carpenter, was the star, with strong matches against Chris Masters (Known as Concrete) and Killshot (Karl Anderson).
  6. 6.0 6.1 "Chris Masters' WWE Alumni Profile". WWE. สืบค้นเมื่อ 2012-03-18.
  7. "California Births, 1905 - 1995". Family Tree Legends. สืบค้นเมื่อ 2009-08-10.
  8. 8.0 8.1 Duncan, Joseph (October 29, 2012). "Vendetta Pro Wrestling Heavyweight Championship title history". Vendetta Pro Wrestling. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-01. สืบค้นเมื่อ October 29, 2012.
  9. "AWO Heavyweight Championship history".
  10. Championship Of Wrestling [@WrestlingCow] (January 7, 2020). "Beim #cOw new years bash kehrt der interstate champion Chris Masters zurück! Durch seine Siegesserie hat sich Carnage einen Chance auf diesen Titel verdient" [The #cOw new years bash will see the return of interstate champion Chris Masters! Carnage's winning streak has earned him a shot at this title.] (ทวีต) (ภาษาเยอรมัน) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  11. "Ironman Heavymetalweight Title". Wrestling-Titles.com. สืบค้นเมื่อ 2016-08-29.
  12. "Stu Hart Heritage Championship". CageMatch.net. สืบค้นเมื่อ 4 November 2023.
  13. "NWA National Championship History".
  14. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Powell-2021
  15. Thompson, Andrew (January 31, 2023). "Team Rock N' Roll wins NWA Champions Series". POST Wrestling. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 3, 2023. สืบค้นเมื่อ March 7, 2023.
  16. Westcott, Brian. "NWA - National Wrestling Alliance NWA Ohio Valley Wrestling Southern Tag Team Title History". Solie. สืบค้นเมื่อ 2008-06-29.
  17. "PCW Championship « Titles Database « CAGEMATCH - The Internet Wrestling Database". Cagematch.net. สืบค้นเมื่อ 2016-04-27.
  18. "PCW Heavyweight Championship History — Preston City Wrestling". Prestoncitywrestling.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-24. สืบค้นเมื่อ 2016-04-27.
  19. "Road To Glory Tournament 2014 « Tournaments Database « CAGEMATCH - The Internet Wrestling Database". Cagematch.net. 2014-02-28. สืบค้นเมื่อ 2016-04-27.
  20. ""PWI 500": 101-200". Pro Wrestling Illustrated. 2010-07-08. สืบค้นเมื่อ 2010-07-31.
  21. "QPW Tag Team Championship History".
  22. "RCW Canadian Heavyweight Championship « Titles Database « CAGEMATCH - The Internet Wrestling Database". Cagematch.net. สืบค้นเมื่อ 2016-04-27.
  23. "FOTO: Chris Masters è il primo campione RWF!". Wrestlingitalia.it. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-31. สืบค้นเมื่อ 2016-04-27.
  24. "Fordland Event 02/09/2008". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 22, 2008. สืบค้นเมื่อ June 29, 2008.
  25. "WWC Results: Euphoria 2024 – Bayamon, Puerto Rico (1/20)". 21 January 2024.
  26. @WhoIsLM (2015-05-30). "@ChrisMasters310 winning the @Wrestle_Sport Heavyweight Championship tonight in Portland! #wrestlesport" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ 2016-04-27 – โดยทาง ทวิตเตอร์.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้